บทที่7.ปรั่นดีชั้นเยี่ยมจะไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย
ชายหนุ่มผลักบานประตูเข้าห้องมาอย่างเงียบๆ แม้รู้ดีว่าไร้ร่างเนียนนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงนอนของเขาแล้วก็ตาม
คานันเสยผมรองทรงของตนที่เริ่มยาวลงมาปรกหน้าอย่างเคยชิน พลางถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ไม่ใช่ภาระการงานที่แทบจะล้นมือหรอกที่ทำให้เขาเบื่อ แต่เพราะการนอนคนเดียวเป็นเวลานานต่างหากที่เพิ่มความเงียบเหงาในใจ ความจริงเขาควรจะเคยชินแล้วใช่ไหม? ทำไมมันยังไม่ชินอีกเล่า? แล้วทำไมเขาไม่หาผู้หญิงสักคนมาเคียงข้าง? ผู้หญิงคนเดียวหาไม่ยากหรอก
แต่คนที่ทำให้จิตใจเขาหวั่นไหวได้นี่ซิไม่รู้จะไม่หาที่ไหน
“นึกว่าจะทิ้งโน้ตไว้บ้างซะอีก” คานันพึมพำกับตัวเองพลางปลดเนกไทออกโยนไว้ที่โซฟาก่อนจะรินบรั่นดีให้ตนเอง แล้วมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน
ชายหนุ่มแห่งดินแดนทะเลทรายทราบจากพนักงานโรงแรมว่าเปรมวดีกลับไปตั้งแต่บ่ายโมงเศษเขาเองก็ไม่คิดว่าเธอจะกลับบ้านไหวเพราะเห็นอาการแย่มากขนาดนั้น
แต่การประชุมยืดเยื้อเกินกว่าจะปลีกตัวกลับมาให้เร็วอย่างใจคิดได้
อาจเป็นเพราะเขาไม่มีใครที่สนิทมากพอที่จะพูดคุยด้วยทุกครั้งที่มาเมืองไทยก็จะมีแต่เรื่องงานและงานเท่านั้น มือใหญ่ยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มหวังละลายม่านหมอกบางๆ ในใจ
แต่ราวกับว่าปรั่นดีชั้นเยี่ยมจะไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย ในสมองของเขากลับปรากฏรอยยิ้มสดใสและกิริยารื่นเริงของเปรมวดี เขาจำได้ดีในวันที่เขาขับรถไปรับหญิงสาวที่สนามบิน เปรมวดีมาในฐานะเพื่อนเจ้าสาว เพราะความอ่อนเพลียทำให้เปรมวดีหลับใหลในรถ เขาแทบกลั้นใจอยู่นาน เมื่อเห็นริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อยอย่างเย้ายวน หากดวงตากลมโตคู่นั้นไม่กะพริบตาขึ้นมาก่อน เขาคงได้ลิ้มลองความหวานช่ำจากเรียวปากเธอไปแล้ว
เวลาช่วงสั้นที่หญิงสาวมาบาฮาเนียนั้น เขาไม่ได้อยู่ดูแลเธอเหมือนเมื่อครั้งแรกที่เธอมาเยือน เพราะต้องจัดการงานต่างๆ แทนท่านราเฟย์ที่เตรียมตัวไปฮันนีมูน แต่เขาก็จดจำความสดใสราวกับดอกไม้ที่เบ่งบานท่ามกลางแสงตะวันที่แผดแสงแรงกล้าของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี และในขณะเดียวกันก็แสนซุกซนราวเด็กน้อย
คานันสะดุ้งเมื่อโทรศัพท์มือถือเครื่องบางเฉียบสั่นในอกเสื้อ เขาเห็นหมายเลขปลายทางที่คุ้นเคยแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ แม้อีกฝ่ายจะเป็นองค์รัชทายาท อะ! ไม่ซิ ตอนนี้เป็นกษัตริย์แล้ว แต่ความเป็นเพื่อนที่มีมายาวนานก็ทำให้บ่อยครั้งที่พูดคุยกันโดยไม่มีการแบ่งชนชั้น
“หลับหรือเปล่าคะ คุณคานัน”
“คุณอารยา...” คานันออกจะแปลกใจที่ได้ยินเสียงพระชายา “กระหม่อมยังมิได้หลับพระเจ้าข้า”
“ขอโทษที่มารบกวนนะคะ” ปลายสายเอ่ยอย่างเกรงใจเพราะเธอเอาโทรศัพท์ของราเฟย์มาใช้ “คือฉันขอยืมโทรศัพท์ราเฟย์มาใช้ค่ะ ถ้าใช้เบอร์อื่นกลัวคุณไม่รับสาย”
“กระหม่อมนมิกล้าทำเช่นนั้นกับพระชายาหรอกพระเจ้าข้า ต้องการใช้อะไรกระหม่อมหรือ?” คานันกลั้นหัวเราะในความขี้เกรงใจของเจ้านายคนที่สองของเขา
“ฉันฝากผ้าไหมบาฮาเนียนพับใหญ่มาให้แป๋มทางเครื่องบิน คุณคานันช่วยเอาไปให้เพื่อนฉันหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้พระเจ้าข้า ไม่ทราบว่าผ้าส่งมากับเครื่องบินลำไหน”
“ฉันส่งรายละเอียดไปให้ทางอีเมล์แล้วมีที่อยู่ยัยแป๋มด้วยคือ...มันเป็นเรื่องส่วนตัวฉันเลยไม่รู้จะไหว้วานใครนะค่ะ”
“พระชายาไม่ต้องเกรงใจกระหม่อมหรอกพระเจ้าข้า” คานันหัวเราะ “กระหม่อมยังต้องเคลียร์งานในเมืองไทยอีกสองสามวันจึงจะเรียบร้อย ถ้าอย่างไรเสร็จงานของท่านราเฟย์แล้วกระหม่อมจะจัดการนำของผ้าไปให้คุณแป๋มเอง”
“ขอบใจมาก ฮืม...เดี๋ยวฉันจะลองขอราเฟย์ให้เธอหยุดพักร้อนเที่ยวเมืองไทยดีไหม” อารยาหัวเราะคิกคัก
“การได้อยู่ไกลๆ ท่านราเฟย์ก็เหมือนกับกระหม่อมได้พักร้อนอยู่แล้วพระเจ้าข้า” เขาหัวเราะออกมาบ้าง เอ...จะบอกพระชายาดีไหมว่าเขาเพิ่งเจอคุณเปรมวดีเหมือนกัน?
“โอเค. ฉันไม่รบกวนคุณแล้ว ขอบคุณที่เป็นธุระให้นะ”
“รักษาพระวรกายด้วยพระเจ้าข้า”
“จ๊ะ”
