6
เยือนบ้านนายทหาร
หลังจากรถทหารมาถึงจุดหมาย พวกเขาพาซูเหยาลงจากรถและเดินตามหัวหน้าทหารเข้าไปในบ้านหลังใหญ่โต การตกแต่งภายในดูเรียบง่ายแต่เป็นวัสดุชั้นดีเกินกว่าที่ซูเหยาคาดคิดว่าจะได้พบแถบชนบทนี้ บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศของอำนาจ
หัวหน้าทหารพูดเพียงสั้นๆ ก่อนจะส่งเธอต่อให้คนรับใช้หญิงที่รออยู่ คนรับใช้รีบนำทางซูเหยาขึ้นบันไดไปยังห้องชั้นสองอย่างรวดเร็ว ซูเหยาตั้งใจระวังตัวตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบเข้ามาในบ้าน ยิ่งเธอก้าวเข้าใกล้ห้องบนชั้นสอง รังสีแห่งอำนาจก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น จนเธอรู้สึกได้ถึงการถูกกดข่มจากบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในห้องนั้น
เมื่อประตูห้องถูกเปิดออก ซูเหยาก้าวเข้ามา เธอก็สัมผัสได้ถึงรังสีบางอย่างทันที ภายในห้องมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ เขามองมาที่เธอด้วยสายตาที่นิ่งแต่เต็มไปด้วยพลังบางอย่างที่บ่งบอกถึงอำนาจ ชายผู้นี้หล่อเหลา คมเข้ม รูปร่างสูงใหญ่ ผิวเข้มแดด ดวงตาคมกริบแสดงออกถึงความแข็งแกร่งและเยือกเย็น เธอรับรู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา ใบหน้าเขาดูภูมิฐานและเต็มไปด้วยความเด็ดขาดต่างจากชายแก่ที่เคยพบก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
เมื่อซูเหยาสบตากับชายผู้นี้ ทั้งสองคนก็มองตากันอย่างไม่ยอมแพ้ มีบางสิ่งที่คุกกรุ่นอยู่ระหว่างพวกเขา แม้ว่าชายคนนั้นจะนิ่งเงียบ แต่รังสีอำนาจของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกกดดันตลอดเวลา เธอไม่ชอบความรู้สึกนี้เลย
สายตาของชายหนุ่มเหมือนกำลังวิเคราะห์เธอ ราวกับว่าเขากำลังประเมินเธอทุกกระเบียดนิ้ว อีกฝ่ายก็ดูนิ่งและเยือกเย็นเกินกว่าจะเผยอะไรออกมาชัดเจน
"คุณหลี่ซูเหยามาถึงแล้วครับ" นายทหารที่ตามมาด้านหลังเอ่ยขึ้นอย่างเป็นทางการ
ชายหนุ่มผู้นั้นไม่ตอบอะไรในทันทีแต่สอดส่ายสายตามองซูเหยาราวกับกำลังอ่านเธอจากภายใน ซูเหยารู้สึกถึงแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวเขา ชายคนนี้ต้องเป็นเจ้านายระดับสูงแน่ๆ และเธอก็เดาว่าเขาอาจเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ด้วยเช่นกัน
ทันใดนั้น สายตาของซูเหยาก็สะดุดเข้ากับเตียงนอนขนาดใหญ่ที่มุมห้อง บนเตียงนั้นมีเด็กหญิงตัวเล็กๆ นอนอยู่ ดูเหมือนจะป่วย ใบหน้าซีดเซียวแต่มีความน่ารักและบอบบาง เธอจำได้ทันทีว่านี่คือเด็กหญิงที่เธอเคยช่วยไว้ ซูเหยาเริ่มเข้าใจสถานการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มผู้ทรงอำนาจคนนี้คงเป็นพ่อของเด็กน้อย ดูเหมือนเขาจะเฝ้าดูแลลูกสาวตัวน้อยของเขาอย่างใกล้ชิด
ซูเหยานั่งครุ่นคิดกับตัวเองว่าทำไมพวกเขาถึงต้องพาเธอมาที่นี่ด้วย เด็กน้อยป่วยควรจะพาหมอมาเสียมากกว่าไม่ใช่หรือ แต่ในขณะที่เธอกำลังงุนงง หูของเธอก็ได้ยินเสียงแผ่วเบาจากเตียงนอนเด็กน้อย เสียงเด็กหญิงตัวเล็กที่ยังหลับอยู่ละเมอเรียกชื่อเธอออกมาอย่างชัดเจน
“ซูเหยา... พี่สาว... ซูหยะ...”
ซูเหยาตกตะลึงเล็กน้อยแต่ไม่แสดงออกมา เธอหันไปมองชายที่นั่งขรึมอยู่กลางห้องอย่างสื่อความหมาย แม้ว่าเขาจะไม่ได้เอ่ยปากอนุญาตตรงๆ แต่แววตาของเขาก็บ่งบอกว่าเขาเปิดทางให้เธอเข้าไปหาเด็กหญิงได้
ซูเหยาเดินเข้าไปหาเด็กน้อยช้าๆ มือบางของเธอสัมผัสแผ่วเบาที่หน้าผากเด็กน้อย น้ำเสียงอ่อนโยนของเธอปลอบประโลมอย่างเป็นธรรมชาติ ในชาติที่แล้วเธอเป็นเด็กกำพร้าแต่ก็มีน้องที่สนิทและเติบโตมาด้วยกัน เธอจึงรู้วิธีดูแลเด็กน้อยเป็นพิเศษ
"ไม่เป็นไรนะ พี่อยู่ตรงนี้แล้ว นอนหลับเถอะจ้ะ"
เด็กหญิงตัวเล็กคลอเคลียไปกับมือของซูเหยาอย่างสบายใจ ทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่ เธอขยับตัวเข้าใกล้ซูเหยาราวกับแมวที่รู้สึกปลอดภัยในอ้อมแขนเจ้าของ ปากเล็กๆ ของเด็กหญิงมีรอยยิ้มบางๆ ที่แสดงถึงความสุขใจ
ซูเหยาแอบประหลาดใจกับปฏิกิริยาของเด็กน้อยที่ดูเหมือนจะจดจำเธอได้จากเพียงแค่สัมผัส ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้รู้จักกับเด็กน้อยมาก่อนเลย แต่นี่ก็อาจจะเป็นสัญญาณอะไรบางอย่างเกี่ยวกับชะตาที่พวกเขามีร่วมกันเมื่อคืนที่แล้วก็เป็นได้
หานเว่ยเฉิง ชายหนุ่มที่นั่งนิ่งอยู่ในมุมห้อง เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด สายตาของเขาไม่แสดงอารมณ์ออกมาเลย แต่ความเงียบของเขากลับมีพลังบางอย่างที่ทำให้ซูเหยารู้ว่าเขากำลังจับตาดูเธออย่างใกล้ชิด เขามองเห็นทุกสัมผัสและการปลอบโยนของเธอที่ทำให้ลูกสาวของเขาสงบลงและหลับอย่างเป็นสุข
เมื่อเด็กน้อยหลับสนิท หานเว่ยเฉิงจึงเอ่ยขึ้นเสียงนิ่งออกมา
“ตามฉันมา”
เขาพูดเพียงสั้นๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปยังประตูทางออกจากห้อง
ซูเหยาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตามเขาไป ซึ่งตลอดเวลาที่เธออยู่ตรงหน้านี้เธอไม่ได้แสดงความกลัวเหมือนคนอื่นๆ ที่เคยยืนต่อหน้าเขาเลย ความเยือกเย็นและนิ่งเฉยของเธอกลับทำให้หานเว่ยเฉิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขาคงชินกับการที่ผู้คนหวาดกลัวอำนาจของเขา แต่ซูเหยาดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงแรงกดดันนั้น
ทั้งสองเดินมาถึงห้องอีกห้องหนึ่งที่กว้างใหญ่ หานเว่ยเฉิงเปิดประตูและให้ซูเหยาก้าวเข้าไปก่อน แล้วเขาจึงตามเข้ามาในห้อง เธอรู้สึกได้ว่าบรรยากาศในห้องนี้เต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและแรงกดดันที่มากกว่าเดิม
เขานั่งลงที่โต๊ะทำงานซึ่งใหญ่และดูน่าเกรงขาม มองตรงไปที่เธอด้วยแววตาเย็นเยือก ซูเหยานั่งตรงข้ามเขา สายตาของทั้งคู่จ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ฉันจะจ้างเธอให้มาดูแลลูกของฉันจนกว่าเธอจะหายดี ต้องการเงินเท่าไหร่ก็ว่ามา ไว้ให้ลูกน้องของฉันจัดการกับรายละเอียดการจ่ายเงินให้ทีหลัง”
