บท
ตั้งค่า

3

การดูตัวสุดหรรษา

ในบริเวณห้องรับแขกที่อยู่ด้านหน้าของบ้านหลี่ หลังคาบ้านยังคงมีร่องรอยของน้ำฝนหยดลงมาจากเมื่อคืน แต่มุมนี้ถูกจัดไว้อย่างดี มีโซฟาไม้เก่า ๆ และโต๊ะไม้เตี้ยที่ถูกเช็ดจนเงาวับ ด้านหน้ามีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ เขาเป็นชายวัยราว ๆ ห้าสิบปี สวมเสื้อผ้าดูภูมิฐาน แม้จะอยู่ในบ้านชนบทแต่ยังคงรักษาลุคของตนไว้ได้เป็นอย่างดี ดวงตาของเขาดูเจ้าเล่ห์และเฉื่อยชา มีท่าทางผ่อนคลายแต่แฝงไปด้วยความกักขฬะของผู้มีอำนาจ ส่วนอีกสองคนที่นั่งถัดไปก็ไม่ต่างกัน ทั้งสามคนมีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปี ทุกคนใส่เสื้อผ้าที่ดูสะอาดสะอ้านเกินกว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดา แต่ท่าทางของพวกเขากลับมีบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล

แม่จางเดินไปเดินมาอย่างเร่งรีบ คอยเสิร์ฟน้ำชาและผลไม้ใส่ถาดไม้ใบเล็ก ๆ อย่างกระวนกระวาย ขณะที่พ่อหลี่นั่งคุยอยู่กับแขกด้วยท่าทางสบาย ๆ และเว่ยจงนั่งอยู่ข้าง ๆ พยักหน้าเห็นด้วยกับทุกอย่างที่พ่อพูด พวกเขาต่างทำหน้าที่ต้อนรับแขกผู้มีอำนาจเหล่านี้อย่างเต็มที่

หนึ่งในชายชราที่นั่งอยู่นั้น ดูท่าทางเริ่มหมดความอดทน ใบหน้าของเขาแสดงความหงุดหงิดออกมาเล็กน้อย เขาเริ่มมองไปรอบ ๆ บ้านอย่างไม่พอใจ และในที่สุดก็ตัดสินใจเปิดปากถามด้วยเสียงที่แหบและดัง

“ไหนล่ะ ลูกสาวของคุณ ทำไมยังไม่เห็นออกมาเสียที?”

แม่จางที่กำลังวุ่นกับการเสิร์ฟน้ำชา หันมาเผชิญกับคำถามนั้นทันที ใบหน้าของเธอตึงเครียดขึ้นมาชั่วขณะ ก่อนจะรีบยิ้มแห้ง ๆ

“อ้อ... ค่ะ ๆ เดี๋ยวก็ออกมาแล้วค่ะ ซูเหยาเธอกำลังเตรียมตัวอยู่ เพิ่งจะล้างหน้าล้างตาเสร็จ ขอเวลาอีกสักครู่ค่ะ”

เธอแก้ตัวไปอย่างเร่งรีบ ก่อนจะหันไปส่งสัญญาณให้

หลิวหลิงที่นั่งว่างอยู่ไกล ๆ และทำหน้าบึ้งตึงมาตลอดทั้งงาน

หลิวหลิงแม้จะไม่พอใจที่ต้องทนอยู่ในสถานการณ์นี้ แต่เมื่อเห็นแม่จางส่งสายตาดุมา เธอก็จำใจลุกขึ้นจากที่นั่ง และเดินหมุนตัวไปทางหลังบ้านเพื่อจะตามซูเหยา แม้ใจจริงจะไม่เต็มใจก็ตาม

แต่ยังไม่ทันที่หลิวหลิงจะไปถึงประตู ก็มีเสียงฝีเท้าก้าวออกมาจากห้อง ซูเหยาเดินออกมาจากประตูทางด้านหลังด้วยตัวเอง แสงแดดยามสายส่องทะลุเข้ามาทางหน้าต่างบ้าน สะท้อนบนชุดกี่เพ้าสีสดใสที่เธอสวมอยู่ รูปทรงของชุดยิ่งเน้นรูปร่างของเธอให้โดดเด่น ผิวขาวนวลเนียน ตัดกับลายดอกไม้บนชุด กี่เพ้าที่สวมแนบชิดกับร่างทำให้เห็นอกเป็นอก เอวเป็นเอว

ซูเหยาเดินเข้ามาในห้องรับแขกอย่างสง่างาม ท่ามกลางสายตาของทุกคนในห้องที่หันมามองเธอด้วยความตกตะลึง พ่อหลี่กับเว่ยจงไม่เอ่ยปากอะไร เพราะนี่เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ ส่วนแม่จางนั้นพยายามกลั้นรอยยิ้มออกมาอย่างพอใจ ส่วนแขกผู้ชายที่นั่งอยู่ก็ยิ่งแสดงความสนใจอย่างเปิดเผย

หลิวหลิงที่เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็หยุดชะงักทันที ดวงตาแสดงออกถึงความไม่พอใจ แต่เธอทำอะไรไม่ได้ นอกจากยืนมองอย่างเคืองแค้น ซึ่งเธอมักเป็นอยู่เสมอยามต้องออกไปข้างนอกกับน้องสาวของสามีที่รูปร่างงดงามโดดเด่นเช่นนี้

ซูเหยาเองที่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้องรับแขก เธอตระหนักถึงสถานการณ์ที่เธอกำลังเผชิญอยู่ตั้งแต่แอบมองอยู่ข้างหลังมาสักพักแล้ว ดวงตาคมของเธอสำรวจไปยังผู้ชายชราคนหนึ่งที่มองเธออย่างไม่ปิดบังความคิดต่ำทรามในหัว ส่วนอีกสองคนที่เหลือก็ไม่ต่างกันมากนัก ทั้งสามคนดูเหมือนกำลังรอคอยอะไรบางอย่างจากเธออย่างอดทน แต่ซูเหยาที่ชินกับการวิเคราะห์และคาดการณ์สถานการณ์รู้ดีว่าจุดประสงค์ของสายตาสำรวจนั่นก็ล้วนเป็นหนึ่งเดียว

“นี่คือ...ซูเหยาใช่ไหม?” ชายชราคนแรกเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์

“ใช่ค่ะ” แม่จางรีบตอบทันที ก่อนจะหันไปยิ้มให้แขกด้วยท่าทางอ่อนน้อมเป็นพิเศษ

ซูเหยาถูกพ่อหลี่เดินมาจับมือพามานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับแขกเหล่านั้น เธอเฝ้าดูท่าทีของพวกเขาเงียบ ๆ ขณะเดียวกัน สายตาของพวกเขาจ้องมองร่างกายของเธออย่างไม่ปิดบัง ทั้งสามนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความต้องการ มือของชายคนหนึ่งลูบเคราขาวของเขา ขณะที่อีกสองคนหัวเราะคิกคักเบาๆ ในคอ ดวงตาที่วาววับอย่างโลมเลียไม่สนใจกฎเกณฑ์หรือมารยาทใดๆ แม้แต่น้อย

พ่อหลี่และแม่จางพยายามทำให้บรรยากาศดูเป็นปกติ แต่ภายในบ้านกลับอบอวลไปด้วยความอึดอัด ครอบครัวหลี่คงหวังให้เธอยอมรับชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้แล้วโดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ อย่างที่ร่างนี้เคยทำมาก่อน

แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป...

ซูเหยานั่งนิ่ง ประเมินสถานการณ์ในหัวอย่างรวดเร็ว

ชายชราคนหนึ่งหันไปกระซิบกับเว่ยจงเบา ๆ ว่า “น้องสาวคุณ... ดูสวยกว่าที่ฉันได้ยินมาอีกนะ”

เว่ยจงหัวเราะกลบเกลื่อนอย่างสมใจ “คุณก็ช่างพูดเกินไปแล้ว เธอก็แค่สาวบ้านนอกธรรมดา ขี้อายไปหน่อย แต่รับรองว่าเชื่อฟังดี คุณท่านจะไม่ผิดหวังครับ”

ซูเหยาฟังแล้วอดที่จะยิ้มเยาะในใจไม่ได้ สายตาของเธอแวบไปเห็นชาร้อนที่อยู่บนโต๊ะ เธอยกแก้วขึ้นมา จิบเบาๆ ก่อนจะวางลงอย่างนิ่งสงบ แต่สายตานั้นสาดส่องประเมินท่าทีของแต่ละคน

“เริ่มการเจรจาที่พวกคุณอยากได้เพื่อแลกเปลี่ยนเถอะ”

ชายหนึ่งคนในนั้นเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบื่อหน่าย มือของเขาลูบแหวนหยกบนมืออย่างอดรนทนไม่ไหว พวกเขาต่างก็ได้รับจดหมายจากครอบครัวหลี่เชิญให้มาดูลูกสาวที่เอ่ยบรรยายไว้ว่างดงามนักหนา ยังดีที่พอเห็นตัวจริงแล้วก็เป็นเกินหวังเสียอีก ความไม่พอใจก่อนหน้าจึงมลายไปหมดแล้ว

ซูเหยาหันมองเขาอย่างเฉยเมย เธอคิดว่าที่ให้เธอแต่งตัวสวยงามก็เพราะให้มาดูตัวแต่ใครจะคิดว่ามีคนมาดูตัวเอถึงสามคน ทำราวกับว่าเธอคือสินค้าที่รอคอยคนมาประมูลอย่างไรอย่างนั้น เธอไม่รอให้คนในสกุลหลี่เอ่ยตอบกลับก็เป็นคนเริ่มเอ่ยเสียงเย็นทันที

“พวกคุณคงคาดหวังว่า ฉันจะเต็มใจเป็นผู้หญิงของคนแก่ใกล้ลาโลกแล้วอีกทั้งยังเป็นผู้หญิงที่ว่าง่ายเชื่อฟัง ยอมทำทุกอย่างตามที่พวกคุณต้องการสินะ?”

เธอเดาว่าพวกเขาที่ดูมีอำนาจพอตัวคงเอาเธอไปเป็นภรรยาน้อยหรือไม่ก็ภรรยาเก็บแน่ๆนอน ซึ่งผู้หญิงในตำแหน่งนี้นอกจากจะสวยต้องตาต้องใจแล้วต้องมีคุณสมบัติว่านอนสอนง่ายด้วยถึงจะไม่สร้างปัญหาให้พวกเขาในภายหลัง ซึ่งหากเป็นซูเหยาคนก่อนก็คงมีนิสัยแบบนั้นแหละแต่นี่เธอคือซูเหยาคนใหม่แล้ว บ้านหลี่ไม่มีสิทธิ์มาบังคับเธอ

ซึ่งคำพูดที่คาดไม่ถึงของซูเหยาได้ทำให้ทุกคนในห้องหยุดชะงัก รวมถึงพ่อหลี่ แม่จาง และเว่ยจงที่ต่างตาค้างด้วยความตกใจ ไม่คาดคิดว่าซูเหยาจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา

ชายชราทั้งสามคนหันมองหน้ากันอย่างงุนงง ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะยิ้มมุมปากแล้วตอบกลับ

“ใช่... แน่นอนสิ ก็เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่หรอ นายหลี่”

คนถูกถามหน้าซีดอ้าปากจะเอ่ยตอบแต่ก็ถูกเสียงดังฟังชัดของซูเหยาขัดอีกครั้ง เธอหัวเราะแผ่วเบา ดวงตาที่เคยดูใสซื่อของเธอตอนนี้กลับฉายแววเฉียบคมอย่างที่พวกสกุลหลี่ไม่เคยเห็นมาก่อน

“อา เป็นเช่นนั้นเองหรือ แต่ฉันคงทำให้พวกคุณผิดหวังแล้วล่ะ เพราะฉันไม่ใช่คนแบบนั้นเลยสักนิด”

บรรยากาศในห้องเงียบลงทันที แน่นอนว่าคำพูดอย่างคนไม่ยินยอมของเธอก็แสดงออกชัดแล้วว่าเธอมีนิสัยไม่เป็นอย่างที่บ้านหลี่เอ่ยไว้ในจดหมาย พ่อหลี่อ้าปากพะงาบ ๆ จะพูดอะไรบางอย่าง แต่เหมือนเสียงติดอยู่ในลำคอ ส่วนแม่จางก็หน้าแดงด้วยความโกรธปนตกใจ สายตาของพวกเขาต่างส่งสัญญาณว่าซูเหยาควรจะเงียบและเชื่อฟัง แต่เธอหาได้สนใจไม่

นอกจากจะแสดงออกว่านิสัยของเธอเป็นอย่างไรให้พวกเขาขยาดแล้วเธอต้องทำให้พวกตาแก่มากอำนาจอยากกินเด็กสาวรู้สึกรับไม่ได้ยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งจุดอ่อนของคนที่มีอำนาจมากก็คือพวกเขาไม่อาจถูกหยามศักดิ์ศรีจากคนที่ต่ำกว่าได้!

ซูเหยาลุกขึ้นยืน ดวงตาสบเข้ากับชายแก่คนที่นั่งตรงหน้าเธอ

“ฉันอาจจะเป็นผู้หญิงจากบ้านชนบท แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องยอมเป็นของเล่นของพวกคุณ คุณคิดว่าผู้หญิงอย่างฉันเหมาะจะอยู่ใต้เท้าของพวกคุณหรือ?”

ชายแก่ที่นั่งอยู่หน้าซูเหยาถึงกับสำลักน้ำชา เขาโกรธจัดจนหน้าขึ้นสี

“นังเด็กนี่! หล่อนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลยสักนิด หล่อนรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร!”

ซูเหยายิ้มบางๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้เพิ่มขึ้นอีก ชายแก่คนนั้นที่ตอนแรกดูจะเหนือกว่า กลับเอนกายถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

“ฉันไม่สนหรอกว่าพวกคุณจะเป็นใคร แต่ฉันรู้แน่ๆ ว่า คนอายุมากอย่างพวกคุณไม่คู่ควรกับฉัน”

น้ำเสียงของซูเหยานิ่งแต่แฝงไปด้วยความมั่นใจ

สีหน้าและการกระทำของเธอทำให้ชายอีกคนทุบโต๊ะดังสนั่น พ่อหลี่กับเว่ยจงหน้าซีดเผือดฉับพลัน ส่วนแม่จางก็แทบล้มทั้งยืนจนต้องหาที่เกาะไม่ให้ล้มลงกับพื้น

“นังหนูนี่... คิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงกล้ามาพูดแบบนี้กับพวกฉัน?”

“ฉันก็เป็นคนที่รู้ว่าตัวเองมีค่าเกินกว่าจะยอมให้พวกคุณซื้อมาขายเหมือนฉันเป็นสินค้า” ซูเหยาหันไปมองหน้าพ่อและพี่ชายของเธอ “พวกคุณนึกว่าจะบีบฉันให้ยอมแต่งงานกับตาแก่ใกล้ถูกดินกลบหน้าหรือ? คิดผิดแล้วล่ะ”

ในใจซูเหยารู้ว่า ร่างเดิมของเธออาจจะถูกบังคับให้แต่งงานกับชายชราเหล่านี้เพื่อผลประโยชน์ของครอบครัว แต่ตอนนี้เธอคือสายลับจากศตวรรษที่ 21 ที่ไม่ยอมให้ใครมากดขี่ เธอรู้ว่าต้องใช้จังหวะนี้เพื่อทำลายแผนการทั้งหมดพร้อมทั้งแก้แค้นแทนซูเหยาคนเก่าที่ตายไปทั้งที่ได้รับความไม่เป็นธรรมจากครอบครัวของเธอ

แขกผู้ใหญ่ทั้งสามคนอึ้งไปกับคำพูดของซูเหยา จนเป็นชายแก่สุดลุกขึ้นอย่างเดือดดาล ชี้หน้าคนสกุลหลี่พร้อมพูดอย่างฉุนเฉียว

“นังหนูนี่มัน... ฉันจะไม่เอาหล่อนแล้ว! ส่วนพวกแกก็เตรียมรับความชิบหายทั้งครอบครัวได้เลย”

พูดจบแล้วเขาก็เดินกระฟัดกระเฟียดออกจากบ้านหลี่ไป ตามด้วยอีกคนที่มีท่าทีขยาดไม่แพ้กัน เขาเดินตามออกไปไม่หันกลับมองตามเสียงเรียกของสองพ่อลูกสกุลหลี่อีกเลยแม้แต่น้อย

ซูเหยาหยักยิ้มมุมปากยืนสงบนิ่งในห้องรับแขกยามชายสองคนเดินออกไปจากบ้านด้วยความเดือดดาล เหลือเพียงตาแก่คนสุดท้ายที่ยังนั่งอยู่ เขามองเธอด้วยแววตาที่ต่างออกไปจากคนอื่น ไม่ใช่แววตาของคนที่หวาดกลัวหรืออับอาย แต่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และโลภยิ่งกว่าเดิม

“หึหึ… ฉันไม่เหมือนสองคนนั่นหรอกนะ ยิ่งหนูพยศฉันก็ยิ่งชอบนะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel