บท
ตั้งค่า

2

เป้าหมายของครอบครัวหลี่

หลี่ซูเหยาถูกพี่ชาย หลี่เว่ยจงลากจูงไปตามถนนดินที่เริ่มแห้งหลังจากฝนตกเมื่อคืนนี้ แสงแดดเริ่มส่องลงมาเจิดจ้า หมู่บ้านในยามเช้ากลับมาสงบอีกครั้ง ท่ามกลางบ้านเรือนเรียงรายที่ดูทรุดโทรม บ้านของหลี่เว่ยจงโดดเด่นกว่าเล็กน้อย เป็นบ้านเกษตรกรที่ดีกว่าคนอื่น เพราะเขาที่เป็นลูกชายคนโตมีอาชีพเป็นครู ทำให้มีฐานะดีกว่าชาวบ้านทั่วไป

เมื่อถึงบ้าน หลี่เว่ยจงลากซูเหยาผ่านห้องต่าง ๆ ไปยังห้องหนึ่งที่อยู่ด้านในสุด บ้านที่สร้างจากอิฐดินและไม้ไผ่มีเพดานต่ำ เฟอร์นิเจอร์เรียบง่าย แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงการใช้ชีวิตที่ไม่ได้ลำบากนัก ซูเหยามองรอบ ๆ ห้องนั้น ซึ่งมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย

“ไปอาบน้ำเสีย เวลาที่เหลือมีไม่มากแล้ว”

หลี่เว่ยจงเอ่ยเสียงเย็นชา ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ไม่สนใจความคิดหรือความรู้สึกของน้องสาวเลยสักนิด

ซูเหยาไม่ได้โต้แย้ง ไม่ใช่ว่าเธอยอมทำตามคำสั่ง แต่ความจริงแล้วเธออยากอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวอยู่แล้ว หลังจากที่ผ่านค่ำคืนอันเลวร้ายในป่ามา การอาบน้ำดูเหมือนเป็นการปลดปล่อยความหนักหน่วงออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี

เมื่อเข้าไปในห้องน้ำที่สร้างจากไม้ ซูเหยาอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว น้ำเย็นช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปจากผิวหนัง แต่เมื่อเธอเสร็จสิ้นและกำลังจะหยิบชุดขึ้นมาใส่ เธอกลับต้องหยุดชะงักไป เพราะชุดที่มีคนเตรียมไว้ให้ไม่ได้เป็นชุดธรรมดาแบบที่เธอใส่ก่อนหน้านี้

ในมือของเธอคือชุดกี่เพ้าที่สวยงามและดูใหม่เอี่ยม เนื้อผ้าเป็นผ้าซาตินสีสด มีลวดลายดอกไม้ปักประณีต ตัดเย็บอย่างประณีตและหรูหรา ผิดจากชุดเดิมที่เป็นเพียงชุดผ้าฝ้ายธรรมดา สีจืดชืด เหมาะกับการทำงานในไร่นา แต่ชุดนี้มันดูเป็นอะไรที่แตกต่างออกไปมาก มันเน้นส่วนเว้าส่วนโค้ง ยิ่งเมื่อสวมใส่บนเรือนร่างอวบอิ่มของเธอ ซูเหยารู้สึกได้ว่ามันทำให้เธอดูโดดเด่นมากขึ้น

เธอเหลือบไปมองตัวเองในกระจกเงาที่วางไว้ในห้องน้ำ รูปร่างของเธอนั้นมันออกจะ เอ่อ น่าอิจฉาเกินไป...

หน้าอกนูนเด่นมองดูน่าอึดอัดเมื่ออยู่ในชุดรัดรูปนี้ สิ่งที่ควรเว้าอย่างเอวก็โค้งเว้าอย่างงดงาม สัดส่วนพอดีนี้ยิ่งถูกเน้นชัดเจนในชุดกี่เพ้านี้ ผิวขาวเนียนของเธอตัดกับเนื้อผ้าสีเข้มที่ประดับอยู่ตามตัว

“นี่มัน...”

เธอรู้สึกเหมือนกำลังชื่นชมรูปลักษณ์ของร่างเดิมที่เกิดมาพร้อมกับสิ่งที่ผู้หญิงต้องการ แต่ในขณะเดียวกันสมองของเธอซึ่งเคยชินกับการวิเคราะห์เริ่มทำงานอัตโนมัติ

เธอเริ่มคาดเดา สัญชาตญาณสายลับบอกเธอว่า ชุดนี้ถูกเตรียมไว้เพื่อเหตุผลบางอย่าง ไม่ใช่แค่ให้เธอสวมใส่เฉย ๆ และดูเหมือนว่าเหตุผลนั้นน่าจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ทำให้เว่ยจงพาเธอกลับมาบ้านในเช้านี้อย่างเร่งรีบ เป็นไปได้ว่าร่างเดิมของเธออาจถูกบังคับให้ไปเจอใครสักคน ซึ่งอาจเป็นแผนของครอบครัวของร่างเดิมนี้

แต่จะไม่ใส่ก็ไม่ได้ ชุดเดิมของเธอหายไปโดยไร้ร่องรอย ราวกับมีใครตั้งใจเอามันออกไปกำลังแพงห้องน้ำที่พาดไว้โดยที่เธอไม่รู้ตัว และถ้าเธอไม่สวมชุดนี้ ก็ต้องออกไปข้างนอกทั้งที่ไม่มีเสื้อผ้าใส่ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ทางเลือกที่ดี...

ไม่นานนักเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากด้านนอกประตู ก่อนที่ประตูจะเปิดออก ผู้หญิงสองคนก้าวเข้ามาในห้องและฉับพลันความทรงจำของร่างเดิมก็โผล่เข้ามาในหัวสมอง คนแรกเป็นหญิงวัยกลางคน ใบหน้าคมเข้มที่เต็มไปด้วยร่องรอยของความเหน็ดเหนื่อยจากบางอย่างและอารมณ์ในตอนนี้กลับดูเร่งรีบและกังวล เธอคือแม่ของร่างเดิมมาจากสกุลจาง ส่วนอีกคนอายุอ่อนกว่าใบหน้าอิ่มกลมดูสมบูรณ์แต่แฝงความหยิ่งยโสและโอหัง คนนี้คือหลิวหลิง พี่สะใภ้ของเธอ ภรรยาของเว่ยจง

แม่จางขมวดคิ้วเดินเข้ามาด้วยสายตาไม่พอใจ ขณะที่พี่สะใภ้หลิวทำหน้ารำคาญอย่างเห็นได้ชัด

"ซูเหยา แกจะชักช้าทำไมอยู่ได้ อีกไม่นานแขกจะมาถึงแล้ว รีบแต่งตัวให้เรียบร้อยหน่อยเถอะ"

แม่จางพูดเสียงห้วนพร้อมกับเดินเข้ามาจะจับผมของซูเหยาให้เป็นระเบียบ แต่ยังไม่ทันถึงตัว ซูเหยาก็ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ตาคมกริบของเธอจับจ้องพวกเขา

"จะทำอะไร?"

ซูเหยาถามด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบแต่คมชัด แววตาเต็มไปด้วยความระแวดระวัง

แม่จางหยุดชะงัก ดวงตาขุ่นมัวปรากฏขึ้นบนใบหน้า

"อย่าทำตัวให้น่ารำคาญเลย แกต้องให้เราทำผมให้ ไม่อย่างนั้นจะออกไปทั้งอย่างนี้หรือไง!"

พี่สะใภ้หลิวที่ขี้หงุดหงิดยิ่งกว่ารีบเสริมขึ้น “อย่ามาทำตัวโง่ ซูเหยา! รีบ ๆ เข้ามาให้แม่จางทำผมให้ซะดี ๆ”

แต่มีหรือเธอจะฟังง่ายๆ เธอไม่ยอมให้พวกเขาเข้ามาใกล้ มือของแม่จางที่พยายามจะมาจับผมถูกเธอก็ปัดออกจนมือของแม่จางแดงสร้างความหงุดหงิดอย่างมาก

“แกลีลาเพื่ออะไร อีกไม่ถึงชั่วโมง คนที่นัดไว้ว่าจะมาดูตัวจะมาถึงแล้ว!”

ในที่สุดแม่จางก็ท้าวเอว ความจริงจากปากคนเป็นแม่นี้ซูเหยาคาดไว้ตั้งแต่แรกเป็นจริงเสียด้วย

เป็นอย่างที่เธอคิดไว้จริง ๆ ชุดกี่เพ้านี้ถูกเตรียมไว้เพื่อทำให้เธอดูดีขึ้นในสายตาของใครสักคน และคงไม่ต้องสงสัยว่าร่างเดิมของเธออาจจะกำลังพยายามหนีจากสถานการณ์นี้ นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างนี้ไปอยู่ในป่าก่อนที่เธอจะทะลุมิติมาเข้าร่างแทน

เธอเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้องพวกเขาอย่างเย็นชา

“ไม่ว่าจะเป็นการดูตัวหรืออะไรฉันไม่สนใจหรอก ใครเป็นคนนัดคนนั้นก็ควรจะเป็นคนไปพบเองสิ”

“นี่แกจะกวนประสาทพวกเราหรือไง!”

หลิวพี่สะใภ้ที่ดูและฟังมานานเริ่มหมดความอดทน โยนกล่องเครื่องประดับที่มือขวาถืออยู่ลงกับพื้นอย่างแรง พร้อมกับชี้หน้าและตะคอกใส่เสียงดัง

"ถ้าไม่อยากถูกลากไปก็ควรทำตัวให้มันดี ๆ หน่อยสิ!"

ซูเหยาไม่สะทกสะท้าน แค่มองด้วยสายตาเยือกเย็นราวกับคำขู่เมื่อครู่ที่หลิวหลิงใช้ขู่คนตรงหน้าเป็นเพียงลมปากพูดเล่นเท่านั้น

สิ่งนี้ทำให้คนที่มักมีแต่คนตามใจตลอดเพราะเธอแต่งเข้ามาให้ครอบครัวที่ฐานะต่ำกว่าถึงกับหงุดหงิดขั้นสุด หลิวหลิงขว้างข้าวที่ถืออยู่ลงพื้นอย่างแรงก่อนจะเดินออกจากห้องไปไม่สนใจสิ่งที่สามีมอบหมายต่อไปแล้ว

"คุณแม่จะทำอะไรก็ก็ทำไปเองเถอะ ฉันไม่สนใจแล้ว!"

แม่จางที่ยังคงมองตามลูกสะใภ้ไปจนลับสายตา เธอเคลื่อนสายตามองของราคาแพงบนพื้นอย่างรู้สึกเสียดาย แต่เธอไม่สามารถย้อนเวลาไปถือของมีค่านี้เองจึงทำได้เพียงหันมาใส่อารมณ์กับอีกคนด้วยความโกรธจัด แม่จางถลึงตาท้าวเอวมองอย่างไม่พอใจ

"ถ้าเรื่องนี้ไม่จบลงด้วยดี แกอย่าคิดว่าจะพ้นความผิด! แต่งตัวและรีบตามออกมาเสียดีดีฉันให้เวลาแกครึ่งชั่วโมงเท่านั้น"

ซูเหยาเงียบ จ้องมองประตูที่ปิดลง พลันถอนหายใจลึก ๆ เธอรู้ว่านี่เป็นแผนที่พวกเขาเตรียมไว้ แต่เธอไม่มีทางให้พวกนั้นควบคุมให้เธอทำอะไรก็ได้ง่าย ๆ

หากเธอจะออกไปเผชิญกับโลกที่ไม่คุ้นเคยในตอนนี้ก็ดูเป็นแผนที่สิ้นคิดเกินไป ระหว่างรับมือกับคนในครอบครัวตัวเองกับเจอกับอันตรายมากมายที่ยากคาดเดาเธอเลือกรับมือกับครอบครัวหลี่นี้น่าจะง่ายกว่า...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel