1
คุณหนูตัวน้อย
สายฝนที่เคยตกหนักเริ่มเบาลง หลี่ซูเหยาอุ้มเด็กน้อยขึ้นในอ้อมแขน เดินออกมาจากใต้ต้นไม้ใหญ่ที่พวกเธอใช้เป็นที่หลบฝนชั่วคราว ต้นไม้หนาทึบสูงตระหง่าน รากของมันฝังลึกลงไปในดินโคลนที่ชื้นแฉะ ซูเหยาก้มมองเด็กน้อยที่เริ่มผล็อยหลับในอ้อมกอด สภาพที่เธอเจอเด็กน้อยทำให้เธอต้องระวังและทะนุถนอมเด็กมากยิ่งขึ้น แต่ความเป็นห่วงที่มากกว่า คือต้องพาเธอออกไปจากป่านี้ให้เร็วที่สุด
ทางเดินในป่าทุรกันดาร ฝนที่โปรยปรายทำให้พื้นดินเปียกเฉอะแฉะทุกย่างก้าว เต็มไปด้วยกิ่งไม้และหินก้อนใหญ่ บรรยากาศที่เงียบสงัดรอบตัวมีเพียงเสียงฝนและลมที่พัดผ่าน ซูเหยารู้ดีว่าเธอต้องพยายามหาทางทำให้เด็กหญิงนี้ไม่อดตายระหว่างทาง
มือของเธอยังจับมีดที่หยิบมาจากชายคนหนึ่งไว้แน่น สายตาคมกวาดมองหาอะไรสักอย่างที่พอจะกินได้ เมื่อหลี่ ซูเหยาเดินฝ่าป่าฝนไปได้สักระยะ เธอเริ่มกวาดตามองหาอาหารให้เด็กน้อยและตัวเธอเอง สายตาที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีทำให้เธอรู้จักพืชป่าและผลไม้ที่ปลอดภัย เธอเดินช้า ๆ ไปตามแนวต้นไม้ใหญ่ พลางสำรวจใบและกิ่งไม้ที่อยู่เหนือศีรษะ จนในที่สุด เธอก็พบต้นไม้ที่มีลูกไม้ป่าลูกเล็ก ๆ กลม ๆ สีส้มทอง
ซูเหยาจับมีดจากชายคนหนึ่งเอามาตัดกิ่งที่มีผลไม้นั้น หยิบมาเช็ดคราบโคลนออกเบา ๆ ก่อนจะป้อนลูกไม้ให้เด็กหญิงที่อ่อนแรง เด็กน้อยมองซูเหยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไว้วางใจ เธออ้าปากรับผลไม้ที่ซูเหยาป้อนให้ และเคี้ยวอย่างช้า ๆ ขณะที่เธอเองก็หยิบผลไม้อีกลูกเข้าปากเพื่อบรรเทาความหิวของตัวเอง
"กินซะหนู พี่จะพาเราออกจากที่นี่ให้ได้"
ซูเหยาเอ่ยเบา ๆ พลางลูบศีรษะเด็กหญิงอย่างอ่อนโยน เด็กน้อยกินอย่างเงียบ ๆ ไม่มีเสียงบ่นหรือแสดงอาการหวาดกลัว
หลังจากที่ทั้งสองกินผลไม้ป่าไปพอประทังหิว หลี่ซูเหยาก็หาน้ำจากใบไม้ใหญ่ที่เก็บน้ำฝนไว้ให้เด็กหญิงดื่ม เธอเองก็ดื่มน้ำจากใบไม้นั้นเช่นกัน ช่วยเติมพลังให้ทั้งสองพอจะเดินทางต่อได้
เมื่อพอเติมพลังแล้ว ซูเหยาก็หันมามองทิศทางอีกครั้ง สายตาของเธอมองเห็นแสงจันทร์ที่ทะลุผ่านต้นไม้สูงทำให้รู้ทิศทางได้อย่างแม่นยำ เธอยึดทิศทางหนึ่งแล้วเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่ลังเล อย่างน้อยการมุ่งไปทิศเดิมก็ทำให้ไม่หลงวนอยู่ที่เดิมท่ามกลางรอบข้างในป่าที่มีลักษณะเหมือนกันจนแทบแยกไม่ออก
หลังจากเดินมาเกือบครึ่งคืน ท่ามกลางป่าที่ทึบลงทุกขณะ ทันใดนั้น ซูเหยาก็มองเห็นแสงไฟริบหรี่อยู่ที่ขอบฟ้า มันเป็นแสงไฟจากหมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกล เสียงหมู่บ้านเริ่มได้ยินเบา ๆ อยู่ข้างหน้า หัวใจเธอพองโตขึ้นเล็กน้อย
ในที่สุด เธอก็พาเด็กน้อยออกจากป่าได้สำเร็จ
เมื่อหลี่ซูเหยาเดินออกมาจากป่าพร้อมกับเด็กหญิงในอ้อมแขน ทันใดนั้นเองเสียงฝีเท้าหนักของกลุ่มคนก็วิ่งกรูเข้ามาจากด้านหลังก่อนที่ซูเหยาจะตั้งตัว กลุ่มชายในชุดเครื่องแบบสีเขียวเข้มวิ่งเข้ามาล้อมเธอไว้ สายตาของพวกเขาดุดันและเต็มไปด้วยความระมัดระวัง
"หยุดเดี๋ยวนี้!"
ชายคนหนึ่งในกลุ่มทหารตะโกนสั่ง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยอำนาจ ทุกคนในกลุ่มหันไปมองเด็กน้อยที่ซูเหยาอุ้มอยู่ในอ้อมแขน ท่าทางของพวกเขาแสดงออกชัดเจนว่าพวกเขากำลังตามหาเด็กคนนี้
ทหารคนหนึ่งขมวดคิ้วเมื่อเห็นเด็กน้อยในอ้อมแขนของซูเหยา "คุณหนู! ใช่คุณหนูหรือเปล่า?" เขาพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ
ซูเหยานิ่งเงียบ แต่หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้น เธอสังเกตเห็นความจริงบางอย่างจากคำพูดของพวกเขา เด็กหญิงคนนี้ไม่ใช่เด็กธรรมดา แต่เป็นลูกสาวของใครบางคนที่มีอำนาจ ชายคนนั้นพูดต่อทันทีด้วยความร้อนรน
"พวกเราตามหาคุณหนูมาทั้งคืน ในที่สุดก็เจอแล้ว..."
ทหารอีกคนพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเหนื่อยล้าจากการค้นหาที่ยาวนาน "เราต้องรีบพาคุณหนูกลับไปหาท่านผู้พันให้เร็วที่สุด"
ซูเหยามองใบหน้าของทหารพวกนั้น พวกเขาดูระมัดระวังและยังคงสงสัยในตัวเธอ เธอคิดว่าจะอธิบายอย่างไรดีถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ตัดสินใจพูดสั้น ๆ เพื่อไม่ให้พวกเขาระแวงมากเกินไป
"ฉันเจอเธอในป่า...คนเดียว" ซูเหยาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ "ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เห็นว่าเธออยู่คนเดียวเลยพาออกมาจากป่าก็เท่านั้นเอง เธอดูเหมือนจะไม่สบายนะพวกคุณต้องรีบพาเธอไปหาหมอให้เร็วที่สุด"
ทหารมองซูเหยาด้วยสายตาที่ประเมินสถานการณ์ แต่หลังจากสังเกตสภาพของเธอและเด็กหญิงที่ปลอดภัย พวกเขาดูเหมือนจะคลายความกังวลลงอีกทั้งคำพูดที่บอกว่าคนสำคัญที่พวกเขาตามหาไม่สบายก็ทำให้พวกเขาไม่สามารถยื้อเวลาคุยไปมากกว่านี้แล้ว
"งั้นคุณผู้หญิงก็คงไม่เกี่ยวข้องกับคนที่ลักพาตัวคุณหนูไป" หัวหน้าทหารพูดพลางสั่งลูกน้องให้ลดอาวุธลง
"ขอบคุณที่ช่วยพาคุณหนูออกมามากครับ แต่เราต้องพาคุณหนูกลับไปที่บ้านแล้ว คุณผู้หญิงจะตามผมมามะ..."
ซูเหยาส่ายหน้าเบา ๆ โดยไม่แสดงท่าทีเรียกร้องสิ่งใด เธอค่อย ๆ ส่งตัวเด็กหญิงให้ทหารคนหนึ่งอุ้มไปอย่างระมัดระวัง เด็กน้อยยังคงหลับสนิทในอ้อมแขนของทหาร เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอทำให้ซูเหยารู้สึกโล่งใจ
...อย่างน้อยเธอก็ช่วยเด็กน้อยให้ปลอดภัยแล้ว
ก่อนที่จะจากไป ซูเหยาหันกลับมามองเด็กหญิงอีกครั้ง สายตาของเธอแฝงด้วยความห่วงใยลึก ๆ แต่เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอเพียงหมุนตัวเดินจากไปในความมืด เธอเลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่งกับทหารหรือเจ้านายของพวกเขาอีก เธอไม่อยากเข้าไปเกี่ยวพันกับความยุ่งยากเกินคาดเดาในขณะที่เธอยังไม่รู้ทิศทางของเธอเองในตอนนี้ว่าควรเดินทางชีวิตไปแบบไหนต่อไปดี
ซูเหยาเดินออกห่างปลีกตัวออกจากเหตุการณ์นี้อย่างเงียบ ๆ โดยทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง บางทีเธออาจจะเริ่มต้นจากการหาครอบครัวที่มีสกุลหลี่ในหมู่บ้านแห่งนี้ก่อน...
แต่ไม่ทันที่ซูเหยาจะก้าวเดินไปไกล เธอก็ต้องหยุดชะงักลงทันที เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหน้า เสียงนั้นค่อย ๆ ดังใกล้ขึ้นภาพชายคนหนึ่งปรากฏชัด เธอรู้สึกว่าร่างกายหยุดนิ่งโดยอัตโนมัติเมื่อสายตาสบเข้ากับชายคนนั้น
...อารมณ์ตอนนี้ของเจ้าของร่างเดิมกำลังบ่งบอกว่าเขาคือคนที่เธออยากจะหลีกเลี่ยงมากที่สุดในตอนนี้
ใบหน้าหล่อเหล่าที่คุ้นเคย แม้ว่าตอนนี้จะหมองคล้ำไปด้วยความอ่อนเพลีย เห็นได้ชัดว่าเขาคงไม่ได้นอนมาทั้งคืน ดวงตาของเขาแดงก่ำจากการอดนอนแต่ยังคงแฝงความเข้มงวดและเฉียบคม
ชายคนนั้นคือพี่ชายแท้ ๆ ของหลี่ซูเหยา ในความทรงจำของร่างนี้ที่อยู่ดีดีก็ฉายวาบขึ้นมาเล็กน้อย ผู้ชายตรงหน้าอาจจะมีสายเลือดเดียวกันก็จริงแต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้สนิทสนมแบบพี่น้องมากนัก เขาคือคนที่แสวงหาประโยชน์จากซูเหยา เธอเป็นเครื่องมือที่มีค่าในสายตาของเขา
“ซูเหยา!”
เขาเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา ราวกับตั้งใจจะย้ำว่าเธอควรฟังคำสั่งของเขาก่อนที่เจ้าของเสียงจะหมดความอดทน
ซูเหยายืนนิ่ง ความทรงจำในร่างนี้บอกเธอว่า พี่ชายคนนี้ไม่ได้ตามหาเธอเพราะห่วงใย แต่เพราะเขามีแผนการบางอย่างที่พึ่งพาเธอ
...ซูเหยาตรงหน้านี้ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เธอไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่เฝ้ามองเขาด้วยความสงบเยือกเย็น เธอกำลังรอคอยว่าเขาจะทำอะไรต่อไป
ทันใดนั้น เขาก็เดินตรงเข้ามาคว้ามือของซูเหยาอย่างแรง ก่อนจะจูงเธอไปโดยไม่รอคำตอบ การกระชากนั้นทำให้รู้สึกถึงความกดดัน แม้จะไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ แต่ความโกรธแฝงเร้นอยู่ในแววตาของเขา เขายังไม่พูดอะไรเพิ่มเติม แต่มือที่จับเธอไว้แน่นนั้นบอกให้รู้ว่าเขากำลังโกรธที่เธอหายไปทั้งคืน
“อยู่ๆก็หายไปทั้งคืนอย่างนี้ สองปีที่แล้วแกหายไปไม่กลับมาบ้านยังทำให้พวกเราลำบากไม่พออีกหรอ?!”
เสียงของเขาเบา แต่แฝงด้วยความไม่พอใจ
ซูเหยาไม่ได้ตอบคำถามนั้นและไม่ได้สะบัดมือออกจากการจับจูงเพราะเธออยากจะรู้อะไรเกี่ยวกับร่างเดิมซึ่งเท่าที่วิเคราะห์ได้ ความทรงจำของร่างนี้จะปรากฎขึ้นมาเมื่อเธอได้เจอกับคนหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับร่างเดิม ซูเหยาจึงยอมตามเขามาจนถึงตอนนี้...
พวกเขาเดินไปตามเส้นทางในหมู่บ้าน มุ่งหน้ากลับไปยังบ้านหลี่ แสงจันทร์ส่องผ่านกิ่งไม้ แต่ในหัวของซูเหยาเต็มไปด้วยความคิดมากมาย เธอไม่ใช่ซูเหยาเดิมอีกต่อไป เธอคือสายลับจากยุค 2000 ที่เข้ามาแทนที่ และเธอไม่มีทางที่จะยอมให้ใครมาใช้ประโยชน์จากเธอโดยที่เธอไม่เต็มใจแน่นอน
