บทนำ
ในป่าลึกใกล้ชายแดนหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งของจีนในยุค 1980 ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยเมฆครึ้ม ฝนบางเบาร่วงลงมาเป็นหยดหยอยอย่างไม่ขาดสาย บรรยากาศชื้นแฉะ เหม็นอับของใบไม้ที่เริ่มเน่า น้ำค้างเกาะตามกิ่งไม้และใบไม้เขียวขจีรอบข้าง เงียบงันจนน่าขนลุก มีเพียงเสียงจิ้งหรีดและเสียงน้ำไหลรินจากลำธารที่หายไปกับความมืดเท่านั้นที่ดังก้อง
ภายใต้ความมืดมนของป่าที่ไม่มีแสงไฟ มีเงาของชายสามคนยืนรวมตัวกัน หนึ่งในนั้น แบกถุงผ้าสีซีดไว้บนบ่า ร่างหนักอึ้งจนดูเหมือนเขาแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ข้างในถุงผ้านั้นมีเพียงเด็กคนหนึ่งที่นอนแน่นิ่ง คนที่เหลืออีกสองคนยืนเถียงกันเบา ๆ ใต้เงาไม้ใหญ่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด
"เอาไงดีวะกับนังนี่?"
ชายคนแรกพูดพร้อมเหยียบส้นรองเท้าบู๊ตสีดำลงบนพื้นโคลนชื้น มองไปยังร่างของหญิงอวบอิ่มที่นอนสลบอยู่ตรงหน้า เธอเข้ามาขัดขวางพวกเขาตอนกำลังจะลักพาตัวเด็กน้อยอย่างไม่ประมาณตนเสียเลย เขาเพียงฟาดหลังมือไปทีเดียวก็สลบเหมือดเช่นตอนนี้แล้ว
"รูปร่างแบบนี้ ก็น่าเอาไปด้วย ดูดีน่าจะเป็นเมียดี ๆ ได้สักคน"
"แกบ้าเหรอไง? งานนี้ก็ยากพออยู่แล้ว! แค่เด็กคนเดียวก็เหนื่อยจะแย่ ไหนจะต้องหนีตำรวจแล้วจะยังทหารอีก"
ชายคนที่สองขมวดคิ้ว กอดอกมองเพื่อนด้วยความรำคาญ "เราต้องรีบไปจากที่นี่ ไม่ใช่มานั่งคิดเรื่องนังนี่!"
"ฉันเห็นด้วยกับมัน เราไม่มีเวลามานั่งยุ่งกับผู้หญิงแบบนี้หรอก เอาเด็กไปก่อนดีกว่า เรื่องนังนี่ไว้ทีหลัง"
เสียงฝีเท้าของชายคนที่สามที่แบกถุงผ้าหนักอยู่ เอ่ยเสียงแหบแห้ง
ชายคนแรกถอนหายใจแล้วก้มลงไปจับแขนของหญิงที่สลบอยู่ เขามองดูเธออย่างหื่นกระหาย
"แต่ฉันชอบรูปร่างหล่อนจริง ๆ ว่ะ แกไม่คิดบ้างเหรอ? จะปล่อยไว้ก็เสียดาย ในเมื่อแบกไปเสียแรงเปล่าอย่างนั้นอยู่ตรงนี้ก็จัดการให้เสร็จสิ้น ๆ ไป ก็แล้วกัน"
ชายที่สองเลิกคิ้ว "แกหมายความว่ายังไง จัดการที่นี่เลย?"
"ใช่ ฉันทนไม่ไหวแล้วว่ะ" ชายคนแรกยิ้มเหี้ยม "แล้วพอเสร็จกิจ เราก็ฆ่าทิ้งซะ จะได้ไม่ต้องแบกไปไกล"
ชายคนที่สามหยุดเดิน หันมามองทั้งสองคน ก่อนพยักหน้าเล็กน้อย "ทำมันตรงนี้ก็ได้...ฉันขอต่อคนที่สอง แกรีบทำให้เร็วล่ะ เราไม่มีเวลาเยอะ"
ใบหน้าของชายคนแรกบิดเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย ขณะที่เขาเริ่มก้าวไปข้างหน้า เสียงฝีเท้าดังกลบเสียงป่ารอบข้าง และท้องฟ้าที่เคยเงียบกลับมีเสียงฟ้าร้องไกล ๆ ดังขึ้นราวกับเตือนภัย
เสียงฟ้าผ่าดังกระหึ่มขึ้นอย่างกะทันหัน สายฟ้าสีขาวฟาดลงมาจากท้องฟ้าครึ้ม เสียงดังสนั่นจนป่าสั่นไหว ราวกับพื้นดินใต้ฝ่าเท้าสั่นสะเทือน บริเวณรอบข้างสว่างวาบเหมือนกลางวัน ชายทั้งสามคนต้องหรี่ตา หลับตาไปชั่วขณะเพราะแสงเจิดจ้า ท้องฟ้าที่เคยเงียบสงัดกลับถูกแต่งแต้มด้วยเสียงฟ้าร้องก้อง
“เวรเอ้ย ฟ้าผ่ามาได้ไงตอนนี้!”
ชายคนแรกบ่นขณะถอดกางเกงตัวเองออกครึ่งทาง แต่เมื่อแสงสว่างค่อย ๆ จางลง เขาก็รีบหันกลับมาที่หญิงสาวบนพื้นอีกครั้ง เตรียมทำสิ่งที่ใจหวัง เขาก้มลง ใช้มือหยาบกร้านจับขอบเสื้อผ้าของหญิงสาวไว้
แต่ครั้งนี้ สิ่งที่เขาเห็นกลับไม่ใช่ร่างหญิงสาวที่นอนหมดสติอีกต่อไป เมื่อดวงตาของเธอเปิดขึ้น เผยให้เห็นแววตาที่มืดดำลึกล้ำเหมือนคืนไร้แสงจันทร์ เธอจ้องตรงมายังเขา แววตาที่นิ่งเฉียบจนชายคนนั้นถึงกับตัวสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว เขาชะงัก มือหยุดกลางอากาศ ดวงตานั้นไม่ใช่ดวงตาของหญิงสาวธรรมดาที่ควรจะรู้สึกหวาดกลัว...
หญิงสาวผุดลุกขึ้นจากพื้นด้วยความรวดเร็วเหมือนเสือที่กระโจนล่าเหยื่อ เธอไม่พูดไม่จา มือของเธอจับเข้าที่คอของชายคนนั้น บิดไปทางหนึ่งอย่างรุนแรง เสียงกระดูกหักดังชัดเจนในความมืด ชายคนนั้นล้มลงกับพื้นทันที ไม่มีแม้แต่เสียงร้อง ชายคนที่สองกับสามมองด้วยความตกตะลึง
"เฮ้ย! แกเป็นใครกัน!"
ชายคนที่สองตะโกนออกมา แต่ไม่มีคำตอบ หญิงสาวที่มีดวงตาดุจเหยี่ยวพุ่งเข้าหาเขาเร็วเหมือนสายลม มือของเธอคว้าเข้าที่ลำตัวของเขา ผลักจนเขาล้มลง ก่อนจะใช้ศอกกระแทกอย่างแรงเข้าที่หน้าอก ชายคนนั้นตัวงอด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่เธอจะใช้ปลายรองเท้ากระแทกเข้าไปที่ลำคอ ทำให้เขาหายใจไม่ออกจนสิ้นใจ
ชายคนสุดท้ายที่แบกถุงผ้ารีบวางถุงลงกับพื้น พยายามหยิบมีดออกมาสู้ แต่ไม่ทันที่เขาจะขยับ หญิงสาวก็เข้าประชิดตัวเขาแล้ว เธอหมุนตัวอย่างคล่องแคล่ว มือของเธอคว้าคอของเขาด้วยความรวดเร็ว มืออีกข้างคว้ามีดจากมือเขาแล้วเสียบเข้าที่สีข้าง ชายคนนั้นดิ้นรนอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่ร่างจะทรุดลงหมดแรงไปอีกคน
เลือดสาดกระจายทั่วพื้นเปียกชื้น ฝนที่โปรยปรายลงมาเริ่มชะล้างคราบเลือดออกจากเสื้อผ้าของหญิงสาว เธอหอบหายใจเล็กน้อยหลังจากการต่อสู้ที่รวดเร็วและรุนแรง ดวงตาที่เคยดำสนิทกลับมานิ่งสงบอีกครั้ง เธอเงยหน้ามองขึ้นไป เห็นเด็กหญิงตัวน้อยวัยประมาณสามขวบ คลานออกมาจากถุงผ้าที่เคยเป็นกรงขัง เด็กน้อยจ้องมองภาพที่หญิงสาวเพิ่งทำลงไป
แต่แทนที่เด็กหญิงจะมีท่าทีหวาดกลัว เธอกลับจ้องมองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมและเคารพ แววตาที่ใสซื่อบริสุทธิ์จ้องตรงมาที่หญิงสาวราวกับมองฮีโร่ในสายตาของเด็กเล็ก หญิงสาวหายใจออกเบา ๆ ยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เช็ดเลือดที่เปื้อนใบหน้าออกให้สะอาด ท่ามกลางสายฝนที่ชะล้างทุกสิ่งรอบตัว
หญิงสาวก้าวเข้าไปหาเด็กหญิงตัวน้อย คุกเข่าลงข้างหน้าเธอแล้วพูดเบา ๆ
"ไม่ต้องกลัวนะ หนูปลอดภัยแล้ว เดี๋ยวพี่พาไปส่งที่บ้านของหนูนะ หนูจำได้ไหมว่าบ้านหนูอยู่ทางไหน?"
สิ่งที่หญิงสาวได้รับกลับมาคือใบหน้าเล็กเปื้อนดินและน้ำฝนสั่นไปมาแสดงออกในคำตอบที่เธอไม่ต้องการเป็นที่สุดในตอนนี้ เพราะเพียงเด็กหญิงตัวน้อยเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าบ้านอยู่ไหน แต่เธอเองที่อยู่ดีดีก็ได้มาเกิดในร่างผู้หญิงที่มีชื่อว่า ซูเหยา สกุลหลี่นี้ นอกจากชื่อและสกุลเธอก็ไม่มีความทรงจำอื่นใดของร่างนี้อีกเลยเช่นกัน
หนึ่งเด็กหญิงตัวน้อยผู้โชคร้าย
และอดีตสายลับที่อยู่ในร่างของหญิงสาวคนหนึ่งแต่ไร้ความทรงจำของเจ้าของร่าง ควรจะทำอย่างไรต่อไปดี...
