4
รถยนต์บีเอ็มดับบลิวแล่นมาจอดในโรงจอดรถของบ้านเดี่ยวสองชั้น ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก บนเนื้อที่แปดสิบตารางวา ย่านสุขุมวิท เจ้าของรถรีบลงมาจากรถ หลังจากได้รับโทรศัพท์จากดวง คนรับใช้ของบ้านว่า มารดาปวดท้องมาก ตอนดวงโทรศัพท์มาหา เขากำลังถึงบ้านพอดี จึงรีบเร่งขับรถกลับบ้าน เพื่อพามารดาไปหาหมอ
“แม่ครับ” ชัชชัยปรี่ไปหาสุนีย์ “ไปครับแม่ ไปหาหมอกันครับ”
ดวงช่วยประคองเจ้านายที่ยืนตัวตรงไม่ไหว เนื่องจากปวดท้องมาก และเมื่อพาสุนีย์เข้ามานั่งในรถได้ ชัชชัยรีบขับรถพามารดาไปโรงพยาบาลทันที ซึ่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดคือ โรงพยาบาลปัญจรักษ์ที่บิดาชัชชัยเป็นเจ้าของ
เมื่อถึงโรงพยาบาล สุนีย์ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน ซึ่งเธอได้รับการดูแลอย่างดี เนื่องจากเป็นลูกค้าระดับพรีเมี่ยม เป็นญาติกับเจ้าของสถานที่ ชั่วโมงต่อมาเธอถูกนำตัวเข้ารับการผ่าตัดแบบฉุกเฉิน จากอาการไส้ติ่งอักเสบ โดยมีชัชชัยนั่งรอหน้าห้องผ่าตัด และโทรบอกให้บิดารู้
ตอนเที่ยง ณ โรงพยาบาลปัญจรักษ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
มาถึงจุดหมาย มนัสชัยรีบไปยังห้องพักฟื้นทันที พอเข้าไปในห้องก็พบกับคุณปู่จอมดื้อรั้น นอนเข้าใอกที่ขาข้างซ้าย นอนดูทีวี โดยมีอังคณานั่งอยู่ตรงโซฟาตัวยาวใกล้กับเตียงนอน
“เป็นไงบ้างครับคุณปู่ ผมบอกหลายครั้งแล้วนะครับว่า อย่าขี่มอไซร์ไปออกกำลังกาย มันอันตราย รถเก๋งก็มีสองคัน ทำไมไม่ใช้ครับ”
ทุกเช้ามานพในวัยเจ็ดสิบสามปี จะไปวิ่งเหยาะๆ หรือเดินริมชายหาด ออกกำลังกายยืดเส้นยืดสาย ประมาณสี่สิบห้านาที ก่อนขี่มอเตอร์ไซร์กลับบ้าน เขาทำเช่นนี้มาตลอดเกือบสิบปี ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ จึงมองว่าการใช้รถเครื่องสองล้อแทนรถเก๋ง เป็นเรื่องปกติ
“ขี่มอไซร์มันสะดวกกว่านี้ หาที่จอดรถก็ง่าย อีกอย่างแวะจอดซื้อของกินข้างทางก็ง่ายด้วย ปู่ชอบ”
“ผมรู้ครับว่าคุณปู่ชอบ แต่มันอันตราย ผมเป็นห่วงคุณปู่ถึงได้เตือน ยิ่งคุณปู่อายุมากแล้ว อะไหล่ในร่างกายไม่มีเสริมนะครับ ถึงแม้เทคโนโลยีทางการแพทย์จะพัฒนาไปไกลก็เถอะ แต่บางอย่างหาทดแทนไม่ได้” มนัสชัยกล่าวเตือนด้วยความหวังดี “คุณปู่ต้องแข็งแรงนะครับ จะได้มีแรงเลี้ยงลูกของผม”
“แกพูดแบบนี้ ปู่คงเลิกขี่มอไซร์ซะแล้ว กลัวว่าจะไม่อยู่ดูหน้าเหลน” มานพยิ้มอย่างมีความหวัง “ว่าแต่เมื่อไหร่แกจะแต่งงานกับฝนล่ะ ใกล้เรียนจบกันแล้วนี่ หรือว่าจะคบกันต่ออีกสักสองสามปีค่อยแต่ง”
“ผมกับฝนคบกันมาสี่ปีแล้วนะครับ ผมมั่นใจว่าฝนคือคนที่ใช่ อีกอย่างเราอยู่ด้วยกันมาปีนึงแล้วครับ เราไปกันได้ดี ปรับตัวเข้าหากันได้ครับ” ยามมนัสชัยพูดถึงคนรัก ใบหน้าเขาระบายยิ้ม มีความสุข
“ปัญหาใหญ่มีอยู่คนเดียวนี่แหละ ไม่รู้ว่าจะเอาแต่ใจตัวเองไปถึงไหน เผด็จการด้วย ย่าแกก็นะ แทนที่จะเตือนลูก ห้ามลูก ไม่มีเลย คล้อยตามไปซะหมด แม่แกอีกคน กลัวผัวอะไรจะขนาดนั้น ขนาดมีเมียน้อย ยังไม่ด่าผัวสักคำ ให้มีซะงั้น” มานพหนักใจกับภาสกรไม่น้อย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร มันเลยเถิดมามากกว่าจะแก้ไขได้
“ผมคุยเรื่องนี้กับคุณพ่อแล้ว บอกท่านว่า ผมจะหมั้นกับฝนก่อนครับ ฝนเรียนจบค่อยแต่งงาน แต่คุณพ่อเลือกลุกเดินหนี จะว่าไปผมไม่สนใจนะครับว่าคุณพ่อยอมหรือไม่ยอม ยังไงเมียของผมคือฝนคนเดียว ผมมีสมองและปัญญาเลี้ยงฝน ไม่ต้องพึ่งสมบัติคุณพ่อ เพราะในส่วนของผมที่คุณทวดยกให้ ก็เหลือเฟือครับ”
“เป็นตัวของตัวเองน่ะดีแล้ว ยิ่งเรื่องคู่ครองยิ่งเลือกให้กันไม่ได้ ดูอย่างดาราสิ ผัวดีที่ไหน แต่พ่อแกก็ยังยืนกรานว่าดีอยู่นั่น ไม่รู้ว่าตาจะสว่างเมื่อไหร่ ปู่เคยสอนพ่อแกเสมอนะว่า พ่อกับแม่เลี้ยงลูกได้แต่ตัว แต่หัวใจบังคับไม่ได้ เมื่อถึงเวลาก็ต้องปล่อยให้ลูกเติบโตตามทางของตัวเอง พ่อแกฟังที่ไหน ยังทำตามใจตัวเองอยู่ได้”
“ผมว่าผมจัดการเรื่องนี้ได้ คุณปู่อย่าเครียดเลยนะครับ ทำใจให้สบายนะครับ ดุแลสุขภาพให้ดีๆ จะได้มีแรงเลี้ยงลูกของผม” มนัสชัยเปลี่ยนเรื่องคุย “คุณปู่พักผ่อนนะครับ ผมจะไปคุยกับอาจารย์หมอสักหน่อยว่า อาการคุณปู่เป็นไงบ้าง เดี๋ยวผมมานะครับ”
มนัสชัยหอมแก้มมานพ เป็นการถ่ายทอดความรักที่มีให้เสมอมา แม้ว่าเขาอายุยี่สิบหกปี และไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม มานพมองร่างหลานชายสุดที่รักที่เดินออกจากห้องด้วยรอยยิ้ม ก่อนหันไปมองดูทีวีต่อไป
ช่วงบ่าย
วันนี้มีเรียนช่วงบ่าย ไปรยาออกจากคอนโดคนรักตอนสิบเอ็ดโมงครึ่ง มาถึงมหาลัยประมาณเที่ยงสิบห้า เธอนั่งคอยเพื่อนสนิททั้งคนหน้าคณะ วันนี้ไปรยานั่งรถแท็กซี่มามหาวิทยาลัย เนื่องจากมีอาการเวียนหัว และคลื่นไส้ ครั้นจะไม่มาก็ไม่ได้ เนื่องจากเธอต้องพรีเซ็นต์งานร่วมกับเพื่อน หากไม่มา เพื่อนคงไม่ได้คะแนนในวิชานี้ ระหว่างทางไปรยาโทรศัพท์สั่งให้หทัยพรรณ ซื้อมะม่วงเบาดองเกลือ มะม่วงน้ำปลาหวานและกระท้อนทรงเครื่องมาให้ด้วย
“เอ้า เอาไป ว่าที่คุณแม่” หทัยพรรณวางผลไม้ดองตรงหน้าเพื่อน
“ฉันซื้อลูกอมมะนาวมาให้แกด้วยนะ เผื่อตอนเรียนแกอยากอ้วก มันก็ช่วยได้นะ” ชญาภาเพื่อนอีกคน ที่รู้เรื่องนี้ทีหลัง ตกใจไม่แพ้กัน ยังบ่นกับหทัยพรรณว่า ไปรยาไม่น่าพลาดเรื่องนี้ แต่พูดไปคงแก้ไขอันใดไม่ได้ ได้แต่ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น “ว่าแต่ แกแพ้ท้องแล้วเหรอ”
“ก็นิดหน่อย เวียนหัวกับอยากจะอ้วกสองครั้ง แล้วก็นึกอยากกินของพวกนี้แหละ” พูดไป ใช้ไม้แหลมจิ้มมะม่วงเบา นำไปจิ้มพริกเกลือ ก่อนนำใส่ปาก คนมองเห็นรู้สึกเข็ดฟันแทน อาจเพราะไม่ชอบกินของเปรี้ยว
