บท
ตั้งค่า

3

22.30 น.

ประตูห้องชุดในคอนโดย่านทองหล่อถูกเปิดออก โดยคนในห้องไม่รู้ตัว เพราะคนที่เดินเข้ามาคือเจ้าของห้องชุด เขาเดินไปยังชั้นสอง จุดหมายคือห้องนอน มือใหญ่เปิดประตูห้อง ก่อนก้าวเดินเข้าไปด้านใน มองคนตัวเล็กที่เขาแสนรักนอนหลับบนเตียง

“อืม” คนนอนหลับส่งเสียงรำคาญ เมื่อถูกรบกวน

“ตื่นได้แล้วครับ ลูกแมวน้อยขี้เซา” มนัสชัยปลุกคนรัก ด้วยการกอด กระซิบเรียกข้างหู กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น หอมซอกคอระหง สูดดมความหอมที่เขาแสนคิดถึง “ตื่นได้แล้ว”

ไปรยาตื่นตามเขาต้องการ เธอพลิกกายมากอดตอบ ปรือตาที่เพิ่งหลับไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ขึ้นมองหน้าคนรัก

“ไหนบอกว่าจะกลับพรุ่งนี้ไงคะ”

“เบื่อเลยกลับก่อน” มนัสชัยตอบ “คิดถึงลูกแมวน้อยด้วย”

“แมวน้อยก็คิดถึงพี่เมฆค่ะ”

“ขอจูบหน่อยนะ คิดถึง”

“ไม่เอาค่ะ ฝนนอนแล้ว ตอนนี้ปากเหม็น”

“ไม่สน รักซะอย่าง” มนัสชัยไม่สนใจเรื่องใด ตอนนี้เขาคิดถึงไปรยามาก อยากได้จูบหวานๆ จากเธอ วินาทีต่อเขาได้ลิ้มรสหวาน แสนโหยหา เธอตอบรับจุมพิตเขากลับไปด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน และแน่นอนว่า มนัสชัยไม่เพียงแค่จูบริมฝีปากสาว เขาจูบเธอทั้งตัว ก่อนจบลงด้วยบทรักเร่าร้อน

เช่นเคยหลังจากจบบทเพลงพิศวาส สองหนุ่มสาวนอนกอดกัน ทว่ามนัสชัยไม่หยุดหอมแก้ม จูบปากไปรยา หญิงสาวที่ตนรักสุดหัวใจ

“คราวนี้หายเบื่อหรือยังคะ”

“พอได้กอดเจ้าแมวเหมียวแสนน่ารัก พี่ก็หายเบื่อทันที”

“กลับมาก่อนแบบนี้ คุณพ่อไม่ว่าหรือคะ” เธอรู้ว่า ครอบครัวเขาไม่ชอบตน ทว่ามนัสชัยบอกว่าไม่ต้องเป็นกังวล เพราะเขารักใครคือรักคนนั้น แม้ว่าทางบ้านไม่เห็นด้วยก็ตาม

“ไม่สน” ตอบสั้นๆ หอมแก้มเธอ “สนใจคนนี้คนเดียว รักที่สุดด้วย”

ไปรยายิ้ม จุ๊บปากเขาหนึ่งครั้ง

“ฝนรักพี่เมฆค่ะ รักที่สุดเช่นกัน”

“น่ารักแบบนี้ อีกสักยกเป็นไง”

“ตามใจพี่เมฆสิคะ ถ้ามีแรง”

“แหม ดูถูกกันนี่นา คืนนี้สามยกแน่”

มนัสชัยยิ้มกริ่ม ทำตามคำพูดทุกประการ อาจเพราะความคิดถึงจากการห่างเหินแค่สองคืนสามวัน ทำให้เขาบ้าคลั่ง พอได้กอดได้หอมถึงกับควบคุมตัวเองและความปรารถนาไม่อยู่ ปล่อยให้คลื่นเสน่หาทำงานตามความรู้สึก

ไปรยายังไม่ได้บอกเรื่องที่ตนเองตั้งครรภ์ให้มนัสชัยรู้ เพราะคิดว่า เวลานี้เขาอาจต้องการปลอดปล่อยอารมณ์คั่งค้าง จากแรงถวิลหา บอกพรุ่งนี้คงไม่สาย ขอเก็บเกี่ยวความสุขก่อนล่ะกัน

สายวันต่อมา

มื้อเช้าง่ายๆ จากฝีมือไปรยา ถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะอาหาร ตรงระเบียงห้องที่เปิดปิดได้ ข้างชามโจ๊กหมูใส่ไข่ มีปลาท่องโก๋ที่เธอลงไปซื้อใกล้กับคอนโดวางอยู่ เพราะมนัสชัยชอบกิน ขาดอีกหนึ่งอย่างคือ กาแฟดำใส่น้ำตาลสองก้อนที่เขามักดื่มตบท้าย

“โห กลิ่นหอมจังเลย” มนัสชัยสวมกอดคนกำลังจัดโต๊ะทางด้านหลัง หอมแก้มไปรยาหนึ่งฟอด ก่อนหมุนตัวเธอให้หันมาหาตน “คิดถึงฝีมือฝนที่สุด”

“ปากหวานแต่เช้าเลยนะคะ” ไปรยายิ้ม

“ปากหวานกับฝนคนเดียวนี่แหละ ชาตินี้รักใครไม่ได้แล้ว รักฝนคนเดียว ทั้งใจ” มนัสชัยจูบหน้าผากเธอ “ขอจูบรับอรุณหน่อยนะ”

“แล้วจูบเมื่อเช้าล่ะคะ”

“นั่นจูบรับวันใหม่ นี่จูบรับอรุณ ดูโน่นสิ พระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดีเลย” เขาพูดไปเรื่อย ทว่ากลั่นมาจากหัวใจ “พี่รักฝน รักที่สุด”

ไปรยายิ้มเปิดปากรับจุมพิตหวานรับอรุณ เย้ยดวงตะวัน เป็นจูบอันอ่อนหวาน ระคนด้วยความรักท่วมท้นหัวใจ นานร่วมสองนาทีกว่ามนัสชัยจะปล่อยปากสาวให้เป็นอิสระ

“คิดไม่ผิดนะเนี่ย ที่กลับมาก่อน ได้รักฝน ได้จูบฝน ได้อยู่กับฝน คือความสุขที่สุดของพี่”

“ฝนก็เช่นกันค่ะ รักพี่เมฆที่สุดเลย”

“ฝนเรียนจบ เราแต่งงานกันนะ ถ้าพี่ไม่ได้แต่งงานกับฝน พี่จะไม่แต่งงานกับใคร พี่จะรอฝนคนเดียว”

“ฝนไม่หนีพี่เมฆไปไหนหรอกค่ะ เราจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต” ไปรยาอยากพูดเรื่องสำคัญอีกเรื่อง แต่ก็คิดว่า ไว้หลังกินมื้อเช้า ค่อยพูดก็ยังไม่สาย “กินโจ๊กดีกว่าคะ จากร้อนๆ ตอนนี้คงอุ่นกำลังกิน เดี๋ยวฝนไปเตรียมกาแฟให้นะคะ”

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่จัดการเรื่องกาแฟเอง ฝนเป็นเมียพี่นะไม่ใช่คนใช้ ไม่ต้องทำให้พี่หมดทุกอย่างก็ได้” เขาบอกคนสวย “นั่งลงกินโจ๊กดีกว่านะ ฝนบอกว่ากำลังร้อนๆ ไม่ใช่เหรอ”

ไปรยานั่งลงบนเก้าอี้ข้างคนรัก ก่อนทั้งคู่กินมื้อเช้าเช่นทุกวันมาตลอดหนึ่งปี ที่ตัดสินใจมาอยู่ด้วยกันที่นี่ และมีความสุขร่วมกัน ดังสามีภรรยา แม้ว่าทั้งคู่อยู่ในสถานะนักศึกษา แต่เรื่องอยู่ก่อนแต่งไม่ใช่เรื่องใหญ่ในยุคสมัยนี้

มนัสชัยเอาใจคนทำอาหารให้กิน เขาฉีกปาท่องโก๋เป็นชิ้นพอดีคำ วางลงในชามก่อนตักโจ๊กพร้อมปาท่องโก๋ แล้วป้อนให้เธอกิน

“ฝีมือเมียพี่อร่อยเหมือนเดิมเลยนะ” เขาชมเปราะ

“ขอบคุณค่ะสำหรับคำชม” เธอยิ้มหวาน “พี่เมฆคะ ฝนมีเรื่องจะบอกค่ะ”

“เรื่องอะไรครับ”

“เรื่อง...” เสียงเธอถูกคั่นด้วยเสียงเรียกเข้าจากมือถือมนัสชัย เขาหลุบตามองเบอร์ที่โทรเข้ามา รีบหยิบมันขึ้นมากดรับสาย

“ครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ครับ” น้ำเสียงมนัสชัยร้อนรนมาก

“มีอะไรหรือคะพี่เมฆ”

“พี่นาคนดูแลคุณปู่โทรมาบอกว่า คุณปู่รถมอไซร์ล้ม ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล พี่ต้องไปดูคุณปู่ก่อนนะ คุณปู่ไม่มีใคร คุณป้านิดก็ไม่อยู่ด้วย” เขาตอบพร้อมลุกขึ้นยืน “ว่าแต่ เรื่องที่ฝนจะบอกพี่เรื่องอะไรครับ บอกมาเลยครับ”

“เอาไว้บอกวันหลังก็ได้ค่ะ พี่เมฆรีบไปดูคุณปู่เถอะค่ะ ขับรถดีๆ ด้วยนะคะ”

“โอเคครับ ไว้คุยกัน พี่ไปก่อนนะครับ” เขาโน้มหน้าหอมแก้มไปรยา ก้าวเดินออกจากห้อง เพื่อไปหาปู่มานพ ที่ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลปัญจรักษ์หัวหิน อีกหนึ่งสาขาของธุรกิจครอบครัว

ไปรยาเดินไปส่งคนรักหน้าลิฟต์ส่วนตัว เธอส่งยิ้มให้เขาด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก ในใจกระตุ้นหนักมากว่า ตนอาจไม่ได้พูดเรื่องที่ตั้งใจ ไม่รู้ว่า เหตุใดคิดเช่นนี้

นั่นสิ...ทำไม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel