บทที่ 9 คู่หูใหม่
คราวนี้ท่านยมหันพระพักตร์มาทางหนุ่มน้อยสูทดำที่ยืนเก้ๆ กังๆ โดยที่ยังทรงเท้าคางอยู่
"ขอรับท่านยม" ดาวเหนือรีบโค้งรอรับคำบัญชาจากท่านยม โดยซ่อนเหงื่อเม็ดโป้งที่ผุดขึ้นบนหน้าผากเอาไว้
"นับเงินอาจจะต้องพักหลายวัน ข้าจะให้เจ้าไปฝึกงานกับรองหัวหน้ายมทูตมานะ จนกว่านับเงินจะกลับมาทำหน้าที่ได้"
คำบัญชาของท่านยม ทำเอาเม็ดเหงื่อมากมายผุดพรายขึ้นบนใบหน้าของดาวเหนือ ราวกับว่ามันคือเหงื่อกาฬของผู้ที่กำลังเข้าใกล้วาระสุดท้ายของชีวิต ซึ่งเวลานี้ยมทูตฝึกหัดอย่างดาวเหนือรู้สึกแบบนั้นจริงๆ และถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น...
"ขอรับ" หนุ่มน้อยรับคำ โดยที่ยังไม่เงยหน้าขึ้น เพราะกลัวยมทูตข้างตัวจะเห็นเม็ดเหงื่อปริมาณมหาศาล แล้วซักถามจนความ (ในใจ) แตก
"พวกเจ้าทั้งสองมีข้อโต้แย้งหรือไม่?" ท่านยมถามความเห็นของสองยมทูตเป็นการปิดท้าย แน่นอน... หากมีใครสักคนที่โต้แย้งขึ้นด้วยเหตุผล พระองค์ก็พร้อมจะรับฟัง
"ไม่มีขอรับ" ทั้งดาวเหนือและมานะตอบรับขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ต่างชำเลืองมองกันและกันนิดหนึ่ง ก่อนที่ดาวเหนือจะเป็นฝ่ายหลบสายตาด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง
...ถ้าเขาทำอะไรพลาดไป หรือเผลอทำอะไรไม่ถูกใจรองหัวหน้าเข้า เคียวคมๆ นั่นจะมาเกี่ยวคอเขาด้วยหรือเปล่า!?
"หากไม่มีอะไรโต้แย้ง ก็จงกลับไปทำหน้าที่ของพวกเจ้า ส่วนงานที่เหลือของนับเงิน ข้าจะแบ่งให้ยมทูตทุกคนเท่าๆ กัน"
แม้จะอยากรั้งตัวเองไว้ในยมโลก ต่อหน้าท่านยมบาลให้นานที่สุด ทว่าดาวเหนือก็จำต้องกลับขึ้นไปบนโลกมนุษย์พร้อมกับคู่หูชั่วคราวคนใหม่ ที่จะมาเป็นครูฝึกให้กับเขาแทนนับเงิน
...ดาวเหนือมั่นใจว่าเขาคงได้วิชาเอาไว้ต่อยตีกับพวกมารสูทขาวเยอะแน่ๆ
"ทำใจหน่อยแล้วกันนะ ได้ผมเป็นครูฝึก"
จู่ๆ มานะก็พูดทำลายความเงียบขึ้น ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังยืนรอเวลารับดวงวิญญาณเจ้าของโรงฆ่าสัตว์ ผู้ไม่เคยให้ความเมตตากับใครมาทั้งชีวิต
"เอ่อ... ทำไมล่ะครับ รุ่นพี่มา..."
"ไมเคิล!" รองหัวหน้ายมทูตโซนประเทศไทยสวนขึ้น ด้วยชื่อที่ตนต้องการให้ 'ทุกคน' เรียก ไม่เว้นแม้แต่ท่านยม แม้ว่านั่นจะเป็นแค่ความหวังริบหรี่ลมๆ แล้งๆ ก็ตาม
"เอ่อ... ครับ รุ่นพี่ไมเคิล" ดาวเหนือรีบเปลี่ยนสรรพนามตามที่ไมเคิลต้องการ ก่อนที่อีกฝ่ายจะพลั้งมือทำเคียวเกี่ยวคอเขาขาด
"ผมคงสอนอะไรแบบที่มีสาระอย่างหัวหน้านับเงินไม่ได้" ไมเคิลวกกลับเข้าเรื่องที่ดาวเหนืออยากรู้คำตอบ
"ไม่เป็นไรครับ ผมก็จะเรียนรู้ในแบบที่รุ่นพี่เป็นนั่นแหละครับ คราวหน้ารุ่นพี่นับเงินจะได้ไม่ต้องบาดเจ็บขนาดนี้" ดาวเหนือสูดหายใจลึกๆ เรียกขวัญกำลังใจ ก่อนจะตอบคำพูดของไมเคิลออกไปด้วยสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจ หลังได้เห็นอาการบาดเจ็บของนับเงิน
ใช่... เขามันอ่อนแอเกินไป และควรเรียนรู้ที่จะแข็งแกร่งให้ได้มากกว่านี้ บางที... นี่อาจจะเป็นโอกาสที่เขาจะเติบโตในฐานะยมทูตเต็มตัวก็ได้!
"ตอบได้น่าสนใจดีนี่เด็กใหม่ เอาไว้นายได้เคียวเป็นของตัวเองเมื่อไหร่ ผมจะสอนวิธีใช้" ไมเคิลยิ้มให้ดาวเหนือ ถึงอย่างนั้นในสายตาของดาวเหนือ มันก็ยังมีร่องรอยของความเหี้ยมโหดแอบแฝงไว้ในรอยยิ้มนั้นอยู่ดี หนุ่มน้อยยอมรับว่าเขาไม่สามารถมองไมเคิลก๊อปปี้เหมือนเดิมได้อีกต่อไป นับจากช่วงเวลาที่เห็นอีกฝ่ายใช้เคียวยมทูตเกี่ยวมารสูทขาวตนนั้น... คอขาดต่อหน้าต่อตา
เปล่าเลย... เขาเองก็คิดเหมือนกันกับท่านยม ว่ามันไม่ได้มากเกินกว่าสิ่งที่พวกนั้นทำกับนับเงิน เพียงแต่เขาไม่เคยเห็นใครฆ่าคนได้โดยที่แววตายังคงนิ่งสนิทเหมือนอย่างไมเคิล... มันก็เท่านั้น ไม่แน่! เขาอาจชินไปเอง หลังจากฝึกงานอยู่กับรองหัวหน้าสักอาทิตย์ก็ได้
"แล้ว... ผมจะได้เคียวของตัวเองเมื่อไหร่หรือครับ?" ดาวเหนือรีบตั้งคำถามต่อ เพราะกลัวไมเคิลจะสงสัยในสิ่งที่ตัวเขาเผลอคิดฟุ้งซ่านไปไกลในเวลาไม่กี่วินาทีนั่น
"ก่อนหน้าที่นายจะได้ปฏิบัติหน้าที่จริง 1 วัน อืม... แต่ตอนนั้นหัวหน้าน่าจะหายสนิทแล้ว นายก็เลือกเองแล้วกันว่าจะให้ผมสอน หรือให้หัวหน้าสอน" ไมเคิลโยนการตัดสินใจกลับไปให้ดาวเหนือ ทำเอาหนุ่มน้อยไขว้เขว เพราะนับเงินเองก็ดูเก่งกาจในการใช้เคียวไม่น้อย
"หัวหน้าจะหายไวขนาดนั้นเลยหรือครับ สภาพแบบนั้น ถ้าเป็นคนธรรมดา น่าจะต้องรักษาเป็นเดือนเลยนะครับ" ดาวเหนือจ้องหน้าคนพูดอย่างคาดไม่ถึง
"นั่นมันคนบนโลก พลังวิญญาณอ่อนแอพอกับพวกมาร อย่างหัวหน้านับเงิน ผมเอาคอเป็นประกันเลยว่า ต้องลุกมาทำงานภายใน 3 วัน แต่ถ้าเป็นยมทูตคนอื่นก็น่าจะสัก 5 วัน" ไมเคิลเริ่มออกลายท้าพนัน ทำเอาดาวเหนือสะดุ้งเฮือก ในเมื่อไม่รู้ว่าคอที่เขากล้าเอามาใช้รับประกันนั้นเป็นคอของใคร
"เป็นเพราะพลังวิญญาณของหัวหน้าแข็งแกร่งใช่ไหมครับ?" ดาวเหนือยิ้มเจื่อนๆ พลางปาดเหงื่อเม็ดโป้งที่เริ่มผุดขึ้นเต็มหน้าผากอีกแล้ว
"เพราะว่าหัวหน้าดันทุรังต่างหาก!" ไมเคิลหัวเราะร่วน ตรงข้ามกับดาวเหนือที่หัวเราะไม่ออก หนุ่มน้อยได้แต่ฝืนยิ้มฝืดๆ เพราะไม่มั่นใจว่าถ้าหากตนพลอยผสมโรงหัวเราะนับเงิน เพื่อเอาใจยมทูตสายโหดอย่างไมเคิล จะมีตัวอะไรคาบข่าวไปรายงานนับเงินหรือเปล่า
"เอาล่ะๆ ทำงานกันดีกว่า ได้เวลาแล้ว"
จู่ๆ ไมเคิลก็หยุดหัวเราะและตัดบทตัวเองเสียเฉยๆ ชายหนุ่มหันไปหาเหยื่อ ซึ่งเวลานี้หมดลมหายใจแล้ว หลังจากร้องโหยหวนเป็นเสียงหมูมาตั้งแต่ก่อนที่ยมทูตทั้งสองจะมาถึง
"นายแสง อยู่เป็น... ป่วยโรคสมองขาดเลือดเสียชีวิต คอนเฟิร์มเคส" รองหัวหน้ายมทูตเรียกเครื่องบันทึกภาพรูปลูกตาแบบเดียวกับที่นับเงินใช้ ออกมาเก็บรายละเอียดทั้งหมด เป็นเวลาเดียวกับที่วิญญาณของนายแสงหลุดออกจากร่างขึ้นมานั่งหอบหายใจ ทว่า...
"เฮ้ย!! อะ... อะไรเนี่ย!?" ชายวัยใกล้เกษียณตัวอ้วนกลมเปี่ยมล้นด้วยไขมัน ถึงกับร้องลั่นเมื่อสังเกตเห็นบางสิ่งรอบตัวเขา
อู๊ดๆ อู๊ดๆ อู๊ดดดดด!!
"ทำไมถึงมีวิญญาณหมูเต็มห้องไปหมดแบบนี้ล่ะครับรุ่นพี่?" ดาวเหนืออดสงสัยไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาเขาเองก็ยังไม่เคยเจอเหยื่อของนับเงินที่มีวิญญาณสัตว์รายล้อมมากมายแบบนี้ อย่าบอกนะว่าคนคนนี้...
"มาส่งวิญญาณเจ้าของโรงเชือดไง" ไมเคิลตอบดาวเหนือ ก่อนจะหันไปพูดกับงูคู่หูที่พันอยู่บนบ่าราวกับผ้าพันคอ "มูน... จัดการเลย"
ฟ่อออออออ!!
คู่หูสีดำสนิทของไมเคิลส่งเสียงตอบรับ แล้วเลื้อยลงจากร่างของเขาเข้าไปหาเหยื่อช้าๆ พร้อมกับปล่อยรังสีอำมหิตแผ่ซ่าน จนวิญญาณหมูทั้งหลายต้องหลีกทางให้
"มูนนี่คือข้าวเหนียวมูนเหรอครับ?" ดาวเหนือหลุดถามแปลกๆ ออกมา และกว่าที่หนุ่มน้อยจะรู้ตัว ไมเคิลก็หันมาจ้องหน้าเขาด้วยสายตาว่างเปล่าเสียแล้ว
"มูนที่ย่อมาจากมูนวอล์ก นายไม่รู้จักงั้นเหรอ?" ไมเคิลถามกลับเสียงเย็นยะเยือก ทำเอาดาวเหนือเสียวสันหลังวาบ
"ระ... รู้สิครับ ผมขอโทษครับรุ่นพี่!!" ดาวเหนือหลับหูหลับตายกมือไหว้อีกฝ่ายท่วมหัว แต่ท่าทางเหมือนกำลังตั้งรับเคียวที่อาจพลาดตกใส่หัวเสียมากกว่า
"ข้าจะนำตัวชายผู้นี้ไปรับโทษในนรก พวกเจ้าจงไปตามกรรมของตัวเองได้แล้ว" ไมเคิลไม่ตอบดาวเหนือ แต่กลับหันไปพูดกับวิญญาณหมูทั้งหลายภายในห้องแทน ทำเอาดาวเหนือหัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม ยิ่งเห็นเจ้ามูนคู่หูของไมเคิลรัดวิญญาณเหยื่อจนไขมันแทบทะลัก เขาก็ยิ่งเป็นห่วงชะตากรรมของตัวเอง
