บทที่ 5 เหยื่อรายที่ 2
"คิดจะหลอกลวงคุณป้าจริงๆ ด้วย ปล่อยไว้ไม่ได้!!" ยมทูตหนุ่มน้อยกระโจนออกมาจากหลังเสาไฟ แล้ววาร์ปข้ามรั้วบ้านคุณป้าเข้าไปยืนจังก้าทำหน้าบ้าพลังอยู่ในสนามหญ้า
"หยุดเลยนะเจ้าคนลวงโลก!"
เสียงโวยวายของดาวเหนือเรียกให้ก้อนดินหันขวับไปหา ทว่าคราวนี้คนที่เห็นไม่ได้มีเพียงเขาคนเดียว
"ว้าย! นี่เธอเข้ามาในรั้วบ้านฉันได้ยังไง ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ใครอนุญาตให้เธอเข้ามา" คุณป้าเองก็มองเห็นดาวเหนือ แถมยังโวยวายกลับข้อหาที่เขาบุกรุกเข้ามาในเขตพืชสวนของนางโดยไม่ได้รับอนุญาต
"คุณป้าใจเย็นๆ ก่อนครับ ผมเข้ามาช่วยคุณป้านะครับ หมอนี่มันกำลังจะหลอกขายเครื่องกรองน้ำให้คุณป้าครับ" ดาวเหนือพยายามปรับคำพูดให้เหมือนมนุษย์ธรรมดาพูดคุยกัน ถึงอย่างนั้น...
"ใครมันจะมาหลอกฉันได้ อย่ามาดูถูกฉันนะ ฉันมีความคิด ไม่ได้โง่ให้ใครมาจูงจมูก ออกไปเลย ออกไป!"
ท่าทางเกรี้ยวกราดของคุณป้า ทำเอาดาวเหนืออิดหนาระอาใจ โอเค... ถ้าคุณป้าต้องการอย่างนั้นล่ะก็
"งั้นก็ได้ครับ เอาที่ป้าสบายใจเลย" เขาตอบกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉย ซ้ำยังแกล้งวาร์ปหายไปต่อหน้าต่อตาคุณป้า ก่อให้เกิดเสียงกรีดร้องสนั่นหวั่นไหวสามบ้านแปดบ้าน
"กรี๊ดดดดดด!! ผี... ผีแน่ๆ ฉันเห็นผีกลางวันแสกๆ เธอก็เห็นใช่ไหม นี่! เธอก็เห็นใช่ไหม" คุณป้าถามพลางเขย่าตัวก้อนดินด้วยแรงมหาศาล จนเขาหัวสั่นหัวคลอน
"ผม... เอ่อ... ไม่เห็นอะไรเลยครับคุณพี่" ก้อนดินตัดบท ทว่าคุณป้าไม่ยอมจบแค่นั้น
"ทำไมไม่เห็นล่ะ แล้วทำไมฉันเห็น โอ๊ย!! ไม่เอาแล้ว ฉันอยู่มาจนอายุเท่านี้ไม่เคยเห็นผี พอเจอเธอ ฉันกลายเป็นคนเห็นผีไปเลย ออกไปๆ ฉันไม่ซื้ออะไรกับเธอทั้งนั้น"
สุดท้ายความพยายามของดาวเหนือก็เป็นผล ก้อนดินขายเครื่องกรองน้ำให้คุณป้าแว่นเหลี่ยมไม่ได้ และเขาก็เซ็งจนไม่มีอารมณ์จะขายให้ใครต่อ ชายหนุ่มเก็บเครื่องกรองน้ำลงกระเป๋าเดินทางล้อลาก ก่อนจะจากรั้วบ้านของคุณป้ามา โดยมีดาวเหนือยืนยิ้มกริ่มสมน้ำหน้าอยู่ข้างหลัง
"เฮ้ย! ก้อน จะกลับแล้วเหรอ?" เซลล์เครื่องกรองน้ำแก๊งเดียวกับก้อนดิน ร้องถามเมื่อเห็นเพื่อนเดินซังกะตายผ่านไปช้าๆ ถึงอย่างนั้นก้อนดินก็ไม่ได้เอ่ยปากตอบอะไร นอกจากยกมือซ้ายขึ้นโบกไหวๆ เป็นสัญญาณ
"อ้าวๆ หมดกำลังใจขายไปเลย มิชชั่นคอมพลีทสิเนี่ย" ดาวเหนือยิ้มสะใจ แล้วหันหลังกลับ ตั้งใจจะวาร์ปเล่นในหมู่บ้านก่อน แต่กลับต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเจอนับเงินกำลังยืนกอดอกมองเขา แววตาจับผิด
"พี่ให้ไปเตรียมฟิตร่างกายรับมือพวกมารพรุ่งนี้ แล้วเรามาทำอะไรตรงนี้?"
คำถามแบบยิงตรง ไม่อ่อมค้อมของหัวหน้ายมทูตสาว ทำเอาดาวเหนือยิ้มเจื่อนๆ
"เอ่อ... คือผม... มาดูเหยื่อของผมน่ะครับ" เขาตอบความจริงแค่ครึ่งเดียว แต่มีหรือที่เรื่องแค่นี้นับเงินจะไม่รู้
"บอกมาให้หมด... เดี๋ยวนี้" เธอย้ำเสียงเข้ม ดวงตาที่จ้องมองมายังยมทูตหนุ่มรุ่นน้อง ทรงพลังเสียจนเขาต้องรีบอ้อมแอ้มตอบความจริงที่เหลือ
"ผมเห็นหมอนั่นกำลังหลอกขายของให้ชาวบ้าน ก็เลย... ไปทำให้หมอนั่นขายของไม่ได้... เอ่อ... แค่นั้นเองครับ" ดาวเหนือยิ้มแห้ง ทำใจดีสู้เสือ ตาเหลือบมองนับเงินนิดหนึ่ง แล้วรีบเฉไฉมองไปที่อื่น เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงจ้องเขม็งมา
"ทำแบบนั้นไม่ได้ มันไม่ใช่หน้าที่ของพวกเรา" เธอส่ายหน้าเอือมระอาในความเผือกนั้น
"จะให้ผมปล่อยให้ชาวบ้านโดนหลอกเหรอครับ?" คราวนี้ดาวเหนือถามย้ำ สีหน้าจริงจัง
"หน้าที่ยมทูตไม่ใช่การช่วยเหลือคน แต่เป็นการนำส่งดวงวิญญาณลงนรก ถ้าหน่วยยมทูตอยากได้คนที่พร้อมช่วยเหลือมนุษย์โลกทุกเมื่อ เราจะเลือกคนเทาๆ ที่พึ่งพ้นโทษในนรกทำไม" นับเงินเองก็ตอบคำถามของเขาด้วยสีหน้าจริงจังเช่นกัน
"ขอโทษครับ... เพราะแบบนี้ รุ่นพี่เลยมาตามผมที่นี่เหรอครับ?" ดาวเหนือถามด้วยความรู้สึกสำนึกผิด ที่ทำให้รุ่นพี่ต้องเดือดร้อน ลำบาก เสียการเสียงาน
"เปล่า... พี่มารับเหยื่อ ไหนๆ เราก็อยู่ที่นี่แล้ว มาด้วยกันสิ" นับเงินไม่พูดเปล่า แต่ตะปบไหล่ยมทูตหนุ่มรุ่นน้องแล้วพาวาร์ปไปที่หน้ารั้วบ้านของเหยื่อที่ว่าทันที
และแล้วดาวเหนือก็พบว่า...
"ขะ... ขะ... คุณป้าคนนั้น!!" เขาอ้าปากค้าง เมื่อได้รับรู้ว่าคุณป้าผู้เกือบกลายเป็นเหยื่อนักต้มตุ๋นอย่างก้อนดินคนนั้น คือเหยื่อคนถัดไปของนับเงิน
นั่นสินะ... เขาลืมคิดลืมเฉลียวใจไปซะสนิท ตอนที่คุณป้ามองเห็นเขาตอนนั้น
"คุณป้าเค้า... จะเสียเพราะอะไรครับ?" ดาวเหนือถามขึ้นขรึมๆ เวลานี้คุณป้าที่เคยกรีดร้องอยู่ในสนามหญ้าหน้าบ้าน เพราะเห็นผียมทูตเมื่อครู่ กลับเข้าไปในบ้านแล้ว และภายในบ้านก็เงียบสนิท ราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ อาศัยอยู่เลย
"หยุดหายใจ เครื่องในชำรุด"
คำตอบของนับเงิน ทำให้ดาวเหนือต้องหรี่ตามองหัวหน้ายมทูตสาวอย่างจับผิด เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าเธอตอบล้อเลียนคำว่า 'เสีย' ของเขา หรือนั่นคือความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นกันแน่
"ได้เวลาแล้ว... เราเข้าไปข้างในกัน" นับเงินคว้าแขนดาวเหนือวาร์ปเข้าไปภายในบ้านของคุณป้า ตรงที่ที่คุณป้ากำลังล้มนอนกุมหน้าอก ตัวสั่นระริกด้วยความเจ็บปวดระคนขาดอากาศ
"ยะ... อย่าบอกนะครับว่า คุณป้าเห็นผมเป็นผี เลยกลัวจนหัวใจวาย!?" ดาวเหนือถอยหลังไปก้าวหนึ่งด้วยอาการช็อก เพราะเข้าใจว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้คุณป้า... ถึงฆาต
"เปล่า... ก็แค่รอลูกพาไปตรวจสุขภาพประจำปี... นานไปหน่อย" นับเงินยังคงมองเหยื่อทุกคนของเธอด้วยสายตาเย็นชา ต่างจากดาวเหนือที่ดวงตาของเขาวูบไหวไปกับสิ่งที่ได้ยิน
"น่าสงสารนะครับ" เขาเบือนหน้าหนีภาพอาการชักเกร็งตรงหน้า พลางกำหมัดแน่น
"ก็นะ... ตีลูกแบบไร้เหตุผล อยากให้ลูกเป็นอย่างที่ตัวเองต้องการ โดยไม่ได้สนใจความรู้สึกของเขา พอเขาโบยบินไปได้ ก็ไม่แปลกที่เขาจะไม่กลับมา" นับเงินมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า แล้วรายงานกับเครื่องบันทึกภาพรูปลูกตาในมือ "นางดวง เสียงดังดี" หัวใจวายเสียชีวิต... คอนเฟิร์มเคส"
ความเงียบเข้าครอบงำยมทูตทั้งสอง ตลอดเวลาที่เขาและเธอนำส่งดวงวิญญาณคุณป้าลงสู่นรก ท่ามกลางเสียงคร่ำครวญร้องไห้ตัดพ้อของคุณป้า ซึ่งพร่ำต่อว่านรกสวรรค์ฟ้าดิน ที่ไม่เห็นบุญกุศลอันท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรงแต่ก่อนเก่าของนาง จนดาวเหนืออดคิดไม่ได้ว่า คนเหล่านี้ไม่ได้มีความทรงจำเกี่ยวกับความชั่วที่ตัวเองเคยก่อเลยหรือไง
"รุ่นพี่เหลืออีกกี่เคสครับ?" ดาวเหนือถามขึ้นอีกครั้ง หลังจากผู้คุมลากตัวคุณป้าชุดมัดย้อมไปรับการพิจารณาโทษ
"10 เคส และเราต้องไปกับพี่... เท่านั้น จากนี้จะไม่มีการปล่อยกลับก่อนเวลาอีกแล้ว" นับเงินยื่นคำขาด ซึ่งดาวเหนือก็ยอมรับคำแต่โดยดี เขาติดตามนับเงินไปรับเหยื่อของเธอคนแล้วคนเล่า และหวังว่าสักวันเขาจะมองการตายของเหล่าคนชั่วทั้งหลาย ด้วยสายตาว่างเปล่าและเย็นชาได้อย่างหัวหน้ายมทูตบ้าง
"จบเคสสุดท้ายของวันนี้แล้ว เคสของวันพรุ่งนี้จะเริ่มเที่ยงคืน ก็... อีก 2 ชั่วโมงนั่นแหละ เรามีเวลาพักนิดหน่อย"
คำพูดกับท่าทางผ่อนคลายของนับเงิน ทำเอาดาวเหนือหันขวับไปจ้องหน้าเธอพร้อมกับทวนคำพูดนั้น
"ฮะ... เที่ยงคืน... เหรอครับ?"
"ใช่... มีคนตายตลอด 24 ชั่วโมงก็จริง แต่พอถึงเที่ยงคืนก็จะนับเป็นวันใหม่เหมือนบนโลกมนุษย์ แถมเคสเที่ยงคืนนี่แหละที่เราอาจจะเจอพวกมาร"
สีหน้าผ่อนคลายของนับเงินเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด ทันทีที่พูดถึงเหล่าศัตรูตัวฉกาจของยมทูตอย่างพวกเธอ!!
