Ep3 คนเย็นชาไร้ความรู้สึก
….
หลังจากคำพูดที่หลุดจากปากของเธอไป จารุวรรณหน้าชาเล็กน้อย แต่ฤทธิ์บรั่นดีทำให้เธอไม่อาจห้ามใจเอ่ยสิ่งที่คิดอีก
ฟาเอลเงยหน้ามองเธอเต็มตา สายตาคมเข้มที่เคยดูว่างเปล่ากลับมีประกายบางอย่างซ่อนอยู่ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน
“เย็นชา ไร้ความรู้สึก… อย่างนั้นหรอ?” เขาทวนคำพูดของเธอเบาๆ ก่อนวางแก้วในมือลงบนโต๊ะไม้ดัง “กึก” แล้วยื่นตัวมาข้างหน้า เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เธอจนปลายจมูกแทบจะชิดกัน เธอเผลอชะงักมองเขาตอบ หัวใจเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ เธอมองหน้าเขาจนแทบลืมหายใจ
“ผมไม่ได้ลืมทุกอย่างหรอกนะ…” น้ำเสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างกันก่อนพูดอีกว่า “…ผมจำคุณได้”
“…” จารุวรรณชะงัก ดวงตาเบิกกว้าง
‘นี่นายก็จำฉันได้เหมือนกันอย่างนั้นหรอ’
ในใจลึกๆ ของเธอพองโตเป็นบ้า
“สิบปีก่อน…ในโรงเรียนกีฬา” เขาพูดต่อแผ่วๆ สายตาลึกซึ้งจนสะกดเธอไว้ได้ “ผมจำได้ว่าคุณชอบนั่งดูพวกผมฝึกซ้อม สายตาที่คุณมองมา ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ”
เธออ้าปากค้างเล็กน้อย ใบหน้าแดงจัดเพราะฤทธิ์ของน้ำเมาและคำพูดของเขาที่จู่ๆ ก็เจาะจิตใจเธอได้อย่างแม่นยำ
“คุณ…จำได้?” เสียงเธอสั่นพร่า
ฟาเอลหัวเราะในลำคอเบาๆ มือหนาวางบนโต๊ะ เอื้อมมาลูบหลังมือเธออย่างเชื่องช้า ปลายนิ้วร้อนของเขาสัมผัสแตะกันอย่างนุ่มนวลแต่กลับสะกดให้เธอแทบไม่กล้าขยับ
“ใช่….ผมไม่ได้ลืม…” เขากระซิบเสียงทุ้มต่ำกว่าเดิม ใบหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนผ่าวกระทบแก้มเธอ “และผม…” เขาหยุดนิ่งชั่วครู่ สบตาเธอด้วยแววตาลึกจัด “และผม…ก็ยังอยากรู้อะไรหลายอย่างเกี่ยวกับคุณ” แผนการขั้นสองเริ่มแล้วสินะ ยังไงเขาต้องตีสนิทเธอให้ได้
เธอเม้มปากแน่น ใจสั่นระรัวอย่างบอกไม่ถูก ลมหายใจเริ่มติดขัด ในหัวรู้ว่านี่มันไม่ควร…แต่หัวใจกลับต้านไม่ไหว
มือหนาของเขาเอื้อมมาสัมผัสข้างแก้มเธอเบาๆ อบอุ่นแต่ทรงพลังจนเธอหลับตาลงโดยไม่รู้ตัว
“…ฟาเอล…” เสียงเธอแผ่วเบา ราวกับเป็นการขอให้เขาหยุด หรืออาจจะเป็นการขอให้เขาทำต่อกันแน่นะ
“อยากรู้ไหมล่ะ ว่าผมเย็นชา และไร้ความรู้สึกอย่างที่คุณพูดจริงๆ หรือเปล่า”
หญิงสาวหัวใจเต้นระรัวจนเขาน่าจะจับได้
แล้วในความเงียบงันในครัวกลางดึกก็ถูกความเร่าร้อนมาปกคลุม บรรยากาศตอนนี้มันชวนให้เธอหายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อจู่ๆ ชายหนุ่มขยับมาหาเธอใกล้ๆ เขาก็ไปยืนพิงที่เก้าอี้ของเธอ ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาหาเธออย่างช้าๆ ริมฝีปากหยักหนาของเขาก็แนบลงมาที่ริมฝีปากบางของเธออย่างแผ่วเบาในตอนแรก…แล้วค่อยๆ กดแน่นขึ้น รสจูบของเขาอบอุ่น ร้อนแรง ปนรสชาติของบรั่นดีจางๆ ที่ยังติดปลายลิ้นของเธออยู่…
‘รู้สึกดีจัง’
เธอเผลอครางเสียงสั่น นอกจากจะไม่ห้ามเขาแล้ว เธอยังเอื้อมมือเล็กคว้าปลายแขนเขาแน่นราวกับว่าว่าตัวเองจะล้มเพราะห้ามร่างกายตัวเองไม่ได้ ร่างบอบบางสั่นเทิ้มอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่
“อื้ม…” คนร่างเล็กเผลอครางเบาๆ ออกมา
เขาเองก็เหมือนน้ำมันที่โดนไฟ เสียการควบคุมไม่ต่างกัน ไม่คิดว่าแค่จูบเธอเล่นๆ เขาจะเสียอาการได้มากถึงเพียงนี้ ร่างสูงใหญ่ขยับลุกขึ้น ยกตัวเธอขึ้นมานั่งบนโต๊ะไม้อย่างง่ายดาย ร่างเธอแนบชิดเขามากขึ้นจนรู้สึกถึงอุณหภูมิรุ่มร้อนจากร่างกายของเขา
“คุณรู้ใช่ไหมว่าผมกำลังจะทำอะไร…”
เขากระซิบเสียงแหบพร่า ขณะที่ริมฝีปากเริ่มแทะเล็มซอกคอเธออย่างเต็มที่
“รู้…”
เธอพึมพำเสียงสั่น ริมฝีปากแห้งผากแต่กลับอยากสัมผัสเขาให้มากกว่านี้เช่นกัน และสมองก็สั่งว่าไม่อยากให้หยุด
“รู้แล้ว…” เขาถามเธอต่อ
“แล้ว?” เธองง รู้แล้วจะยังไงงั้นหรอ แต่เขาก็ชิงตอบก่อน
“รู้แล้ว…ยังจะให้หยุด หรือจะให้ไปต่อ…”
ผู้ชายที่ไหนเขาถามผู้หญิงแบบนี้กัน หญิงสาวเขินอายกับคำถามของเขาจนหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ ในใจก็ปรารถนาเขาอย่างที่สุด แต่อีกใจก็นึกหวงร่างกายของตัวเอง แม้เธอจะแอบมีใจให้เขามานาน แต่ก็ใช่ว่าเขาจะรักเธอตอบนี่นา สมองน้อยๆ ตอนนี้มันกลับดับวูบลงอีกครั้ง เมื่อคนตัวใหญ่จาบจ้วงริมฝีปากลงมายังกลีบปากบางของเธออย่างคนเอาแต่ใจ
เขาลิ้มรสริมฝีปากของเธออย่างช้าๆ เนิบนาบและอ้อยอิ่งเนิ่นนาน ปลุกเร้าความปรารถนาที่ถูกเก็บซ่อนอยู่ด้านใน ซึ่งมันก็เป็นผล เธอเก็บซ่อนมันมานานจริงๆ ลิ้นของเขาค่อยๆ แทรกเข้ามาสำรวจความนุ่มลึกจากข้างใน สร้างความรู้สึกหวามไหวราวกับคลื่นอารมณ์ที่กำลังซัดสาดเข้าหาฝั่ง ยิ่งเธอตัวสั่นเทา เขาก็ยิ่งอยากแกล้ง นี่เธอไม่ประสาจริงๆ หรือเสแสร้งกันแน่ เดี๋ยวก็รู้
เสียงลมหายใจของทั้งคู่ดังประสานกัน ร่างกายเธอสั่นน้อยๆ จนคนตัวสูงต้องใช้มือหนารั้งสะโพกเธอให้นั่งมั่นคงบนโต๊ะไม้ต่อ ร่างเธอเล็กกว่าจนดูเหมือนกำลังถูกเขากักขังไว้ด้วยอ้อมแขนทรงพลัง
ริมฝีปากหนาของฟาเอลบดเบียดริมฝีปากนุ่มนิ่มของเธออีกครั้ง คราวนี้รุนแรงกว่าเดิมเล็กน้อย…แต่กลับอ่อนโยนเหมือนต้องการให้เธอรับรู้ว่าตอนนี้…เขากำลัง “ต้องการ” เธอมากแค่ไหน
“อื้อ…”
เสียงครางแผ่วในลำคอของเธอ ทำให้เขายิ่งปลุกไฟบางอย่างที่ซ่อนเร้น มือหนาเลื่อนจากแก้มเธอไล้ไปตามลำคอระหง ก่อนหยุดอยู่ตรงกระดุมเสื้อชุดนอนที่เธอใส่ ปากเขาสั่นน้อยๆ เหมือนมือของเธอในตอนนี้ไม่ต่างกัน
เขาเงยหน้าขึ้นช้าๆ สบตาเธอด้วยดวงตาคมลึก ราวกับกำลังถามเธอโดยไม่พูดออกมา แต่แล้วริมฝีปากหยักหนาก็เอ่ยถามกันอีกรอบ
“แน่ใจหรอ ว่าจะให้ผมไปต่อ…?”
จารุวรรณหลับตาลง ริมฝีปากบางสั่นน้อยๆ ก่อนพยักหน้าแทนคำตอบ ทั้งที่รู้ว่าทางนี้ไฟกองนี้มันอันตราย แต่เธอ…ก็อยากลองเดินเข้าไปหามัน
ฟาเอลยิ้มมุมปากบางๆ เหมือนผู้ชายที่รู้ว่าตัวเองได้ยินคำตอบแล้ว เขากดจูบลงบนหน้าผากเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู แล้วช้อนอุ้มหญิงสาวเดินขึ้นไปด้านบน
“ห้องผม หรือห้องคุณ”
เขาเอ่ยถามอย่างหน้าตาย ซึ่งคนตัวเล็กก็ยังคงซุกใบหน้ากับแผงอกกว้างของเขาอย่างเงียบงัน และนั่นมันทำให้ก้าวยาวๆ ของเขาเลือกที่จะเปิดเข้ามาในห้องของตัวเอง เขาวางเธอลงบนที่นอนกว้างอย่างช้าๆ จากนั้นก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเธอออกทีละเม็ด… ทีละเม็ด
ฟุ่บ…
ผ้าที่แผ่วเบาร่วงลงจากไหล่เล็ก เผยให้เห็นผิวเนียนสะอาดตา ผิวของเธอละเอียดสะท้อนแสงไฟสลัวในห้องกว้างกลางดึก
“สวย…”
เขาพึมพำเสียงต่ำ สายตาคมเข้มแทบกลืนกินทุกอย่างตรงหน้า มือหนาลูบไล้ลงมาที่เอวคอดของเธออย่างแผ่วเบาแต่ทรงพลัง จารุวรรณตัวสั่นระริก ปลายนิ้วเขาร้อนผ่าวแต่กลับทำให้เธอเหมือนถูกไฟแผดเผาอย่างเร่าร้อน
“ฟาเอล…”
เสียงเธอแผ่วเบาราวกับสายลม เธอหลับตาแน่นปี๋ราวกับกลัวอะไรในใจบางอย่าง
เขากดปากลงที่เรือนกายของเธอ ลามไล้ริมฝีปากลงมาเรื่อยๆ จนแตะสัมผัสที่เนินเนื้อสีสวย ทำให้หญิงสาวแทบละลายหายไปกับอากาศ ณ เวลานั้น เขาตวัดปลายลิ้นสัมผัสและลิ้มรสอย่างช้าๆ ทำเอาร่างน้อยๆ ของเธอปั่นป่วนไปทั่วร่าง จากนั้นเขาก็ยกก้นของเธอขึ้นก่อนจะดึงกางเกงนอนลงมาจนถึงเข่า และเกี่ยวมันออกจากขาทั้งสองข้างอย่างง่ายดาย
“อื้ม….”
เธอเผลอร้องส่งเสียงเบาเมื่อปลายนิ้วสากหนาของเขาเลื่อนลงมากลางกาย เขาใช้ปลายนิ้วลากผ่านความอ่อนนุ่มตรงจุดกระสัน มือใหญ่หนาจับขาเธอให้แบะอ้ากว้างออก ก่อนที่ปลายนิ้วสากจะกดลงช้าๆ ที่จุดเร้นลับตรงกลางร่างกายอย่างอ่อนโยน
“อ๊ะ…”
เธอสะดุ้งแรงและก็จับมือเขาไว้แน่น ในสมองมันสั่งให้หยุด ทว่าร่างกายมันกลับไม่เป็นตามประสงค์
เขาหยุดจ้องมองร่างกายขาวเนียนของคนตรงหน้า สัดส่วนอวบอึ๋มภายใต้เนื้อผ้าเนื้อดีที่เธอสวมใส่ ตอนนี้เขากำลังจะได้ครอบครองมัน ยิ่งนิ้วของเขาลากผ่านตรงจุดนั้นอย่างช้าๆ ยิ่งทำให้เธอสะกดกลั้นความรู้สึกแทบไม่ไหว
“ฟาเอล”
หญิงสาวเอ่ยเรียกชื่อเขาอย่างสะท้านอีกครั้ง
คนตัวสูงหันมาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง เขาถอดมันออกภายในเสี้ยววินาที
จากนั้นก็เริ่มจัดการกับคนตรงหน้าต่อ
….
