Ep4 เจ็บ!!
“ก็บอกว่าให้อยู่นิ่งๆ ไง”
เขาเริ่มหัวเสียกับม้าพยศที่เอาแต่นอนแน่นิ่งหนีบขาตัวเองเอาไว้ จากนั้นมือสากหนาก็ไม่รั้งรอ เขาจับขาของหญิงสาวให้อ้าถ่างออก สิ่งที่เห็นคือกลีบดอกที่มันปิดมิดชิด สีชมพูคล้ายของเด็กแรกรุ่น แต่เขาไม่ได้สนใจเรื่องพรรนี้มากนัก ก็สมัยนี้ใครต่อใครต่างก็ตกแต่งมันได้
มือหนาเริ่มจับเจ้าแท่งเอ็นแข็งๆ เขาสวมปอกให้มันและรูดขึ้นรูดลงอยู่สามสี่ทีก่อนจะจับหัวหยักบานให้มาจ่อตรงกลีบดอก ก่อนที่สายตาคมจะเหลือบจ้องใบหน้าสวยที่ตอนนี้ดูซีดเซียวและหลับตาปี๋
เขาไม่สนใจ จากนั้นก็เริ่มจับเจ้าไซซ์หกสิบสองมาตรง กลีบอูม เขาใช้มือข้างซ้ายเปิดกลีบดอกของหญิงสาวให้อ้าออก แต่แล้วคนร่างสูงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะใช้มือขวาค่อยๆ กดเจ้าแท่งยักษ์เข้ามาด้านใน
อึ่กก!!
รมิตาพยายามดันแผงอกของเขาออก ทั้งๆ ที่ตายังคงหลับปี๋
แล้ว….
ความคับแน่นของเธอ มันทำให้เขาถึงกับหันหน้าไปมองคนหน้าซีดอีกครั้ง … ใช่แล้ว … เขายัดมันไม่เข้า
“นี่เธอไม่เคยเอากับผู้ชายอย่างนั้นหรอ?”
“……”
หญิงสาวทำได้แค่พยักหน้า ทว่าตอนนี้เขาจะต้องเผด็จศึกกับเธอให้ได้ ในใจลึกๆ กลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่เขาจะได้เป็นคนแรกของเธอ ถึงคราวิทศ์จะหัวสมัยใหม่ ไม่สนใจเรื่องซิงไม่ซิงพวกนี้ แต่พอเจอเข้ากับตัวจริงๆ กลับรู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก
“ฉันจะทำเบาๆ เธอเองก็อย่าเกร็งตัว ทำตัวสบายๆ จะได้ไม่เจ็บ”
น้ำเสียงของเขาดูอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด เธอชอบจัง สิ้นเสียงพูดมันทำให้เธอลืมตาช้าๆ เพื่อจ้องมองเขา
“อื้มมม …”
แต่แล้วคนร่างหนาก็เริ่มบดริมฝีปากของเธออีกรอบ ครั้งนี้มันเป็นจูบที่ดุดันและแฝงไปด้วยความอ่อนโยน ครั้งนี้เขาเชื่อแล้วว่าเจ้าหล่อนไม่เคยจูบจริงๆ ลิ้นเล็กๆ เริ่มตอบสนองต่อลิ้นใหญ่หนาของเขาที่สอดแทรกเข้ามาด้านใน เขาใช้ปลายลิ้นเกี่ยวตวัดทุกซอกมุมปากของเธอ มืออุ่นร้อนก็ไม่ได้นิ่งเฉย เขาบีบเคล้นจนคนตัวเล็กเริ่มแดงจ้ำไปทั่วร่าง คนที่ถูกเขาสอนบทเรียนให้ ถึงกับเผลอร้องครางเสียงสั่นอย่างหลงลืมตัว
“อ๊ะ!!”
หญิงสาวร้องสั่นอีกคราเมื่อนิ้วหนาบรรจงเขี่ยที่ยอดถัน เขาเขี่ยปุ่มเล็กๆ ซ้ายขวาจนมันแข็งเป็นไต จากนั้นปากหยักหนาก็จ้วงตะปบเต้าตึงคู่สวยอย่างดูดดื่ม ราคะในตอนนี้มันทำให้รมิตาลืมไปเสียสนิทว่ามีอีกร่างที่นอนเป็นผักปลาอยู่ใกล้ๆ จากนั้นคราวิทศ์ก็เพิ่มแรงของริมฝีปากจ้วงงับหญิงสาวอย่างหนักหน่วงไปตามแรงอารมณ์จนน่าตกใจ จนหญิงสาวถึงกับต้องร้องห้ามเพราะความเจ็บ
“เจ็บค่ะ”
คนตัวสูงจึงได้ผละริมฝีปากออกจากเต้างามอย่างน่าเสียดาย เขาเห็นร่องรอยฟันของตัวเองที่มันเริ่มแดงเป็นปื้น ก็ช่วยไม่ได้ ใครบอกให้เธอหอมหวานเอง กินตรงไหนก็อร่อยไปหมด
จากนั้น…
เขาก็เริ่มพรมจูบจากซอกคอหอมกรุ่นของเธอลงมาเรื่อยๆ เขาลากไล้ลิ้นอุ่นร้อนลงมาตามร่องเนินหน้าท้อง มือหนาจับอ้าถ่างขาของเธอมากยิ่งขึ้น
“อื้ออออ ….”
คนเสียวถึงกับร้องครางเสียงหลง เมื่อจู่ๆ ก็มีอะไรอุ่นๆ จ้วงตวัดเข้าที่จุดกระสันของเธอ มันเป็นอะไรที่เสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ในสมองน้อยๆ ตอนนี้มันช่างลอยละล่องและขาวโพลนเต็มไปหมด นี่เธอจะเป็นของเขาแล้วอย่างนั้นหรอ คิดยังไม่ทันขาดคำ ก็มีเจ้าแท่งอะไรบางอย่างถูไถขึ้นลงตรงจุดเสียวของหญิงสาว
“มันจะเจ็บ แค่ช่วงแรก”
แล้วไอ้เจ้าไซซ์มหึมานั่นก็ถูกเขากระแทกและดันเข้าโพลงนุ่มนิ่มของเธอจนสุดแรง เธอเจ็บจนกัดริมฝีปากล่างของตัวเองจนเลือดออก
กึก!!!
“ซี้ดดด … แน่นเป็นบ้า”
จากนั้นคนตัวสูงก็พยายามดันเจ้าไซซ์หกสิบสองที่เหลืออีกครึ่งท่อนให้เข้ามาด้านใน
“เจ็บค่ะ”
เสียงเครือสั่นสะท้านไหวเอ่ยบอกเขาทั้งๆ ที่มืออีกข้างพยามเหยียดกายของเขาออก
“เธอคือคนของฉัน รมิตา เธอไม่มีสิทธิ์มาต่อรองใดๆ ”
แต่แล้วไอ้ใจเจ้ากรรมก็อ่อนยวบ เมื่อเห็นน้ำตาของเธอ
“จะร้องทำไม ถ้าคิดว่าไม่คุ้ม ฉันจะจ่ายให้เธอเพิ่ม”
นี่เขาคงเห็นเราเป็นได้แค่เครื่องบำเรอจริงๆ สินะ ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เสียอกเสียใจพังครืนอย่างไม่เป็นท่า นี่เธอเป็นบ้าอะไรไป ทำไมต้องรู้สึกเสียใจขนาดนี้
แล้วคนร่างสูงก็ต้องหัวเสียกับเสียงสะอื้นร้องของหญิงสาว เขาไม่ชอบที่เห็นเธอร้องไห้
ปัง!!
…
คนตัวสูงกว่า 192 ก็เดินดุ่มๆ ออกไปจากห้อง ปล่อยให้หญิงสาวที่เอาแต่ร้องไห้อยู่กับอีกคนที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น
…
“อะซิกๆ ฮือออ …”
เสียงร้องไห้ของหญิงสาวมันทำให้ตัววัดชีพจรของอีกคนเริ่มขึ้นๆ ลงๆ อย่างผิดจังหวะ ตอนนี้เปลือกตาที่หลับสนิทกับร่างที่ยังนอนแน่นิ่งกลับสั่นไหวอยู่หน่อยๆ
เธอยังคงร้องไห้และก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด จนร่างน้อยๆ เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
…
…
“ใครน่ะ?”
เมื่อเห็นว่าเหมือนมีฝีเท้าของใครบางคนเดินมาเธอถึงกับเอ่ยถาม
“ผมเอง”
ทว่าท่ามกลางม่านหมอกที่หนาทึบมันกลับทำให้หญิงสาวยังมองเห็นไม่ชัด แต่เสียงนี้ทุ้มนุ่มน่าฟังเหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
และแล้ว…
“นาย!! นายผี!!”
“ผมชื่อคีย์”
“ชื่อคีย์อย่างนั้นหรอ”
ทันทีที่หญิงสาวเห็นเขาใกล้ๆ ก็ถึงกับคลี่ยิ้มอย่างดีใจ
“คุณ!! คุณนั่นเอง นี่คุณฟื้นแล้วหรอคะ? ”
“อ่าห่ะ”
ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเข้มผมสีเทากลับตอบหญิงสาวไปเพียงสั้นๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆ เจ้าหล่อน เขาจับไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาว ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ เพื่อประทับรอยจูบ
“อุ๊ย!!”
ยอมรับว่าเธอตกใจมาก อีกอย่างเธอก็ยังไม่ทันตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ
“คุณเป็นของผม ไม่ใช่ของของเจ้าไคล์น ไอ้นั่นมันแอบขโมย ผมเจอคุณก่อนนะรมิตา”
“นี่นายรู้ชื่อฉันด้วยหรอคะ? ”
หญิงสาวเอ่ยถามเขาด้วยความสงสัย
“เรียกพี่คีย์เฉยๆ ก็ได้ อีกอย่างมิตาก็พึ่งจะ 25 ส่วนพี่ 32 แล้ว”
‘ทำไมแฝดคนพี่ถึงได้ดูสุภาพและเป็นกันเองจังล่ะ’
“แล้วไม่ดีหรอครับ? ”
“ค๊ะ!!”
‘อย่าบอกนะว่านายผีอ่านใจเราได้’
ตอนนี้ผีหนุ่มถึงกับหัวเราะหึหึในลำคอ
“ขำอะไรคะ!!”
“ป่ะ..เปล่าคร้าบ… มันมีกฏว่าห้ามไม่ให้หัวเราะด้วยหรอ”
ผีหนุ่มยังจะถามยอกย้อนเธอกลับ
“ว่าแต่พี่คีย์คะ?”
“ครับ ว่า?”
“เปล่าค่ะ มิตาแค่ดีใจที่พี่ฟื้นแล้ว นี่พี่ตัวจริงใช่ไหมคะคงไม่ใช่วิญญาณหรอกนะคะ”
“หนูอยากพิสูจน์มั้ยล่ะ”
…
“พิสูจน์ …” หญิงสาวย้ำคำ “พิสูจน์แบบไหนคะ?”
“หลับตาก่อนสิ”
แล้ววิญญาณผีเจ้าเล่ห์ก็เริ่มปฏิบัติการ เมื่อเห็นว่าคนตัวน้อยทำตามอย่างว่าง่าย เขาก็เริ่มขยับเข้าไปใกล้ๆ เธอ
‘มิน่าเจ้าไคล์นมันถึงอดใจไว้ไม่อยู่’
ก็คนตรงหน้าทั้งขาวทั้งสวย ซ้ำยังกลิ่นกายหอมไปทั่วทั้งห้อง ชายหนุ่มผมสีเทาถึงกับลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
ตอนนี้รมิตารู้สึกได้ว่ามันมีอะไรอุ่นร้อนนุ่มนิ่มมาทาบทับที่ริมฝีปาก เธอจึงลืมตาขึ้นด้วยสัญชาตญาณ แต่แล้วก็ต้องเผลอเผยออ้าปากด้วยความตกใจ ที่จู่ๆ ก็โดนคนพี่เข้ามาแอบขโมยจูบอีกรอบ ครั้งนี้มันทำให้ผีหนุ่มผู้หิวโหยเรื่องอย่างว่าแบบเขาถึงกับรีบแทรกเกลียวลิ้นเข้าไปยังโพรงปากนุ่มนิ่มด้านใน พลางคิดไปถึงสรีระอันน่ามองที่คนก่อนหน้าเปลื้องอาภรณ์ของเธอออก สำหรับเขาแล้ว เขาจะทะนุถนอมและแผ่วเบากับเธอให้ถึงที่สุด
ร่างแน่งน้อยก็พลอยแต่จะอ่อนปวกเปียกด้วยความไม่ประสา นั่นกลับทำให้ผีหนุ่มอย่างเขาชอบใจยิ่งนัก หญิงสาวที่หลับตาเคลิ้มกับรสจูบที่เขามอบให้ ลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดลงบนใบหน้างามมันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ยากที่จะต้านทาน เธอปล่อยให้เขาไล้สัมผัสไปตามอารมณ์ปรารถนา
“รมิตา … เป็นของพี่นะครับ”
คำพูดอ่อนโยน ทว่าเขากลับไม่รอคำตอบ จากนั้นริมฝีปากร้อนร้ายก็เริ่มซอกไซร้เข้าที่ต้นคอ มือสากหนาเริ่มเคล้นคลึ้งกับก้นงอนสวย
“อื้มมม …. จูบพี่ตอบหน่อยสิครับ”
จากนั้นเขาก็จับเอามือเล็กบางของเธอให้ไปกุมกับเจ้าแท่งแข็งๆ อะไรบางอย่าง
“อ๊ะ!!”
เธอพยายามจะชักมือออก แต่ก็มิวายที่เขาจะดึงทึ้งมือเล็กบางของเธอเอาไว้ ปากของทั้งคู่ยังคงประกบจูบกันอย่างซาบซ่าน ในขณะที่นิ้วเรียวบางยังคงกอบกุมเจ้าแท่งหนาๆ ไว้
“พี่หิวหนูจัง เป็นของพี่นะครับมิตา”
….
….
