Ep3 ทดลองสินค้า
“ในข้อตกลงมันไม่เป็นแบบนั้นนี่คะ”
เธอพยายามจะบอกกับเขาว่าในสัญญามันมีแค่แจ้งว่าให้เธอร่วมหลับนอนกับคนที่กำลังนิทราอยู่
“ข้อไหน? ”
“ก็…”
“ฉันมีสิทธิ์ในตัวของเธอทุกอย่าง เธอลืมข้อนี้ไปแล้วรึไง” ปากหยักหนายังคงเอ่ยบอก
สำหรับเขาแล้วเรื่องทางกายมันเป็นอะไรที่ธรรมดามากๆ ถ้าทำดีก็ได้ค่าแรงพิเศษเพิ่ม ก็แค่นั้น เพราะคนอย่าง คราวิทศ์ ไม่มีอะไรที่อยากได้แล้วไม่ได้ ผู้หญิงบางคนถึงกับยอมจะเป็นของเล่นของเขาซ้ำร้ายพวกหล่อนยังยอมเป็นเครื่องสังเวยกามให้พี่ชายฝาแฝดของเขาด้วย และผู้หญิงคนนี้เขาก็คิดเช่นนี้ไม่ต่างกัน แต่มิวายที่รมิตาจะได้ทันระวัง ชายหนุ่มก็ดึงทึ้งร่างของเธอเข้ามาสวมกอด มันทำให้หญิงสาวตกใจอยู่ไม่น้อย
“อุ๊ย!! เดี๋ยวค่ะ”
เสียงหืดหอบเอ่ยห้ามอย่างคนตกใจ เธอพยายามประวิงเวลาและขอร้องเขาอย่างอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่เขาจะยอมใจอ่อนให้เธอบ้าง ตรงกันข้ามมันกลับเปล่าประโยชน์ นอกจากเขาจะไม่หยุดแล้ว เขายังช้อนอุ้มตัวเธอและพาเดินไปยังอีกห้อง
….
กรึบ!!
เสียงปิดประตูมันทำให้เธอถึงกับใจหาย ตอนนี้เจ้าหล่อนรู้แล้วว่า ห้องๆ นี้คือห้องอะไร
แต่แล้ว เธอก็ต้องตกใจเป็นครั้งที่สอง
‘นาย!! นั่นนายผีจริงๆ ด้วย’
บุรุษร่างสูงที่นอนหลับใหลภายใต้ใบหน้าที่เหมือนกันกับคนตัวสูงที่พึ่งจะวางเธอลง เหมือนกันราวกับแกะ จะต่างก็ตรงสีผม ตอนนี้ร่างที่นอนแน่นิ่งที่มีผมสีเทา เธอยิ่งมั่นใจว่าเขาอาจจะตายไปแล้วแน่ๆ นี่เธอจะสามารถทำให้เขาฟื้นคืนมาได้งั้นหรอ ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าวิญญาณของเขามันออกจากร่างไปแล้ว
“คุณไคล์นคะ คือ…”
รมิตายังคงพูดอย่างตะกุกตะกัก
“คืออะไร” น้ำเสียงของชายหนุ่มเหมือนไม่พอใจเท่าใดนักกับท่าทางอึกอักของเธอ “จะเปลี่ยนใจตอนนี้คงไม่ทันแล้ว หรือถ้าเธอจะเปลี่ยนใจ ก็ต้องยอมรับกับค่าปรับมหาศาลให้ได้”
มันแน่อยู่แล้วว่าคนพวกนี้คิดจะทำอะไรย่อมรอบคอบ และมีหรือที่พวกเขาจะยอมเสียเปรียบ
“มิตาเคยเห็น… เคยเห็นคุณคนนี้ค่ะ”
คำพูดของเจ้าหล่อนมันทำให้ชายหนุ่มผมสีแดงถึงกับหัวเราะเสียงดังลั่น ก็มีที่ไหนที่เขาจะเชื่อยัยเด็กเลี้ยงแกะคนนี้อีก
“งั้นก็มาทดลองงานให้พี่ชายฝาแฝดฉันดูก่อนแล้วกัน เผื่อบางทีเจ้าคีย์มันจะยอมตื่น เธอก็ช่วยร้องครางดังๆ ด้วยล่ะ”
“อ่ะ .. อ๊ะ!! คุณ…”
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดจบ คราวิทศ์ก็จับใบหน้าของคนตัวน้อยให้แหงนขึ้นรับเอารสริมฝีปาก ปากหยักหนาอุ่นร้อนของเขาประกบเข้าทาบทับที่ริมฝีปากบอบบางของเธอ แต่แล้วคนตัวเล็กกลับเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น
“รมิตา!!”
ทันทีที่ถอนริมฝีปากออก เขาก็คำรามใส่เธอยกใหญ่
“ห้ามเม้มปาก”
‘ก็มันไม่เคยนี่ และตอนนี้ฉันก็ร้อนวูบวาบเหมือนจะเป็นลมแล้วด้วย’
เขาเริ่มตะโบมโถมจูบใส่คนตัวเล็กอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง โดยไม่สนเลยว่าร่างของใครกำลังหลับใหลอยู่ นิ้วสากหนาจับใบหน้าของหญิงสาว เขาบีบเข้าที่แก้มนวลของเธอจนเกือบจะสุดแรงเพื่อให้หญิงสาวเผยออ้าปากออก
“อื๊อ!!!”
เสียงร้องตกใจ กับความไม่ประสาของเธอมันยิ่งทำให้เขาคลุ้มคลั่ง นี่เธอแกล้งจูบไม่เป็นเพื่อเรียกร้องค่าตัวให้ตัวเองหรือยังไงกันนะ คนโมโหก็เริ่มจะหมดความอดทนในสิ่งที่เจ้าหล่อนแกล้ง
“เลิกเล่นได้แล้ว โก่งค่าตัวไปก็เท่านั้นล่ะ”
คำก็เหยียดหยาม สองคำก็โก่งค่าตัว นี่หรือคือจูบแรกของเรา หญิงสาวที่หัวใจแทบสลาย จู่ๆ มันก็บอกไม่ถูก เธอรู้สึกจุกเจ็บที่เขาต่างดูถูกกัน และแล้ว… คนตัวเล็กก็พยายามจะจูบเขาตอบเพื่อไม่ให้เขาว่าได้
ตอนนี้นี่เอง ..
กับท่าทางเก้ๆ กังๆ กับลมหายใจติดๆ ขัดๆ ของคนตัวน้อย มันทำให้ คราวิทศ์ถึงกับเลิกคิ้วสูง ก็ตอนนี้ร่างของเธอเอาแต่สั่นงกๆ
“จะเลิกสั่นได้รึยัง ไม่ต้องแสดงแล้ว ถึงยังไงเงินก็ได้”
ทำไมเขาต้องพูดให้เธอรู้สึกแย่ซ้ำแล้วซ้ำเล่ากันด้วยนะ หญิงสาวพยายามกลืนเจ้าก้อนเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก
“หรือจะให้ฉันปิดไฟ แต่คงไม่หรอกนะ เพราะฉันชอบดูสีหน้าของเธอตอนที่มีอะไรกัน”
และตอนนี้นั่นเองที่ชายหนุ่มก็พึ่งสังเกตว่าดวงตาน้อยๆ ของเธอมันแดงก่ำ แววตาที่เธอมองเขา มันทำให้คนตัวสูงถึงกับนิ่งไปเล็กน้อย เธอมองเขาด้วยสายตาแบบนั้นทำไมกัน เธอมีสิทธิ์จะมาต่อว่าเขาด้วยสายตาได้อย่างนั้นหรือ ก็เธอมันก็แค่ลูกจ้าง …
คราวิทศ์ อุ้มร่างของสาวน้อยจนตัวลอยละล่อง จากนั้นร่างสูงหนาก็นั่งตรงโซฟาตรงข้ามกับเตียงผู้ป่วย เขาวางเธอลงบนตักแกร่งของตัวเอง และเริ่มโถมจูบกับหญิงสาวอีกรอบ
“เดี๋ยวค่ะ ..”
รมิตายังคงก้มหน้างุดกับแผงอกหนาของเขา มือน้อยๆ ผลักแผงอกของเขาออก
“มีอะไร”
“….”
“ฉันถามว่ามีอะไร? ”
ชายหนุ่มเริ่มมีน้ำเสียงโมโห
“เราไม่ทำต่อหน้าคุณเขาได้ไหมคะ”
“อาย?? ”
น้ำเสียงของเขายังคงดูเย้ยหยัน
หญิงสาวทำได้แค่พยักหน้า
“ก็แค่ทดลองสินค้า จะต้องอายอะไรกัน เธออายุตั้ง25 แล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ ”
จากนั้นเขาก็จับหญิงสาวให้นั่งหันหน้าตรงมาหากัน และเริ่มละเลงรสจูบอันดื่มด่ำให้เธอต่อ คนที่โดนรสสัมผัสจากเขาตื่นเต้นไปพลาง หายใจติดๆ ขัดๆ ไปพลาง ซ้ำกันนั้นร่างบอบบางยังอ่อนปวกเปียกราวกับขี้ผึ้งลนไฟ ตอนนี้ชายหนุ่มชักติดใจรสจูบของเธอยิ่งนัก เธอดูจูบไม่เก่งเอาซะเลย ต่างจากผู้หญิงคนก่อนๆ ของเขา เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มหายใจไม่ออก เขาจึงผละริมฝีปากออกให้ รมิตารีบสูดเอาออกซิเจนเข้าปอดอย่างไวราวกับคนใจจะขาด
ตอนนี้หน้าอกของคนร่างน้อยที่กระเพื่อมขึ้นลงถี่ๆ มันยิ่งทำให้เขาอยากจะลิ้มลองสินค้า เขายอมรับว่าเธอสวยมาก แต่ก็นั่นแหละ สำหรับเขาแล้วมันก็แค่ความสุขทางกาย จากนั้นนิ้วสากหนาก็เริ่มเขี่ยซีทรูตัวจิ๋วบางนั้นออก ปากอุ่นร้อนเริ่มไซร้ที่ซอกคอขาว ตัวของเธอนุ่มนิ่มน่าสัมผัส ความเงียบที่ปกคลุมไปด้วยการทำงานของเครื่องปรับอากาศภายในห้อง มันทำให้เขาได้ยินทุกจังหวะการเต้นของหัวใจเธอ
“ตื่นเต้นหรอ”
“อื้อ …” พูดพลางพยักหน้าตอบรัวๆ ทั้งที่ตายังไม่กล้าจะสบตาเขา
“แรกๆ ก็แบบนี้แหละ”
เขายังคงคิดว่าที่เธอตื่นเต้นคงเป็นเพราะนี่เป็นครั้งแรกของเธอกับเขา จากนั้น คราวิทศ์ก็จ้วงจูบเจ้าหล่อนอย่างคนหิวโหย มือสากหนาลูบไล้ที่บริเวณกลางแผ่นหลัง มันช่างนวลเนียนลื่นมือทุกสัมผัส ร่างน้อยๆ เริ่มสั่นสะท้านด้วยไฟราคาที่ตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกาย
คราวิทศ์ไม่รอช้า เขาหยิบถุงป้องกันออกมาฉีกอย่างคนใจร้อน เพราะด้านล่างต่างแข็งจนได้ที่
“ใส่มันให้ฉัน”
จากนั้นมือหนาก็ยื่นเอาถุงหล่อลื่นที่พึ่งจะฉีกออกวางใส่ฝ่ามือน้อยๆ สภาพของเธอนอนนี้ทั้งสั่นเทิ้มและตัวเย็นไปหมด
“หนาวรึไง” เขาพูดอย่างคนไม่สะทกสะท้าน “เดี๋ยวก็ได้ร้อนแน่”
และยิ่งหญิงสาวสวมใส่เจ้าปอกป้องกันให้เขาอย่างเงอะงะเขาก็ยิ่งไม่ชอบใจ ก่อนจะแย่งมันจากมือเธอและก็ใส่มันซะเอง
“อยู่นิ่งๆ”
เขาตวาดค้อนใส่หญิงสาวที่เอาแต่หุบขาและมีท่าทางตื่นกลัว ก็คงจะตกใจเจ้าไซซ์ยักษ์ของเขาสินะ
