Ep5 ฝันไปหรอกหรือนี่
ร่างกำยำของผีหนุ่มขึ้นคร่อมทับร่างบอบบางของหญิงสาว เขาค่อยๆ เอื้อมมือมาถอดชุดนอนเซ็กซี่ของเธอออก เขาเบามือและค่อยๆ บรรจงถอดมันอย่างช้าๆ ในขณะที่ริมฝีปากยังครอบงำความหวานหอมจากกลีบปากเรียวเล็กของเธอ
“อื้มม..”
รมิตาถึงกับเผลอส่งเสียงครางอย่างคนอดทนไว้ไม่อยู่ มันช่างเป็นความรู้สึกดีเสียจริง นี่เธอโดนมนต์สะกดยี่ห้ออะไรเข้าให้กันแน่นะ
“มิตา…”
ปากหยักหนายังคงบ่นอู้อี้เอ่ยเรียกชื่อเธอ
“หนูเป็นของพี่ พี่เจอหนูก่อน ”
และเขาก็เริ่มโถมจูบใส่เธออย่างบ้าคลั่ง คนตัวน้อยแทบฝืนกลั้นลมหายใจเอาไว้ไม่อยู่ มันช่างเป็นความรู้สึกหวามไหวทำเอาคนร่างเล็กตัวสั่นใจสั่นอยู่ไม่น้อย คนที่บดขยี้ริมฝีปากก็ค่อยๆ ซุกซนและลากไล้ไซร้เรียวปากฃงมายังซอกคอหวานหอม เขาก้มจุมพิตที่หัวไหล่มนบางของเธอ
‘ให้ตายเถอะ มันรู้สึกดีเป็นบ้า’
จากนั้นมือซุกซนของคีรากรก็เลื่อนลงไปจับยังสะโพกกลมงอนของหญิงสาว เขาค่อยๆ ก้มย่อกายสูงหนาของตัวเองให้ลงต่ำ ลิ้นอุ่นร้อนที่ไล้ลากผ่านไปยังบริเวณจุดต่างๆ มันทำให้หญิงสาวถึงกับขนลุกซู่ และตอนนี้เธอต่างรู้สึกหายใจหอบติดๆ ขัดๆ เหมือนคนใกล้จะขาดอากาศหายใจ
“อ๊ะ!!”
แล้วรมิตาก็น้องสะดุ้งโหยงขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาหยัดให้ร่างของแน่งน้อยลงไปนอนกับที่นอนหนาๆ มือหนาจับขาของเจ้าหล่อนให้มาพาดเข้าที่ไหล่ทั้งสองข้างของตนเอง ก่อนจะค่อยๆ จ้วงริมฝีปากลงไปงาบงับตรงจุดกระสัน นั่นมันยิ่งทำให้หญิงสาวสติแทบกระเจิดกระเจิง
มือเรียวเล็กพยายามหยัดแผงอกหนาของเขาเพื่อบอกให้หยุด แต่ตอนนี้ความเร่าร้อนมันทำให้เธอตอบสนองคีรากรอย่างไม่ยี่ระ ยิ่งเขายกมือสากหนาขึ้นมาบีบเคล้นที่ยอดถันคู่สวยของเจ้าหล่อน เธอก็ยิ่งเด้งแอ่นมันขึ้นรับสัมผัสอย่างวาบหวาม
คีรากรตวัดเกลียวลิ้นหมุนวนขึ้นลงตรงจุดเสียวอย่างเป็นจังหวะ ทำเอาคนตัวน้อยชักดิ้นชักงอด้วยความเสียว
“เยิ้มขนาดนี้ยังจะปฎิเสธพี่หรือครับที่รัก”
ยิ่งเขาพูดจาอ่อนหวานกับเธอ มันก็ยิ่งทำให้เลือดในกายของหญิงสาวพุ่งพล่าน คนตัวน้อยทำหน้าเหยเกสลับกับเสียงครางเสียวทุกครั้งที่เขาขบเม้มปาก เธอกลับยิ่งใบหน้าแดงกล่ำเข้าไปทุกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเจาะแจะของน้ำลายที่ตรงหว่างขา เขาใช้ปากกลืนกินทุกส่วนของร่างกายเธออย่างไม่คิดจะรังเกียจ จากนั้นคนตัวสูงกว่า 192 เซนติเมตรก็จับงัดเจ้าแท่งอุ่นๆ ไซซ์ 62 ออกมา จากนั้นเขาก็ขยับร่างกายให้อยู่ในท่าพอดีกับขนาดของหญิงสาว
“พร้อมรึยังครับที่รัก”
พูดจบเขาก็ก้มลงจุมพิตอย่างเร่าร้อนผสมกับดูดดื่มกับหญิงสาวต่อ เขาทำอย่างนั้นซ้ำๆ เพื่อคลายความกังวลของเธอ จากนั้นก็ค่อยๆ จับเจ้าหัวหยักบานเข้ามาจ่อตรงบริเวณจุดซ่อนเร้นของหญิงสาว ก่อนจะค่อยๆ กดมันเข้ามาด้านในโพรงอ่อนนุ่มอย่างช้าๆ ตอนนี้มันทั้งแน่น ทั้งรัด ทั้งตอดท่อนกายของเขา
“อื้ม…. ดีจังที่รัก ของหนูมันตอดของพี่”
และเมื่อชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวมีใบหน้าที่แดงก่ำจนลามมาถึงใบหู จากนั้นเขาก็อมยิ้มกับสิ่งที่เห็น ก็ตอนนี้ลำคอของเธอก็มีสีแดงระเรื่อด้ววความเขินอายไม่ต่างกัน จากนั้นเขาก็ค่อยๆ กดยัดด้ามที่เหลือเข้าไปตามทางจนสุด และกดแช่มันค้างอยู่อย่างนั้นไว้สักพักก่อนจะเริ่มขยับกายต่อ กลีบอูมสวยของหญิงสาวมันกลืนกินเจ้าไซซ์จำโบ้ของเขาจนสนิท ไม่มีแม้แต่ช่องรูเล็กๆ เพื่อระบายอากาศ ถึงตอนนี้กลิ่นมันจะคาวคละคลุ้งด้วยเลือดก็ตาม และเขายังคงคว้าเอาบั้นท้ายโก่งงอนของเธอให้ขยับตั้งตรงในตำแหน่งเดียวกันกับท่อนกายของเขาเพื่อให้มันเข้าที่ ยิ่งเขาขยับสอบเอวเข้าออกถี่ๆ เธอก็แทบกลั้นหายใจ รมิตาเผลอหรี่ตาขึ้นมองคนที่อยู่ด้านบน เมื่อตาประสานสายตามันยิ่งทำให้หญิงสาวขวยเขิน จากนั้นเจ้าหล่อนก็เผลอหนีบขาเข้าหากันอย่างเขินอายก่อนจะถูกเขาจับแหวกขาให้เปิดกว้างมากกว่าเดิม
“อายอะไรกันครับที่รัก นี่พี่กินหนูแทบจะทุกส่วนของร่างกายแล้วนะ”
พูดไปก็มองหญิงสาวอย่างเคลิบเคลิ้ม ยิ่งเขาพูดตรงส่วนนั้นของเจ้าหล่อนก็ยิ่งตอดหนึบแน่นเจ้าแท่งกายของเขามันขมิบรัดเจ้าไซซ์ยักษ์อย่างไม่ยอมปล่อย จากนั้นคีรากรจึงค่อยๆ ขยับกายหมุนควงท่อนกำยำให้หญิงสาวรู้สึกเสียวสะท้าน ตอนนี้เธอเริ่มจุกเสียดบริเวณท้องน้อยและหัวหน่าวไปหมด แต่จะบอกให้เขาหยุดไหม… ก็คงไม่ … คงทั้งคู่ต่างระเริงบทรักโถมใส่กันอย่างคนอดอยากหื่นกระหาย พวกเขาเหมือนร่างไร้วิญญาณที่กำลังหลุดลอยและขาดสติ
“ที่รัก … พี่จะแตกอีกแล้ว”
“ซี้ดดด…”
นี่เป็นครั้งที่สองของชายหนุ่มที่กำลังจะถึงฝั่งฝัน ต่างจากเธอที่เสร็จสมไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วจนนับไม่ถ้วน คนที่กำลังฝันดีต่างกระตุกยิ้มที่มุมปาก และเผลอร้องครางออกมาอย่างสุขสม
“ซี้ด!! โอ๊ยย!!”
และครั้งนี้นี่เองที่หญิงสาวที่ต้องสะดุ้งตื่นเพราะตกจากโซฟาตัวหนาเข้าให้ เธอลืมตาขึ้นมองเพดานสีขาวอย่างใจเลื่อนลอย ก่อนจะกระพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่ความคิดที่ยังก่อกวนโสตประสาทของเธอ และตอนนี้เธอก็ต้องสะดุ้งโหยงเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วกลับจำไม่ได้ ก็ตอนนี้ร่างของชายหสุ่มที่กำลังระเริงรักกับเธอเมื่อครู่ต่างกำลังนอนหลับไหลอยู่บนเตียง
“บ้าเอ๊ยยัยมิตา ทำไมถึงเป็นคนแบยนี้ไปได้นะ นี่คิดมิดีมิร้ายกับคนที่กำลังป่วยนอนติดเตียงอยู่เนี่ยนะ”
หญิงสาวถึงกับเกาหัวแกรกๆ แต่เมื่อตนเองตั้งสติได้ และกะจะลุกขึ้น เธอกลับปวดหสึบี่บริเวณด้านล่าง มันเหมือนไปวิ่งมาราทอนมาสักสามสิบกิโลเมตรอย่างไงอย่างงั้น และเธอก็เผลอคิดไปแค่ว่า ความเจ็บที่ได้นี้น่าจะมาจากการพลาดท่าตกโซฟาเมื่อครู่
แล้ว….
ใบหน้าของหญิงสาวก็ต้องร้อนเห่อขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนึกถึงความฝันเมื่อครู่ที่ผ่านมา
‘อยากจะรู้จริงๆ เลยนะคะ ว่าตัวจริงของคะณจะใจดีกว่าเขาไหม ’
คนร่างเล็กก็อดเอาไปเปรียบกับอีกคนไม่ได้ก็รายนั้นหน้าดุ จอมบงการ และนี่เหมือนกับว่าคนที่กำลังหลับไหลมีใบหน้ายิ้มๆ นี่เธอตาฝาดไปอีกแล้วสินะ ยัยมิตานะยัยมิตา แกจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว เธอเริ่มเดินสำรวจคนที่นอนหลับไหลอย่างพินิจพิจารณา เขาวังคงอยู่ในร่างดูดีและสมบูรณ์แบบ ผมสีเทาของเจามันเหมือนกับคนที่ได้รับการดูแลมาอย่างดี เพราะสีผมไม่เป็นกระดำกระด่าง หรือคาาวิทศ์จะให้ช่างมาดูแลเขาแบบพิเศษกันแน่นะ จากนั้นหญิงสาวก็ถึงกับลอบกลืนน้ำลายจนดังเอียก เมื่อสายตาซุกซนเลื่อนลงต่ำไปมองตรงจุดที่ว่า นี่ถ้าเธอปลุกเร้าเขาตามในสัญญา เจ้าตรงนั้นมันจะยอมตื่นให้เธอไหมนะ แล้วตอนนี้คนที่คิดทะลึ่งตึงตังถึงกับใบหน้าร้อนผ่าว ก่อนจะลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากอีกก้อน
“เป็นไงบ้าง ”
แล้วจู่ๆ เสียงของคนหน้าบึ้งก็ดังขึ้นมา อะไรคือยังไง อะไรคือเป็นไงบ้าง เป็นไงบ้างกับผีน่ะสิ ก็เธอเอาแต่นอน
“คือ….”
“ฉันหวังว่าครั้งหน้าเธอจะเริ่มปฏิบัติการ ไม่ใช่มานอนหลับน้ำลายยืด ซ้ำยัง”
เขาเว้นว่างไว้ไม่ยอมพูดออกมา นี่อย่าบอกนะว่าเขาเห็นทุกๆ การกระทำของเธอ เขาเห็นด้วยว่าเธอแอบหลับและกลิ้งตกเตียง แม่เจ้า … อยากจะบ้า!!
“ถ้ายังไม่เป็นงาน เดี๋ยวฉันจะสอนงานใหเเธอก่อน และถ้ายังอยากได้เงิน อยากได้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ก็อย่าลืมหน้าที่ตัวเองซะล่ะว่าต้องทำอะไร”
แหงล่ะ ใครจะไปลืมล่ะย่ะว่ามาที่นี่เพื่อปลุกให้คนที่หลับไหไปนานกว่าหกเดือนตื่น แน่นอนว่าเธอจะต้องทำมันให้ได้
…
“อะไรอีกคะ!!”
วันนี้คนตัวสูงที่มาวอแวกับหญิงสาวก็ถูกเธอเอ็ดเข้าให้
“ก็จะสอนงาน จะได้ทำเป็น”
ก็คนอย่างเขาก็แค่เรื่องทางกายเท่านั้นแหละ
“อ่ะ..อุ๊ย!!”
ร่างหนากระชับเอวคอดของหญิงสาวเข้ามาจนเธอถึงกับร้องเสียงหลง
