ตอนที่6
บ้านหลังใหญ่กลับมาสงบสุขอีกครั้ง คุณหญิงรัศมีกับผู้เป็นสามีกลับมารักใคร่ปรองดองกันดังเดิม แต่แล้วเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น
"ฉันท้องกับคุณนะคะ คุณกิตติ" จู่ๆ ก็มีหญิงสาวท้องโตคนหนึ่งเข้ามาในบ้านพร้อมกับประกาศว่าตัวเองท้องกับท่านกิตติ
"นี่มันอะไรกัน!" คุณหญิงรัศมีที่เพิ่งได้หายใจหายคอไม่นาน กลับต้องเจอเรื่องแบบนี้อีกแล้ว
"ไม่จริงนะคุณหญิง ผมกับเธอไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน" ท่านกิตติรีบแก้ตัวหาทางรอดอีกครั้ง
"ทำไมคุณพูดแบบนี้ล่ะคะ คุณเองไม่ใช่เหรอคะที่บอกว่าอยากได้ฉันนักหนา..ฮึก" หญิงสาวท้องโตร้องไห้สะอึกสะอื้นจนน้ำตาอาบหน้า
"เราไม่ได้รู้จักกัน" คนเจ้าชู้ยังคงบ่ายเบี่ยง
"ฮึก..คุณต้องรับผิดชอบลูกฉันนะคะ ไม่งั้นฉันจะไปบอกนักข่าวให้หมดว่าคุณมันมักมาก เห็นแก่ตัว" หญิงสาวขู่ในสิ่งที่สองสามี ภรรยากลัว คุณหญิงรัศมีกลัวตระกูลเสียชื่อมากกว่าสิ่งไหน เธอไม่ยอมให้เรื่องนี้บานปลายเป็นอันขาด
"เธอต้องการเงินเท่าไหร่?" คุณหญิงรัศมียื่นข้อเสนอเพื่อให้เรื่องจบเร็วขึ้น
"เงินมากพอที่จะส่งลูกของฉันเรียนจนจบ และต้องให้เขาใช้นามสกุลวิวัฒน์นิกุลค่ะ" หญิงสาวตรงหน้าตอบอย่างมั่นใจ เธอต้องการให้ลูกของตนเองได้ใช้นามสกุลที่มีชื่อเสียง
"ไม่มีทาง!" เป็นท่านกิตติที่ปฏิเสธ
"แต่เด็กในท้องเป็นลูกของคุณนะคะ" ทั้งสองคนเริ่มเถียงกันไปมาไม่มีใครยอมใคร
"ฉันจะเชื่อได้ยังไง ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของสามีฉัน" คุณหญิงรัศมีเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
"จะเอาหลักฐานแบบภาพเคลื่อนไหวไหมล่ะคะ ฉันมีคลิปตอนที่เรา.." หญิงสาวพูดพร้อมกับส่งสายตาที่สื่อให้อีกคนเข้าใจได้
"พอๆ ทุเรศที่สุด!"
"คุณหญิง คุณต้องเชื่อผมนะ" เมื่อเห็นสายตาภรรยาที่มองมาด้วยว่างเปล่าคนที่ทำผิดเริ่มขอร้องอ้อนวอนให้อีกคนเชื่อคำพูดของเขา
"ฉันจะรอจนกว่าเด็กจะคลอด ถ้าผลตรวจดีเอ็นเอออกมาว่าเป็นลูกของคุณกิตติ ฉันจะยอมให้ลูกเธอใช้นามสกุลวิวัฒน์นิกุล" สิ้นสุดการเจรจาต่อรอง คุณหญิงรัศมียื่นคำขาด และรอผลตรวจในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าหลังจากที่หญิงสาวอีกคนคลอดลูก
ผลตรวจดีเอ็นเอที่รอคอยถูกส่งมาถึงบ้านวิวัฒน์นิกุล ผลการตรวจพบว่าเด็กที่เกิดออกมาเป็นลูกของสามีเธอจริงๆ คราวนี้สามีแสนเจ้าชู้ไม่อาจหาข้อแก้ตัวได้อีกแล้ว
"ผมขอโทษ..ผมไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนี้" ท่านกิตติคุกเข่าขอโทษภรรยา
"กี่ครั้งแล้วคะ ที่ฉันต้องผิดหวังกับคุณ" คุณหญิงรัศมีไม่มองหน้าสามีตนเอง เธอผิดหวังในตัวสามีมาก ไม่คิดว่าคนที่เธอรักจะทำกับเธอแบบนี้
"ผมขอโทษ ผมสัญญาจะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว"
"ฮึก.." เธอเสียใจกับการกระทำของสามีที่ทั้งนอกใจ และนอกกาย ตลอดเวลาหลายสิบปีที่แต่งงานอยู่ร่วมกันมาเขาเคยรักเธอบ้างหรือเปล่า
"ผมผิดไปแล้วคุณหญิง ผมขอโทษ" สามีร้องขอการอภัยจากภรรยาอยู่นานหลายชั่วโมงกว่าเธอจะยอมอ่อนลง ลูกชายทั้งสองคนรู้เห็นทุกเรื่องก็รู้สึกผิดหวังในตัวของผู้เป็นพ่อยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ปฐพียังพอทำใจยอมรับได้ แต่อัคคีไม่ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาตัดสินใจขอแม่ไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่อหนีความวุ่นวายภายในบ้าน โดยที่ไม่ขอกลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีกจนกว่าทุกอย่างในบ้านจะดีขึ้น
"คุณคีไม่อยู่แบบนี้ คนที่ได้มรดกก็เป็นคุณพีน่ะสิ" เรื่องของเจ้านายถูกนำมาเป็นหัวข้อสนทนาในวงกินข้าวสำหรับแม่บ้านทุกคน ยกเว้นมุกดาที่โดนไล่ให้ไปกินข้าวที่อื่น
"เขาเป็นพี่น้องกัน เขาไม่มาแย่งสมบัติกันหรอกนังหน่อย" แม่บ้านอีกคนสวนกลับทันควัน
"ใครจะรู้ล่ะพี่แจง ไม่เห็นในละครหรือไงแย่งกันจนตัดพี่ตัดน้องก็มี"
"แต่ฉันเชื่อว่าคุณพี คุณคีไม่ใช่คนแบบนั้น" แม่บ้านสาวพากันจับกลุ่มคุยกันเรื่องเจ้านายจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้ว
"หนูขอข้าวเพิ่มอีกนิดได้ไหมจ๊ะ" มุกดาที่ถูกไล่ให้ไปกินข้าวที่อื่น เดินถือจานข้าวใบเล็กเข้ามาขอเพิ่มข้าวจากพี่ๆ ในครัว
"อะไรนังมุก ไม่มีเพิ่มหรอก ไปๆ" แม่บ้านสาวรุ่นพี่เอ่ยปากไล่เด็กสาวให้ไปพ้นๆ มุกดาจึงเดินก้มหน้าออกจากห้องครัว เธอได้ข้าวเพียงแค่น้อยนิดเพราะพวกเขาบอกว่าเธอยังเด็ก แต่งานที่เธอทำเทียบเท่ากับทุกคนไม่มีแบ่งแยก
"มันไม่อิ่มนี่นา" ไปโรงเรียนเธอก็ไม่มีเงินซื้อขนมเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ได้แต่กินข้าวฟรีของโรงเรียน ตกเย็นก็ได้กินแค่ข้าวก้นหม้อที่ทุกคนเหลือไว้ให้ แต่จะทำอย่างไรได้ เธอไม่มีปากเสียงไปต่อรองกับใครเด็กกำพร้าที่ถูกแม่ทิ้งทำได้แค่ดูแลตัวเอง
