ตอนที่3
สาวรับใช้ที่เพิ่งทำงานได้ไม่ถึงปี แต่ได้รับสิทธื์ให้ขึ้นบ้านหลังใหญ่เพียงเพราะเธอไม่เคยทำงานผิดพลาด หัวหน้าแม่บ้านจึงส่งเธอมาคอยดูแลคุณท่านเวลาทานอาหาร
"วันนี้มีแกงส้มชะอม ของโปรดคุณท่านด้วยนะคะ" ขวัญไหมเริ่มทำเกินหน้าที่ของตนเอง เธอถือวิสาสะตักอาหารใส่จานให้คุณผู้ชายของบ้าน โดยมีสายตาพิฆาตของคุณหญิงรัศมีคอยมองอยู่
"อะแฮ่ม!" ท่านกิตติหรือคุณผู้ชายของบ้านรีบกระแอมเสียงดังพร้อมส่งสายตาดุๆ เพื่อปรามขวัญไหมที่แสดงออกเกินหน้าเกินตา
"ขอโทษค่ะ" ขวัญไหมรีบยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนจะทำหน้าบูดบึ้งที่คุณผู้ชายไม่ยอมยกย่องเธอขึ้นเป็นเมียอีกคนเสียที ปฐพีสังเกตเห็นสีหน้าของผู้เป็นพ่อที่แปลกไปจึงเริ่มสงสัย แต่ก็เก็บเงียบเอาไว้
"ฮึ่ย! ได้ฉันแล้วอย่าคิดว่าจะเขี่ยฉันได้" หญิงสาวท่าทีอ่อนหวานหายวับไปเหลือเพียงแค่หญิงที่มีแต่ความโลภ ไม่รู้จักพอ
"แม่ มาทำอะไรตรงนี้จ๊ะ" มุกดาที่อยู่ในช่วงปิดเทอมที่เพิ่งช่วยงานในครัวเสร็จจึงออกมาสูดอากาศ แต่กลับเจอแม่ที่กำลังบ่นพึมพำอะไรสักอย่าง
"ไม่ต้องยุ่ง! แกนะนังมุก! ไม่รู้เรื่องอะไรเลย" ขวัญไหมพาลใส่ลูกสาวแล้วเดินจากไป ทิ้งให้มุกดาทำหน้ามึนงงอยู่คนเดียว
"อ้าว! มุก" เสียงทุ้มที่เริ่มคุ้นเคยเอ่ยทักทายทันทีที่เห็นหน้าเธอ
"คุณพี" มุกดาส่งยิ้มหวานให้อย่างลืมตัว ตั้งแต่ช่วงปิดเทอมเธอได้คุยกับปฐพีเกือบทุกวัน และเขายังมีน้ำใจช่วยสอนการบ้านเธอทุกวิชาอีกด้วย
"จะไปไหน"
"ไม่ได้ไปไหนค่ะ แค่เสร็จงานแล้วเลยออกมาเดินเล่นค่ะ" มุกดาตอบอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ปฐพีอดยิ้มไม่ได้ ทั้งคู่คุยกันตามประสาคนรู้จักกันโดยไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของปฐพีอยู่ในสายตาของอัคคีผู้เป็นน้องชายทั้งหมด
"พี่พี พี่ชอบลูกคนใช้คนนั้นเหรอ" อัคคียืนกอดอกพิงกำแพงรีบเอ่ยถามทันทีที่เห็นพี่ชายเดินเข้าบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"อะไร?"
"ผมถามว่าพี่ชอบเด็กกะโปโลคนนั้นเหรอ" อัคคีเน้นย้ำอีกครั้ง แต่ปฐพีกลับไม่ยอมตอบ
"นายถามทำไม?"
"ผมก็แค่อยากรู้ พี่ชอบเด็กนั่นใช่ไหมล่ะ" อัคคีดูออก เขาไม่ใช่คนโง่ที่มองพี่ชายตนเองไม่ออก
"ฉันไม่จำเป็นต้องบอก" ปฐพีทำไขสือยักไหล่ไม่ยอมตอบสิ่งที่น้องชายอยากรู้
"พี่ก็รู้ว่าเด็กนั่นเป็นแค่ลูกคนใช้ เรากับยัยนั่นคนละระดับกันนะ" อัคคีได้นิสัยมาจากคุณหญิงรัศมีเต็มๆ เขาชอบคิดว่าตนเองอยู่เหนือคนอื่นเหมือนที่แม่สอนมาตลอด
"คนละระดับยังไง เราเป็นคน เขาก็เป็นคนเหมือนกัน เลิกแบ่งชนชั้นได้แล้วคี" ปฐพีกล่าวเตือนน้องชายให้เลิกทำนิสัยแบ่งชนขั้นวรรณะเสียที ทั้งที่ทุกคนก็เป็นคนเหมือนกัน
"เป็นคนเหมือนกัน แต่ฐานะต่างกัน พี่จะทำอะไรก็เรื่องของพี่เถอะ ผมไม่อยากยุ่ง" อัคคีทำท่าล้วงกระเป๋าแล้วเดินจากไป เขาไม่อยากเสวนากับพี่ชายตัวเองมากนักเพราะนับวันปฐพีทำตัวอย่างกับพระ คอยเทศนาสอนคนอื่น
กลางดึกที่ทุกคนหลับสนิทคุณผู้ชายของบ้านที่เวลานี้ควรพักผ่อนอยู่ที่ห้องของภรรยา แต่กลับออกจากห้องพักของสาวรับใช้แม่ลูกหนึ่งอย่างขวัญไหม
"ฟอด ขอบคุณนะคะคุณท่าน" ขวัญไหมหอมแก้มชายที่มอบของขวัญให้เธอเป็นกำไลข้อมือราคาแพง ทุกการกระทำของทั้งคู่จับตามองโดยคนที่แอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่
"อีไหม!" คุณหญิงรัศมีแปลกใจที่สามีมักหายออกจากห้องช่วงกลางดึก เธอจึงแอบตามผู้เป็นสามีมาจนได้รู้ว่าสามีที่เธอคิดว่ารักเธอคนเดียวกำลังคั่วอยู่กับสาวใช้ขั้นต่ำ และเธอยอมไม่ได้เป็นอันขาด
"แม่จ๋า" มุกดาที่ไปนอนห้องแม่บ้านคนอื่นรีบกลับมาหาแม่ที่ห้องของตัวเองทันทีที่ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า
"อะไร?" น้ำเสียงห้วนๆ ของผู้เป็นแม่ทำให้มุกดาหุบยิ้มทันควัน
"หนูทำงานของตัวเองเสร็จแล้ว หนูขอไปอ่านหนังสือนะจ๊ะ" ในขณะที่แม่ของเธอเพิ่งตื่น แต่มุกดากลับทำความสะอาดในห้องครัวก่อนที่แม่บ้านจะเริ่มทำอาหาร
"โง่เป็นควายอย่างแก จะอ่านหนังสือไปทำไม" คำพูดของแม่ทำให้มุกดามองด้วยความสับสน พักหลังมานี้แม่ของเธอมักพูดไม่ดีกับเธออยู่บ่อยครั้ง บางทีก็พูดว่าเธอไม่น่ามาเกิดให้เป็นภาระ
"คุณพีบอกว่าจะสอนวิชาเลขให้หนูจ้ะ"
"คุณพี? ลูกคนโตของคุณท่านน่ะเหรอ" ขวัญไหมทำหน้าเหมือนคิดเรื่องดีๆ ได้
"แกสนิทกับคุณพีหรือเปล่านังมุก?" เธอกำลังจะให้ลูกสาวตีสนิทกับปฐพี เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
"สนิทเหรอจ๊ะ? คุณพีเขาเป็นเจ้านายนะจ๊ะเขาไม่ได้สนิทกับหนูหรอก"
"แกก็ทำตัวให้สนิทกับเขาสิ แบบจับมือ กอดแขน เอาตัวเข้าไปแนบๆ อิงๆ น่ะทำเป็นไหม?" นี่คือคำสอนของแม่ที่ให้กำเนิดเธอมา เธอผ่านโลกมาก่อนย่อมรู้ดี ผู้ชายวัยอย่างปฐพีกำลังอยากรู้ อยากลอง ถ้าโดนยั่วนิดยั่วหน่อยก็ตะบะแตกแล้ว
"ไม่ได้หรอกค่ะ เขาเป็นเจ้านายนะคะ" มุกดาที่ยังเด็กไม่รู้ประสีประสา จึงไม่เข้าใจความหมายของผู้เป็นแม่มากนัก
"นังโง่! โง่แบบนี้ไงฉันถึงได้เบื่อแก เอาเถอะๆ ถ้าแกอยากเป็นแค่คนใช้ก็โง่ต่อไปแล้วกัน"
"เป็นคนใช้ไม่ดีเหรอจ๊ะ" มุกดาอายุแค่สิบขวบแต่กลับถูกผู้เป็นแม่เสี้ยมสอนในทางผิดๆ
"ใครจะอยากเป็นขี้ข้าตลอดไปล่ะ แกจะไปไหนก็ไปเถอะ"
"จ้ะ" เด็กสาวเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะเดินไปทางสวนหลังบ้านที่มีปฐพีนั่งรออยู่
"ยัยเด็กกะโปโล" คำทักทายของอัคคีที่นั่งอยู่ข้างพี่ชายเรียกเธอว่าเด็กกะโปโล ซึ่งแน่นอนว่ามุกดาไม่เข้าใจความหมาย
"คี! ทำไมเรียกน้องแบบนั้น" ปฐพีเอ็ดน้องชายให้หยุด เพราะคำพูดของอัคคีมันไม่ดีเลย
"ทำไมจะเรียกไม่ได้ ก็กะโปโลจริงๆ แต่งตัวสกปรกชะมัด" อัคคีทำท่าทีรังเกียจมุกดาที่แต่งตัวซอมซ่อไม่่ต่างจากเด็กกะโปโล
"มานั่งสิมุก ไม่ต้องสนใจไอ้คีมันหรอก" ปฐพีตบที่นั่งข้างๆ ตัวเองให้มุกดานั่งลง
"ค่ะ" มุกดานั่งอยู่ท่ามกลางลูกชายเจ้าของบ้าน ปกติจะมีแค่ปฐพีคนเดียว แต่วันนี้กลับมีอัคคีอยู่ด้วยยิ่งทำให้เธอประหม่า
"โง่ชะมัดเลยยัยนี่" อัคคีเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นมุกดาแก้โจทย์เลขง่ายๆ ที่เขาตั้งให้ไม่ได้
"คี น้องเพิ่งจะปอสี่แต่นายเอาโจทย์มัธยมมาให้น้องทำ จะผิดก็ไม่แปลก" ปฐพีมองโจทย์ที่อัคคีตั้งให้มุกดาแล้วได้แต่ส่ายหน้า
"พี่พีทำไมพี่ต้องเข้าข้างยัยเด็กนี่ขนาดนี้ด้วย" อัคคีเริ่มมีน้ำโหที่โดนพี่ชายขัดทุกครั้ง
"พี่ไม่ได้เข้าข้าง แต่นายก็ต้องดูด้วยว่ามุกดา.."
"ว่ายัยนี่โง่!" อัคคีไม่รอให้พี่ชายได้พูดจบ เขาตะโกนด่าทอเธอเสียงดังก่อนจะลุกจากโต๊ะไป มุกดาที่ถูกด่าว่าโง่ซ้ำๆ แล้วได้นั่งสะอื้นไหล่สั่น เธอคงโง่จริงๆ ทั้งแม่ทั้งเขาต่างก็บอกว่าเธอโง่
"มุก อย่าไปสนใจคำพูดไอ้คีมันเลยนะ"
"ฮึก..มุกไม่เป็นไรค่ะ มุกขอตัวนะคะ" มุกดาเก็บของกลับห้องตัวเอง เธอไม่ได้โกรธคนที่ด่าเธอว่าโง่ แต่เธอโกรธตัวเองที่โง่ให้คนอื่นมาด่า
