อย่าได้คิดมารังแกข้า
“สิบกว่าปีมานี้ ไม่มีวันใดที่ข้าไม่นึกถึงท่าน”
“ข้าก็เช่นกัน ว่าแต่เจ้ามายืนรอข้าเช่นนี้ไม่กลัวถูกฮูหยินเว่ยดุเอาหรือ” นางเอ่ยถึงเหลียงเฟยฮุ่ยที่แต่งเข้าจวนมานับตั้งแต่มารดานางเสียชีวิต
“ท่านแม่มัวแต่ยุ่งวุ่นวายกับการจัดเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับท่านกลับมา ไม่มีเวลามาสนใจข้าหรอกเจ้าค่ะ”
“นางน่ะหรือจัดงานเลี้ยงต้อนรับข้า”
“เจ้าค่ะ ท่านพี่กลับมาอยู่จวนสักทีเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องจัดงานเลี้ยง”
“เข่อซิง ข้ารู้สึกเพลียนิดหน่อย ข้าขอกลับเรือนก่อนแล้วกันเอาไว้วันหลังหากเจ้ามีเวลาค่อยมาหาข้าที่เรือนดีรึ่ไม่”
“ให้ข้าไปส่งไหมเจ้าคะ”
“ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรเสียเรือนที่ข้าอยู่คงเป็นเรือนเดิมอยู่แล้ว”
“ท่านพี่”
“เจ้าไม่ต้องมองข้าด้วยสายตาเวทนาเช่นนั้น ข้าชินแล้ว”
ร่างบางเดินมาหยุดอยู่ที่เรือนหลังเก่าท้ายจวน ที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบไร้ความวุ่นวายจากสายตาผู้คน บรรยากาศแสนคุ้ยเคยพลันทำให้คิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ ในวัยเด็ก
วันเกิดตอนนางอายุได้ห้าขวบ แม่นมไห่นำขนมกุ้ยฮวาจากในครัวมาให้นางเพื่อฉลองวันเกิด แทนที่ทั้งสามคนจะได้กินขนมนี้อย่างที่ตั้งใจไว้ แต่กลับได้กินเพียงหมั่นโถวเท่านั้น
“เจ้าเป็นแม่นมของคุณหนูใหญ่ใช่รึไม่”
“ใช่ มีอะไรงั้นหรือ”
“ขนมกุ้ยฮวานี้เจ้าคงจะนำไปให้นางสินะ” สาวใช้คนนั้นเหยียดตามอง ก่อนจะปัดขนมที่อยู่ในมือแม่นมไห่ทิ้งต่อหน้าต่อตาเว่ยซูเหม่ย
“นี่เจ้าทำอะไร!”
“นางเป็นเพียงตัวกาลกิณี เจ้าว่าเหมาะสมแล้วหรือที่นางจะได้กินขนมกุ้ยฮวานี้”
“เจ้าเป็นเพียงสาวใช้ แต่กลับกล้ารังแกคุณหนูเช่นนี้เห็นทีเจ้าคงไม่กลัวตายแล้วกระมัง”
“เจ้าน่ะสิที่รนหาที่ตาย สตรีเช่นนางได้กินเพียงหมั่นโถวก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว” เสียงฮูหยินเว่ย ที่ได้ชื่อว่าเป็นมารดาเลี้ยงของนางดังขึ้น ด้านหลังของนางมีสาวใช้ถือหมั่นโถวอยู่ในมือ
“ซูเหม่ย มาหาแม่เร็วเข้า”
“ทะ...ท่านแม่”
“วันนี้เป็นวันเกิดเจ้า แม่สั่งสาวใช้ให้ทำหมั่นโถวไว้ให้เจ้าด้วยกินให้หมดล่ะ” แม้ใบหน้าของนางจะยิ้มแย้ม แต่ข้างในหาได้เป็นเหมือนที่แสดงออก
“ขอบคุณท่านแม่ ซูเหม่ยจะกินหมั่นโถวนี้ให้หมดอย่างแน่นอน”
“ดีมากเด็กดี แต่จะดีกว่านี้ถ้าหากเจ้าไม่เรียกข้าว่าแม่อีก” ท้ายประโยคหันมากระซิบพูดกับนางด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ ตอนนั้นซูเหม่ยถึงได้รู้ธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้ว่าแท้จริงแล้วนางเป็นคนเช่นไร
เสียงสาวใช้ร้องโหวกเหวกโวยวายดังเข้ามาถึงด้านในทำให้เว่ยซูเหม่ยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตั้งแต่รุ่งสาง
“เกิดอะไรขึ้น” นางถามขึ้น หลังจากเปิดประตูออก
“คือว่า”
“ไม่ต้องพูดแล้ว” นางแทรกขึ้น สายตามองยังพื้นที่มีน้ำสกปรกนองอยู่ เมื่อพอจะรู้แล้วว่าต้นเหตุเกิดจากอะไร
“คุณหนู เหตุใดท่านถึงยอมให้แม้แต่พวกสาวใช้รังแกล่ะเจ้าคะ”
“ใครบอกเจ้ากันว่าข้าจะยอมถูกรังแกเหมือนแต่ก่อน เพียงแต่เราเพิ่วกลับจวนมา รออีกสักหน่อยเถิดข้าจะตอบแทนพวกนางอย่างสาสมทีเดียว”
“บ่าวขออภัยที่ไม่อาจนำน้ำสะอาดมาให้ท่านล้างหน้าได้”
“เรื่องนั้นช่างเถิด”
“คุณหนู” หวนปี้เรียกชื่อเจ้านายของตนด้วยน้ำเสียงตกใจอยู่ในที เพราะไม่คิดว่าคุณหนูของตนจะมาที่ห้องครัวด้วยตัวเอง
“สำรับอาหารเช้าของข้าเล่า” นางถามสาวใช้ในครัว ทว่าไม่มีผู้ใดตอบกลับมาสักคนเดียว
“ข้าถามว่าสำรับอาหารของข้าอยู่ที่ใด”
“ไม่มีเจ้าค่ะ! ห้องครัวของเราเตรียมอาหารไว้แต่พอดีกับจำนวนคนในแต่ละเรือนเท่านั้น”
“เช่นนั้นเจ้าจะบอกข้าว่าข้าไม่ใช่เจ้านายของพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ”
“เจ้านายของพวกเรามีเพียงนายท่าน ฮูหยินและคุณหนูรองเท่านั้นเจ้าค่ะ”
“อ่อ เช่นนี้เอง ข้าเป็นส่วนเกินสินะ แต่พวกเจ้าคงลืมไปแล้วกระมังว่าก่อนพวกนางสองคนจะมาอยู่ในจวนนี้มารดาของข้าเป็นนายหญิงของที่นี่ และข้าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของนาง”
