บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 อดีตคู่หมั้น

ในตอนที่ยกไปถึงห้องของแม่สามี ก็เห็นฮั่นหยางนั่งอยู่ก่อนแล้ว มี่อิงเลยชวนทานข้าวที่นั่นเลย

อีกเรื่องที่นับเป็นพรสวรรค์ของกะเทยควายอย่างโบ๊ะ ที่ทุกคนต่างพากันติดใจ ก็คือฝีมือปลายจวักนี่แหละ

สองแม่ลูกตระกูลหลัวเลยกินกันไปคนละสองชาม หลายปีมาแล้ว ที่ฮั่นหยางและมารดาไม่เคยได้กินอาหารอร่อยเช่นนี้

ทำให้บรรยากาศที่เคยแห้งเหี่ยวในจวนตระกูลหลัวกลับมาสดชื่นอีกครั้ง เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้นในเรือนของหลัวฮูหยินเป็นระยะๆ จนกระทั่งฮั่นหยางได้เวลาต้องออกไปทำงาน

ทั้งสองเดินเคียงคู่กันไปด้วยรอยยิ้ม มี่อิงอาศัยช่วงเวลานี้ถามเรื่องที่อยากรู้กับสามี อย่างเรื่องเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา และเครื่องลายครามต่างๆ รวมไปถึงราคาและผู้ผลิต

ฮั่นหยางเองก็ถือว่ามีความรู้กว้างขวางไม่น้อย ในตอนที่อธิบายให้ภรรยาฟังยังสามารถอธิบายได้ละเอียดยิบ แม้กระทั่งจะส่งขายไปที่ไหนบ้างก็ยังรู้ ซึ่งมี่อิงฟังแล้วอดที่จะชื่นชมไม่ได้ แทบไม่อยากเชื่อว่าหนุ่มหล่อที่มากความสามารถขนาดนี้ จะเหลือรอดมาถึงมือ พอคิดได้ดังนั้นก็รีบเข้าไปกอดแขนสามี โดยไม่สนใจความเหมาะสม

ทีแรกฮั่นหยางยังรู้สึกเคอะเขินอยู่บ้าง แต่พอถูกเกาะนานเข้าก็ชักเริ่มรู้สึกดี จึงปล่อยเลยตาเลยไม่คิดห้ามปราม แต่มี่อิงก็ไม่ใช่คนที่จะไม่รู้กาลเทศะ พอถึงที่ที่มีคนพลุกพล่านนางก็ปล่อยมือ

ทั้งสองพากันไปเลือกซื้อเมล็ดผัก ในตอนที่กำลังจะออกจากร้าน ฮั่นหยางบังเอิญเหลือบไปเห็นร้านขายเครื่องประดับ เลยอดที่จะมองกลับมาที่ภรรยาไม่ได้ เห็นนางใช้กิ่งไม้มาเหลาปักแทนปิ่นก็นึกเสียใจขึ้นมา

“เป็นอะไรไปเจ้าคะ”

“พี่คงเป็นสามีที่แย่มาก ถึงกับต้องให้เจ้าเอาเศษไม้มาปักแทนปิ่น” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเศร้า

“ท่านพี่ เอาอีกแล้ว คิดมากอีกแล้ว ปิ่นพวกนั้นมันหนักหัว เป็นข้าที่ไม่ชอบใช้เอง ท่านอย่าคิดมาก”

“แต่พี่อยากซื้อปิ่นให้อิงเอ๋อ”

มี่อิงเหลือบไปมองร้านขายเครื่องประดับตามสายตาของสามี ก่อนจะดึงมืออีกฝ่ายเข้าไป “ได้ ถ้าอยากซื้อก็แค่ซื้อ ไม่เห็นจะยากตรงไหน ไป พวกเราไปดูกัน”

ความจริงโบะไม่ได้ชอบของจำพวกนี้เท่าไหร่ แต่กลัวฮั่น หยางจะเสียใจ พอมายืนหน้าร้านจึงหลับหูหลับตาหยิบ

“ว้าย!”

แต่ไม่นึกว่าจะไปใจตรงกับใครบางคนเข้า เด็กสาวที่พึ่งชักมือกลับ รีบรับผ้าจากสาวใช้มาเช็ดปลายนิ้วด้วยความรังเกียจ

“นี่พวกเจ้าช่วยหลบไปหน่อยได้ไหม คุณหนูของพวกเราจะซื้อปิ่น!”

มี่อิงหรี่ตามองคนทั้งสามอย่างสำรวจ ไม่คิดจะขยับ

“ข้าพูดไม่ได้ยินหรือ! ยังจะมายืนมองหน้าอีก รู้หรือไม่ว่าคุณหนูของพวกเราเป็นใคร!?”

ด้วยความที่คร้านจะสนใจนางจึงหันไปหาสามี “น้องเอาอันนั้นเจ้าค่ะ รีบซื้อแล้วรีบไปกันเถิด ที่นี่มีแต่กลิ่นเหม็นเน่า หายใจไม่ค่อยสะดวก”

“นี่เจ้าว่าใคร! นางคนชั้นต่ำ! อีกอย่างปิ่นอันนั้นคุณหนูของพวกเราเลือกก่อนนะ!”

เสียงตวาดของสาวใช้มิใช่เบาๆ จึงทำให้ผู้คนพากันหยุดมอง รวมถึงบุรุษที่พึ่งเดินออกมาจากร้านผ้าก็ด้วย

“มีอะไรกัน”

“ท่านพี่ว่าน ดูคนชั้นต่ำพวกนี้สิเจ้าคะ นัวเอ๋อไล่ก็ไม่ยอมไป ยังจะมาแย่งปิ่นที่น้องชอบอีก”

พอร่างสูงเดินเข้ามา เด็กสาวอีกคนก็เอ่ยปากฟ้องทันที ส่วนมี่อิงยังไม่ทันจะได้ทำอะไร ข้อมือก็ถูกสามีคว้าจับ “อิงเอ๋อ ไปกันเถิด”

“มี่อิง?” นับว่าฮั่นหยางยังช้าเกินไป พอก้าวไปได้เพียงก้าวเดียว ชายหนุ่มที่พึ่งเดินเข้ามาก็เห็นภรรยาของเขาเสียแล้ว

ที่แท้อีกฝ่ายคือบุตรชายท่านโหวกับคู่หมั้นคนใหม่ หวังเอ่อนัว ที่พึ่งจะหมั้นหมายกันในวันที่ทั้งสองแต่งงาน จากที่ไปตามสืบชีวิตของภรรยา ทำให้ฮั่นหยางรู้ว่านางเคยฆ่าตัวตายเพราะเรื่องที่ถูกถอนหมั้นมาแล้ว จึงไม่อยากให้นางต้องมาเห็นภาพบาดตา แต่เหมือนว่าอีกคนจะยังไม่รู้เรื่องราว

มี่อิงชะงักฝีเท้า ก่อนจะหันกลับมาชี้ไปที่ปิ่นเจ้าปัญหาเมื่อครู่

“เถ้าแก่ ข้าเอาปิ่นอันนั้น ราคาเท่าไหร่”

ไม่เพียงแต่นางจะไม่มองหน้าตงว่านไจ๋ แต่ยังทำเหมือนอีกฝ่ายไม่มีตัวตน

ยังไม่ทันที่พ่อค้าจะได้ตอบ เด็กสาวอีกคนก็ชิงเอ่ยขึ้นมาก่อน

“อ้อ ที่แท้ก็ฉวีมี่อิงบุตรสาวขุนนางโกงกินที่ท่านพี่ถอนหมั้นคนนั้นเองหรือเจ้าคะ มิน่าเล่าถึงได้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง”

ตงว่านไจ๋มองผ่านร่างของอดีตคู่หมั้นไปยังบุรุษที่ยืนอยู่เบื้องหลัง ทำให้สบตากับฮั่นหยางเข้าโดยบังเอิญ

ส่วนโบ๊ะที่พึ่งจะขุดความทรงจำของร่างเดิมกลับมา พึ่งจะมารู้เอาตอนนี้ว่ากลุ่มคนตรงหน้าเป็นใคร

บรรยากาศอึมครึมหน้าร้าน ทำให้เถ้าแก่ยืนเหงื่อซึมเต็มหน้าผาก จะไล่ก็ไม่ได้ จะเอ่ยขัดก็ไม่ดี เลยได้แต่ยืนมองฝั่งนั้นที ฝั่งนี้ทีอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร

“เจ้ากับข้าก็ตัวเท่ากัน ไม่เห็นว่าเจ้าจะสูงกว่าข้าตรงไหน หน้าตาก็ดีนะเจ้าน่ะ แต่เสียทีที่ปากเหม็นไปหน่อย พูดที นี่กลิ่นเหม็นเน่าโชยมาถึงนี่!”

“ว้าย! ตายแล้ว! นางคนชั้นต่ำ! เหตุใดถึงได้พูดจาหยาบคายเช่นนี้ ขอโทษคุณหนูของข้าเดี๋ยวนี้นะ!”

“ท่านพี่ว่านเจ้าคะ ฮึก ดูมันสิ มันสิมันด่าฮัวเอ๋อ”

เสียงกรีดร้องโวยวายของกลุ่มสตรีเบื้องหน้าทำให้มี่อิงต้องยกนิ้วก้อยขึ้นมาแคะหู “คำก็ชั้นต่ำสองคำก็ชั้นต่ำ นี่พวกเจ้าด่าคำอื่นไม่เป็นกันแล้วหรือไง”

“มี่อิง! เจ้าไม่มีสิทธิ์มาใช้วาจาหยาบคายกับนาง! ขอโทษนัวเอ๋อเดี๋ยวนี้!”

“แล้วท่านเป็นใครมีสิทธิ์อะไรถึงมาสั่งภรรยาข้า!” ฮั่นหยางเอ่ยเสียงเย็นมองสบตาอดีตคู่หมั้นภรรยาอย่างไม่เกรงกลัว

จากเรื่องของสตรี บัดนี้เลยกลายเป็นการเผชิญหน้าระหว่างบุรุษ

“พี่ว่านของข้าเป็นถึงบุตรชายคนรองของท่านโหว เหตุใดจะไม่มีสิทธิ์ อย่าว่าแต่สั่งนางเลย ต่อให้โบยนางก็ยังได้! เฮอะ! อยากจะลองดูไหม”

“ก็ลองดูสิ ข้าจะได้ป่าวประกาศไปให้ทั่ว ว่านอกจากตงว่านไจ๋จะใจร้ายใจดำถอนหมั้นโดยไร้เหตุผลแล้ว ยังเข้าข้างคู่หมั้นคนใหม่ รังแกอดีตคู่หมั้นที่กำลังลำบาก มิหนำซ้ำ ยังยึดของหมั้นหมายคืนไปหมด ทั้งที่ตนเองเป็นฝ่ายผิด”

ประโยคนี้มี่อิงไม่ได้พูดธรรมดา ต้องเรียกว่าตะโกนเลยก็ว่าได้ ทำให้คนแถวนั้นได้ยินกันทั่ว ทุกสายตาเลยพากันมองมาที่บุตรชายตระกูลโหวและคุณหนูหวังอย่างนึกรังเกียจ เสียงวิพากษ์วิจารณ์เริ่มดังขึ้น จนตงว่านไจ๋ต้องรีบชวนหวังเอ่อนัวกลับ

สายตาของบุตรชายท่านโหวในยามที่มองมี่อิง ก่อนจะขึ้นรถม้า ทำให้ฮั่นหยางรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่

“อิงเอ๋อ รีบซื้อของแล้วรีบกลับจวนเลยนะ ห้ามเถลไถล พี่ต้องไปทำงานแล้ว”

“เจ้าค่ะ” มี่อิงรับคำสามี มองส่งอีกฝ่ายจนลับตา ก่อนจะหันกลับมามองพ่อค้า เลือกซื้อปิ่นไม้ที่แกะสลักลวดลายเถาวัลย์มาอันหนึ่ง เพื่อใช้ปักผมแทนเศษไม้บนหัว

“เถ้าแก่ ที่นี่มีโรงค้าทาสไหม”

“มี แต่ว่าแม่นางอย่าไปซื้อเลย เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครกล้าซื้อทาสมาใช้งานแล้ว”

“เพราะอะไรหรือ?”

“ก็ก่อนหน้านั้น บ้านตระกูลชูทางใต้ของเมืองถูกทาสที่ซื้อมาฆ่าล้างตระกูล ผู้คนก็เลยพากันหวาดกลัว”

ได้ยินเช่นนั้น มีอิงก็นิ่วหน้าเล็กน้อย แต่ก็ยังถามทางไปโรงข้าทาสอยู่ดี เพราะจากที่ดูหนังจีนมาเยอะ เรื่องฆ่าล้างตระกูลอะไรเทือกนี้ ส่วนมากมักมีแต่ทางการเท่านั้นที่จะทำได้ แค่ทาสจะไปทำอะไรได้

หลังจากที่ถามมาตลอดทาง มี่อิงก็มาถึงโรงค้าทาสจนได้ เป็นอย่างที่เถ้าแก่ร้านขายเครื่องประดับบอก ไม่มีคนมาหาซื้อทาส นอกจากมี่อิงแล้ว ก็มีเพียงอีกสองคน ท่าทางจะเป็นพวกมาหาคนไปใช้แรงงาน

“แม่นาง เชิญๆ ท่านมาหาซื้อทาสใช่หรือไม่ อยากเอาไปใช้งานเช่นไร ท่านบอกมาได้เลย ข้าจะได้แนะนำให้”

ชายวัยกลางคนรีบออกมาต้อนรับมี่อิงด้วยท่าทางกระตือรือร้น ทั้งยังผายมือให้นางเดินเข้าไปด้านใน

“ข้าขอเดินดูก่อนได้หรือไม่”

“อ้อ ได้ๆ”

โรงค้าทาสก็ไม่ต่างอะไรกับคุก ซึ่งพวกทาสจะถูกแบ่งออกเป็นระดับขังไว้ในห้องขัง ถ้าเป็นทาสชั้นดีหน่อย ก็จะได้ออกมาอยู่ข้างนอก

มี่อิงเดินมองไปทีละห้อง พร้อมทั้งฟังผู้ดูแลอธิบาย จนกระทั่งไปเห็นบุรุษร่างใหญ่ ที่กำลังยกมือทัดผม

“ข้าเอาคนนั้น”

ผู้ดูแลร่างอ้วนต้องเพ่งมองผ่านทาสชายสิบกว่าคนในห้องขัง พอเห็นว่านางเลือกทาสชั้นต่ำที่ยังไม่ได้ผ่านการอบรม ก็รีบค้านทันที

“แม่นาง ทาสพวกนี้อันตรายเกินไป ท่านอย่าซื้อไปดีกว่า ให้ข้าช่วยแนะนำให้เถิด”

มี่อิงส่ายหน้า “ข้าเอาคนนั้น ส่วนท่านช่วยเลือกทาสหญิงให้ข้าสักสองคนก็แล้วกัน ข้าต้องการผู้ที่เก่งงานปรนนิบัติคนป่วย”

“อ่า ได้ๆ ไม่ต้องห่วง ข้ามีอยู่สองคนพอดี แต่แม่นาง ท่านแน่ใจหรือว่าจะเลือกเจ้านั่น”

“ข้าแน่ใจ ท่านรีบไปจัดการเถิด”

มี่อิงยกยิ้มมองบุรุษร่างใหญ่ที่เอาแต่นั่งก้มหน้าพิงกำแพง นึกไปถึงสารรูปตัวเองเมื่อก่อนขึ้นมาทันที ก็สมควรแล้ว ที่เขาจะเรียกว่ากะเทยควาย

หลังจากที่ได้สัญญาค้าทาสมา มี่อิงก็แวะไปหาซื้อของที่จะไปใช้ทำน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ต่ออีกหน่อย จากนั้นก็พาทั้งสามตรงกลับจวน นับว่าผู้ดูแลคนนั้นยังมีความซื่อสัตย์ เพราะทาสหญิงที่ซื้อมาเคยมีประสบการณ์ปรนนิบัติคนแก่คนชราและผู้ที่ป่วยนอนติดเตียงจริงๆ ก็ถือว่าโชคดี เพราะจากนี้มี่อิงอาจไม่ค่อยมีเวลา

ส่วนทาสชายร่างใหญ่ มี่อิงยังไม่คิดซักถามประวัติ ได้แต่บอกให้นั่งรออยู่ในศาลา กระทั่งพาสาวใช้ทั้งสองไปพบมารดา แล้ว ถึงได้กลับมาหาอีกคน

“เจ้าเป็นคนที่ไหน”

“จิ้นโจว”

“ข้าจะไม่ถามว่าเหตุใดถึงเจ้าถึงได้กลายมาเป็นทาส แต่ข้าจะบอกว่าข้ามองเห็นไปถึงเนื้อในของเจ้า”

“ทะ..ท่านพูดอะไร”

“บุรุษน่ะ เขาไม่จีบนิ้วทัดผมที่ใบหูกันหรอกนะ หึหึ”

“นะ..นี่ ยะ..อย่าพูดอะไรส่งเดชนะ ข้าไม่ได้เป็นอย่างท่านคิดเสียหน่อย”

พอมีอิงเอ่ยตรงจุด ชายร่างใหญ่ถึงกับเสียงเปลี่ยน

“ฮ่าๆ หรา”

“นี่ท่าน ฮึ!”

“ฮ่าๆ” ยิ่งเห็นท่าทาง มี่อิงก็ยิ่งหยุดหัวเราะไม่ได้ นี่สิ กะเทยควายของจริง พอหัวเราะมากเข้า เลยถูกมองค้อนเข้าให้

“เอาล่ะๆ ข้าไม่หัวเราะแล้ว ข้าแค่ดีใจ ข้ารู้ว่าเจ้าคงอึดอัดมาก ในยามต้องปิดบังตัวเองต่อหน้าผู้คน แต่นับจากนี้ไป ตอนที่เจ้าอยู่ในตระกูลหลัวแห่งนี้ ก็จงเป็นตัวของตัวเองให้เต็มที่ ข้าอนุญาต”

“นะ..นายหญิง ท่านพูดจริงหรือ?”

“จริงสิ ที่นี่มีแค่ข้า สามี แล้วก็แม่สามี แค่เจ้าไม่ทำงานในหน้าที่บกพร่อง เรื่องที่เจ้าเป็นอะไร ข้าไม่สนใจอยู่แล้ว ความจริงเจ้าจะใส่ชุดสตรีก็ได้นะ อ้อ เฉพาะในจวน”

“นายหญิงช่างใจดียิ่งนัก ข้าน้อยสาบานว่าจะจงรักภักดี ตอนนี้นายหญิงอยากให้ข้าน้อยทำอะไร สั่งมาได้เลยเจ้าค่ะ อ๊ะ ขอรับ”

“ฮ่าๆ”

ยิ่งเห็นท่าทางระริกระรี้ของคนตรงหน้ามี่อิงก็ยิ่งชอบใจ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มาเจอพวกเดียวกันที่นี่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel