ตอนที่ 4
“รอนานหรือเปล่าเมย์...รถติดมากลี่เลยมาช้า”
ลิลลี่เดินเข้ามาและทักทายเพื่อนพร้อมรอยยิ้ม พยาบาลสาวนั่งลงที่โต๊ะและสั่งเครื่องดื่มจากบริกรก่อนหันมายังเมษยาซึ่งมานั่งรอเกือบชั่วโมงภายในร้านกาแฟที่มีมุมสงบท่ามกลางเมืองหลวงการจราจรคับคั่ง สองเพื่อนสาวที่เคยสนิทสนมกันมาก่อนยิ้มให้กันดังเช่นวันวานที่เคยนัดเจอและพูดคุยกันเสมอ เมษยาส่ายหน้าและเอ่ยขึ้นว่า
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะลี่ เมย์รู้ว่าลี่ก็งานยุ่ง”
“แล้วนี่ตัวเล็กของเมย์อยู่กับป้าพรรณีหรือจ๊ะ”
“จ้ะ...แม่ช่วยเลี้ยงพีพี แต่ลูกชายเมย์ไม่กวนเลยล่ะ”
“ลี่ไม่รู้เลยนะว่าเมย์มีลูกแล้ว อืม...ก็เราไม่ได้เจอกันนานแล้วนี่นะ จริง ๆ แล้วก็ไม่นานหรอกเพราะลี่ก็เพิ่งจบพยาบาลแต่เราไม่ค่อยได้เจอกันเลย”
ลิลลี่พูดพลางจิบกาแฟ เธอเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกับเมษยามาเก่าก่อนและรู้เรื่องราวความรักระหว่างเพื่อนสนิทกับลูกชายมหาเศรษฐีอย่างดี ขณะนั้นเมษยาเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายและเธอเรียนทางด้านพยาบาล แม้ไม่ค่อยได้เจอกันแต่ลิลลี่ก็คอยติดตามข่าวคราวของเพื่อนมาโดยตลอด สักครู่เมษยาก็กล่าวขึ้น
“ลี่...ที่เมย์อยากเจอลี่เพราะเมย์อยากรู้เรื่องธาม...เขาเป็นยังไงบ้าง ลี่น่ะไปคอยดูแลเขาอยู่ใช่ไหม”
“จ้ะ...ลี่เป็นพยาบาลพิเศษที่พ่อกับแม่ของธามจ้างให้ไปคอยดูแลเขาหลังเกิดอุบัติเหตุ ตอนนั้นใคร ๆ ก็คิดว่าเขาตายไปแล้วแต่เขาก็ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับที่จำใครไม่ได้เลย”
“ลี่คอยดูแลเขาตลอดเลยเหรอจ๊ะ”
“ใช่ๆ...ลี่ก็เพิ่งเรียนจบ ตอนแรกลี่ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแล้วพบเคสของธาม พ่อกับแม่ของเขาต้องการพยาบาลพิเศษคอยดูแล แล้วหัวหน้าก็เสนอให้ลี่รับงานนี้ไว้”
“ตอนนี้ธามเป็นไงบ้าง”
“ก็ยังจำใครไม่ค่อยได้ แต่พ่อแม่ของเขาให้ธามขึ้นตำแหน่งผู้บริหารธราดล กรุ๊ป น่าแปลกมากที่เขาสามารถทำงานได้ แต่เรื่องความจำเกี่ยวกับตัวบุคคลที่เคยรู้จักเป็นศูนย์”
“ธราดล กรุ๊ป อย่างนั้นเหรอ...เป็นเครือบริษัทที่ใหญ่มากเลยนะ”
“ใช่จ้ะ...ลี่ต้องคอยติดตามเขาไปที่บริษัท ต้องคอยดูแลธามตลอดเพราะบางครั้งเขาจะมีอาการปวดหัวเหมือนอย่างที่เมย์เห็นเมื่อคืน”
“ลี่...มันจะเป็นไปได้ไหมที่เมย์อยากเจอเขาอีกครั้ง ลี่รู้ไหมว่าก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุธามบอกว่าจะพาเมย์หนีไปด้วยกัน”
“ว่าไงนะ...หนี?”
ลิลลี่เสียงสูงขณะเมษยาพยักหน้า “ใช่...และตอนนั้นเมย์ท้อง แต่...ธามยังไม่รู้ เมย์จะบอกเขาวันนั้น...แต่...เกิดอุบัติเหตุกับเขา เมย์แค่อยากให้ธามจำได้ว่าเมย์กับลูกเป็นใคร”
“แต่มันยากมากเลยนะกับการฟื้นความทรงจำของผู้ป่วยที่ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก เพราะลี่เห็นบางคนจะสูญเสียความทรงจำไปตลอดชีวิต”
“เมย์แค่หวัง...หวังว่าธามจะยังจำได้ แต่ลี่ต้องช่วยเมย์ด้วยนะ”
“เมย์อยากให้ช่วยอะไรล่ะ?”
“ลี่อยู่ใกล้ชิดกับธาม และก็ตามเขาไปบริษัททุกวันใช่ไหม?”
ลิลลี่พยักหน้า “จ้ะ”
“เมย์อยากรบกวนให้ลี่ช่วยถามเขาหน่อยได้ไหมว่าบริษัทของเขารับพนักงานใหม่หรือเปล่า เผื่อว่าจะมีตำแหน่งว่างสักตำแหน่งที่เมย์สามารถเข้าไปทำได้”
“เมย์จบชั้นไหนมาล่ะ”
พอถูกถามกลับมาเมษยาก็ก้มหน้า “เมย์จบ...ชั้นมัธยมปลาย...เอ้อ...อาจจะมีตำแหน่งเล็ก ๆ ในบริษัทที่เมย์พอจะทำอะไรได้บ้าง อย่างเช่นตำแหน่งแม่บ้าน”
“โอเค...ได้...ถ้ายังไงลี่จะถามเขาให้นะ อย่างน้อยธามก็เป็นเจ้าของบริษัทอยู่แล้ว แต่ลี่ก็ไม่รับปากนะว่าจะมีตำแหน่งงานให้เมย์หรือเปล่า”
“แค่นี้เมย์ก็ขอบใจลี่มาก เมย์ไม่รู้ว่าจะให้ใครช่วยได้แล้วจริงๆ เมย์ไม่ได้ต้องการแสดงตัวว่าเป็น...เอ้อ...อะไรกับธามหรอกนะ แค่อยากให้เขาจำเมย์ได้ แค่จำเมย์ได้เท่านั้น”
“เขาสูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับคนรู้จักไปเกือบหมด ขนาดลี่เองเคยพูดคุยกับเขาก็ยังจำไม่ได้ มันอาจต้องใช้เวลานานมากเลยนะกว่าเขาจะกลับมาเป็นอย่างเก่า”
“นานแค่ไหนเมย์ก็รอได้ ถึงต้องรอชั่วชีวิตเพื่อให้เขาจดจำเมย์ได้แม้เพียงสักนิด...เมย์ก็รอ”
