ตอนที่ 4 คนป่วย
ตอนที่ 4 คนป่วย
ก๊อก!!!...ก๊อก!!!
เสียงเคาะประตูดังจากหน้าประตู เขมิการีบกลืนสตรอว์เบอร์รีลูกใหญ่ลงท้อง และรีบซ่อนโทรศัพท์มือถือลงไปใต้หมอน เธอกำลังนั่งส่องชาแนลคอลเลกชันใหม่ที่กำลังจะวางขายเร็ว ๆ นี้ หญิงสาวล้มตัวลงนอนไปที่เตียง ครั้นได้ยินเสียงรองเท้าที่ดังใกล้เข้ามาจนเกือบจะพ้นขอบห้อง เธอก็ส่งเสียงไอขึ้นมาอย่างอ่อนแรง
"แค่ก!!!...แค่ก!!!..."
"เขมเป็นยังไงบ้าง ไม่ดีขึ้นเลยเหรอ หมอที่นี่รักษายังไงกันวะ" คนป่วยที่พยายามฝืนสังขารลุกขึ้นนั่ง ทว่าก็ดูเหมือนจะไร้เรี่ยวแรงเหลือเกิน เพียงแค่ขยับตัวก็พร้อมจะล้มลงไปอยู่ตลอดเวลา ภามิกรณ์เห็นดังนั้นก็ร้อนใจ รีบเดินเข้าไปประคองให้เธอนั่งพิงหมอนใบใหญ่อย่างเบามือ
"อย่าโทษหมอเลยภาม ที่เขมป่วยไม่เกี่ยวกับร่างกายหรอกภามก็รู้" เขมิกาสูดลมหายใจเข้าอย่างอ่อนล้า เธอกุมมือหนาเอาไว้ และส่ายหน้ายิ้มเบา ๆ
"เขมก็เป็นแบบนี้ไม่รักตัวเองบ้างเลย ทำไมต้องให้คนอื่นมามีอิทธิพลเหนือตัวเองด้วย เธอควรจะดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้นะ เชื่อภามสิพี่ภูก็แค่หลงผิดไปชั่วครู่เท่านั้น วันหนึ่งพี่ภูก็จะรู้ความจริงว่าใครกันแน่คือเพชรแท้ ใครกันแน่คือก้อนขี้หมา"
"ภามอย่าพูดแบบนี้ คุณใบหม่อนเธอก็ดูเป็นคนดี เขมไม่ขออะไรมากหรอก ขอแค่เธอรักพี่ภูจริงเขมก็ดีใจแล้ว" เขมิกาก้มหน้าลง ยกมือเช็ดน้ำตาที่ปลายหางตา เหมือนจะแอบทำแต่ก็เอียงตัวให้ภามิกรณ์ได้เห็นน้ำตาอย่างชัดเจน
ภามิกรณ์มองใบหน้าหวานที่ฝืนยิ้มให้กับตนเอง หัวใจก็เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบรัด เขาเจ็บจนแทบจะหายใจไม่ออก เธอเจ็บเท่านี้ แต่เขากลับเจ็บกว่าเธอหลายเท่า อยากจะบอกว่าเขาเองก็อยู่ตรงนี้ หากพี่ภูไม่เห็นค่า ก็หันมามองเขาบ้าง แต่นั่นก็ทำได้เพียงแค่คิดเพราะความเป็นจริง ภามิกรณ์ไม่กล้าพอ เขาไม่กล้าเป็นครั้งที่สอง
ใช่แล้วเขาไม่กล้าเป็นครั้งที่สอง...สมัยอยู่เมืองนอก ภามิกรณ์ดื่มเหล้าจนเมามายและไปบอกรักเขมิกาไปครั้งหนึ่ง ทว่าผลตอบกลับมาไม่ได้เป็นอย่างที่เขาต้องการ เขมิกาหัวเราะอย่างตลก ซึ่งตอนนั้นชายหนุ่มไม่ตลกด้วยเลยสักนิด และไม่รู้ด้วยว่าการที่เขาบอกรักมันตลกอย่างไร
'...ภามเมาแล้วละ เอาไว้ให้หายเมาแล้วจะมานั่งเสียใจที่บอกรักเขม' ภามิกรณ์เบิกตามองหญิงสาวตรงหน้า ที่หัวเราะเสียจนน้ำตาไหล อาการเมาพลันหายไปทันที
'ภาม...ไม่เมาสักหน่อย'
'เมาสิ...ถ้าไม่เมาจะมาบอกรักเขมทำไม ภามก็รู้ว่านอกจากพี่ภูแล้ว เขมจะไม่มีวันรักใคร ตั้งแต่ที่พี่ภูช่วยเขมขึ้นมาจากน้ำวันนั้น หัวใจเขมก็เป็นของพี่ภูไปหมดแล้ว ภามรู้ไหมเขมเฝ้ารออยู่ตลอดเลยนะ แต่ก็อีกไม่กี่ปีแล้ว รอเรียนจบเขมก็จะกลับไปแต่งงานกับพี่ภู คุณลุงภาษิตกับคุณป้าดาวก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ หลังจากนั้นเราสองคนก็จะกลายมาเป็นญาติกันแล้วนะ ภามดีใจไหม เขมน่ะอยากได้ภามมาเป็นน้องชายแท้ ๆ จนจะทนไม่ไหวแล้ว' ภามิกรณ์ฝืนยิ้มออกมา ทว่าฝ่ามือกลับชื้นไปด้วยเหงื่อ ใครอยากเป็นน้องชายเธอกัน เขาไม่อยากเป็น แต่จะให้พูดอะไรออกไปอีก ในเมื่อเธอบอกว่ารักพี่ชายเขาไปทั้งใจ ภามิกรณ์รักภูริณัฐ รักภัทร์นรินทร์ พวกเขามีกันสามคนพี่น้อง คุณพ่อกับคุณแม่ก็สอนให้พี่น้องรักกัน ช่วยเหลือกันมาตั้งแต่เด็ก และที่ผ่านมาเขาก็เห็นว่า ภูริณัฐเองก็ดีกับเขมิกาเป็นอย่างมาก ต้องยอมรับว่าเขาสองคนเหมาะสมกันเป็นอย่างมาก เขาแพ้ไปหมดแล้วทั้งใจ และที่สำคัญวันที่เขมิกาตกน้ำ เพราะเขาเป็นคนพาไปเล่นที่สะพานจนทำให้เธอก้าวพลาดตกลงไปในน้ำ เขารู้สึกผิดมาตลอดเช่นกัน นอกจากนั้นตอนที่เขาเรียนอยู่เมืองนอก เกือบโดนกระทืบตาย ก็ได้ผู้หญิงอ่อนแอคนนี้มาช่วย ทั้ง ๆ ที่เธอก็สุดแสนจะกลัว แต่ก็ยังไม่คิดจะทิ้งเขา จะไม่ให้เขารู้สึกได้อย่างไร...
แต่ทุกวันนี้คืออะไร...พี่ชายที่แสนดีของเขากลับทิ้งผู้หญิงที่แสนดีที่รักจริงอย่างเขมิกา ไปคว้าเอาปลิงดูดเลือด แล้วจะให้ภามิกรณ์ทนได้อย่างไรไหว
"หึ!!!...รักจริงเหรอ รักแน่ละ...แต่รักเงินนะ ลองพี่ภูไม่มีเงินสิ"
"ภาม!!!..."
"เขมไม่ต้องพูดแล้ว...รอก่อนนะ รออีกไม่นานยังไงพี่ภูก็ต้องกลับมาหาเขมแน่ ๆ เชื่อภามเถอะ ทุกอย่างปล่อยให้เป็นหน้าที่ภามเอง" ภามิกรณ์ยกมือไปวางบนหัวของหญิงสาว เขมิกาก้มหน้าลง ริมฝีปากแสยะยิ้มขึ้นมา
"ภามเนี่ยชอบทำเหมือนเขมเป็นเด็ก อย่าลืมสิว่าเขมน่ะอายุเยอะกว่าภามอีกนะ ภามเรียกยัยภัทว่าพี่ แต่ไม่เรียกเขมว่าพี่สักคำ เขมกับภัทอายุเท่ากันนะ" เขมิกายกนิ้วขึ้นจิ้มไปที่หน้าอกภามิกรณ์ เขาหัวเราะขบขันท่าทางกระเง้ากระงอดของเธอ มือหนากุมนิ้วเรียวเอาไว้ หัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง
"หืม...ทำตัวเหมือนเด็กขนาดนี้ ยังจะกล้าให้เรียกพี่อีกนะ ถ้าโตกว่าจริง ก็รีบ ๆ รักษาตัวให้หายดีเร็ว ๆ เถอะ"
