
บทย่อ
เขาตราหน้าเธอว่าเป็นเพียงแค่กาฝาก คนหน้าด้านที่มาอาศัยอยู่ในบ้านเขา ต่อให้เธอทำดีแค่ไหนเจียมตัวเท่าไร แต่สำหรับเขากลับไร้ค่าเสมอ "เธอมันน่ารังเกียจ ไร้ค่ายิ่งกว่าขอทานข้างถนน ผู้หญิงหน้าเงิน!!" แนะนำตัวละคร ภามิกรณ์ อริยฉัตรสกุล ( คุณภาม ) "อรชพร แปลว่าบริสุทธิ์มากอย่างนั้นเหรอ..หึ!! เอาอะไรมาบริสุทธิ์ ผู้หญิงหน้าด้านหน้าเงินอย่างเธอนี่นะบริสุทธิ์ โอ๊ยอย่าพูดให้ขำหน่อยเลย ผู้หญิงในเลานจ์ยังจะบริสุทธิ์กว่าเธอซะอีก" "ถามจริง ๆ เถอะ เธอเอาหน้าที่ไหนมาอาศัยอยู่ต่อ พี่สาวเธอก็ตายห่าไปแล้ว ทำไมยังไม่ไสหัวไปอีกล่ะ เธอมันก็แค่เหลือบไรที่มาเกาะบ้านฉันกิน ผู้หญิงหน้าด้าน!!" . "ภามรู้ว่าคำขอโทษมันคงไม่พอ แต่หยกบอกได้ไหมอยากให้ภามทำยังไง ภามพร้อมทำเพื่อหยกได้ทุกอย่าง" อรชพร เจริญโภคทรัพย์ (ใบหยก) "หยกไม่เคยขอเงินพี่ภูใช้ หยกทำงานหาเงินด้วยตนเอง คุณภามจะดูถูกหยกแบบนั้นไม่ได้" "คุณภามไม่มีสิทธิ์มาไล่หยก คนที่ไล่หยกได้มีแค่พี่ภูเท่านั้น แน่จริงก็ให้พี่ภูมาไล่สิ หยกก็ไม่อยากจะอยู่ให้คุณภามดูถูกแบบนี้เหมือนกัน โอ๊ย!!..ปล่อยนะ ปล่อยมือหยกเดี๋ยวนี้" . "คุณภามไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นค่ะ สิ่งที่หยกต้องการที่สุด คือการที่คุณภามปล่อยหยกก็พอแล้ว หลังจากนี้ไป ขอให้เราสองคนต่างคนต่างอยู่"
ตอนที่ 1 งานแต่งของพี่สาว
ตอนที่ 1 งานแต่งของพี่สาว
"ใบหยกพี่จะแต่งงานกับคุณภู"
อรชพรเอียงคอมองหน้าอรปรียาผู้เป็นพี่สาว ครั้นเมื่อเห็นว่าใบหน้าหวานมีริ้วแดงขึ้นอย่างเขินอาย เธอก็ยิ้มกว้างออกมา หญิงสาววางผ้าที่กำลังพับเก็บเอาไว้ เดินเข้าไปกอดเอวอีกฝ่ายเอาไว้หลวม ๆ และ ยกปลายคางวางเกยอยู่บนไหล่พลางโยกตัวไปมา
"คำถามหรือคำบอกเล่าคะ" อรปรียาหัวเราะเขิน เธอดันมือน้องสาวออก ก่อนจะบีบที่ปลายจมูกรั้นอย่างเอ็นดู
อรปรียาและอรชพรมีกันเพียงแค่สองคนพี่น้อง พ่อกับแม่เธอจมหายไปกับทะเลพร้อมกับคณะสัมมนาของบริษัทส่งออกรายใหญ่ซึ่งก็เป็นบริษัทของครอบครัวว่าที่เจ้าบ่าวของเธอนั่นเอง พ่อกับแม่จากไปตั้งแต่อรชพรอายุเพียงหกขวบเท่านั้น ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา อรปรียาก็เป็นทุกอย่างทั้งพ่อทั้งแม่และพี่สาว เพราะอย่างนั้นจึงได้รักน้องสาวคนนี้เป็นอย่างมาก ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อให้น้องสาวได้มีอนาคตที่ดี ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม และอรชพรเองก็เป็นเด็กดี ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยสักครั้ง ทั้งสองอายุห่างกันหลายปี หากจะบอกว่าอรปรียาเลี้ยงอรชพรมาเหมือนลูกสาวคนหนึ่งก็คงไม่เกินจริงนัก
"คำบอกเล่าย่ะ"
"ก็ว่าอยู่ หยกดีใจกับพี่หม่อนด้วย พี่ภูจะต้องดีกับพี่หม่อนมาก ๆ แน่นอน หยกรู้เลยละ ทุกครั้งเห็นพี่ภูมองพี่หม่อนทีไร เหมือนจะกลืนกินพี่หม่อนไปทั้งตัวตลอด"
"หึ...เดี๋ยวเถอะแก่แดดแก่ลมเกินไปแล้วนะ...แต่พี่ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นไปตลอดเหมือนกัน" ครั้นเห็นว่าพี่สาวเขินอาย ซึ่งนาน ๆ ครั้งอีกฝ่ายจะแสดงความรู้สึกออกมาให้เธอได้เห็น อรชพรก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสอันนี้ ถือโอกาสหยอกล้ออีกหลายคำ จนถูกพี่สาวหยิกจนเนื้อเขียวเป็นจ้ำ ๆ
อรชพรเพิ่งจะรู้ว่า วันที่พี่สาวบอกว่าจะแต่งงานนั้น ขั้นตอนการเตรียมงานทุกอย่างก็ถูกออร์แกไนซ์จัดการไปเรียบร้อยแล้ว สามวันต่อมา อรปรียาก็อยู่ในชุดเจ้าสาวพร้อมกับภูริณัฐพี่เขยของเธอ บนเวทีในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ทั้งคู่สวยหล่อเหมาะสมกันเป็นอย่างมาก หญิงสาวหยิบมือถือขึ้นมา เพื่อเก็บภาพแห่งความรักเอาไว้อย่างมากมาย หากบอกว่าเจ้าสาวควรจะดีใจที่สุดแล้ว เธอที่เป็นน้องสาวกลับดีใจเสียยิ่งกว่า พี่เธอควรจะมีความสุขเสียที ทว่าใครจะไปรู้ว่างานแต่งงานที่ดูลงตัวทุกอย่าง เกือบจะต้องล้มลงเพราะผู้ชายนิสัยเสียคนนั้น
ปัง!!!...
เค้กแต่งงานหกชั้นคว่ำลงไปกองบนพื้น ชายหนุ่มชุดดำยืนแสยะยิ้มมองเจ้าสาวที่ใบหน้าซีดเผือด อยู่ด้านข้างเจ้าบ่าวของเธอ
"หน้าด้าน!!!...กล้าจัดงานแต่งใหญ่โตขนาดนี้ได้ยังไง มีความสุขมากใช่ไหม หัดนึกถึงผู้หญิงอีกคนที่เกือบต้องตายอยู่ในโรงพยาบาลคนนั้นบ้าง ถ้าเขมไม่เสียสละพี่ภูให้จะมีวันที่ปลิงอย่างเธอได้ชูคอขึ้นมาไหม กล้ามีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นได้ยังไงฮะอีผู้หญิงหน้าด้าน!!!..." แขนเรียวของเจ้าสาวถูกกระชากจนล้มทับกองเค้กที่พื้น
"ภามหยุดเดี๋ยวนี้...อย่ามาก่อเรื่องที่นี่" ภูริณัฐรีบดันภามิกรณ์น้องชายคนเล็กออกไปให้พ้น และก้มลงไปประคองหญิงคนรักขึ้นมาอย่างห่วงใย ยิ่งภามิกรณ์เห็นท่าทางห่วงใยของทั้งคู่ ก็ยิ่งเดือดดาลขึ้นไปอีก
"ก่อเรื่องเหรอ...หึ...พี่ภูพี่มันโคตรแย่เลยว่ะ หลงอีปลิงทะเลตัวนี้จนโงหัวไม่ขึ้น ความรักของพี่กับเขมล่ะ พี่ลืมมันไปแล้วเหรอ หรือเพราะอีผู้หญิงหน้าด้านตัวนี้ ลีลามันเด็ดจนพี่ติดอกติดใจเลยเหรอ" ฝ่ามือหนาง้างขึ้น หมายจะฟาดลงบนใบหน้าที่หนาเกินกว่าเครื่องสำอางราคาแพงของเจ้าสาว ทว่ายังไม่ทันได้กระทบลงข้อมือเขาก็ถูกจับเอาไว้เสียก่อน
"อย่ามาว่าพี่หม่อนนะ นายเป็นใครกัน ทำตัวอันธพาลไร้การศึกษา ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!!" อรชพรจิกเล็บลงบนข้อมือของคนไร้มารยาท ดวงตาเรียวจ้องมองผ่านแว่นสายตาเขม็ง เธอฉวยโอกาสตอนที่ชายหนุ่มไม่ระวังผลักหน้าอกเขาให้ถอยออกไป มือเรียวกำหมัดแน่น อยากจะเข้าไปชกอีกสักทีให้หายโมโห
"ใบหยกอย่า...นั่นคุณภามน้องชายคนเดียวของคุณภู" อ๋อ...นาทีนี้อรชพรก็เพิ่งจะรู้ว่า น้องชายที่พี่เขยเธอรักนักหนา นิสัยแย่ไม่เหมือนพี่ชายเลยสักนิด
"นี่ก็ปลิงอีกตัวเหรอ หึ...ฉันก็คิดว่าใคร เมื่อเช้าเห็นคนงานขนกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปในบ้านหลายใบ ที่แท้ก็ปลิงพี่พาปลิงน้องเข้าไปสูบเลือดพี่ภู พี่สาวมันหน้าด้าน น้องสาวมันก็หน้าด้านเหมือนกัน"
"หยุดได้แล้วภาม...ถ้าแกไม่ยินดีกับงานแต่งพี่ชายแก ก็อย่ามาสร้างปัญหา ฉันกับแม่แกเห็นด้วยกับงานแต่งของตาภู แกเป็นน้องมีสิทธิ์อะไรมาก่อกวน ไม่อายแขกเหรื่อบ้างหรือไง ส่งแกไปเรียนเมืองนอกเมืองนาทำไม ถ้ากลับมาแล้วไม่ได้เรื่องแบบนี้ กลับไประงับสติอารมณ์ที่บ้านซะ พีระพาตาภามออกไป"
"คุณพ่อ!!!..." พีระไม่รอให้ภามิกรณ์ได้อาละวาดขึ้นมาอีก เขารีบเข้าไปจับแขนลูกชายเจ้านาย และเชิญออกไปจากห้องแต่งงานอย่างนอบน้อม ทว่าก็เด็ดเดี่ยว
อรชพรมองตามคนที่ถูกดึงลากออกไป ก็เจอกับสายตาอาฆาตที่มองกลับมาเช่นกัน ริมฝีปากหนาขยับขึ้นทว่าไร้เสียง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เข้าใจความหมายของมันอยู่ดี อยู่ ๆ หญิงสาวก็ขนลุกไปทั้งตัว เธอรีบยกมือลูบไปบนต้นแขนตนเอง เสียงคุณลุงภาษิตซึ่งเป็นคุณพ่อของเจ้าบ่าวดังขึ้นบนเวที เขากล่าวขออภัยแขกที่มาในงาน และเริ่มงานต่อให้จบ หญิงสาวถูกดึงให้ลงมาจากเวที เธอมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ละคนต่างก็กระซิบกระซาบกันเต็มห้องไปหมดพรุ่งนี้คงดังไปทั้งประเทศแน่ ๆ พี่สาวมีสีหน้าเศร้าสร้อยทั้ง ๆ ที่วันนี้ควรเป็นวันที่เจ้าสาวควรมีความสุขที่สุดในชีวิต ส่วนพี่เขยก็หันไปกระซิบที่ข้างใบหู มือก็คอยลูบหลังพี่สาวเธออย่างปลอบประโลม ทว่าใบหน้าก็ดูเคร่งเครียดเช่นกัน
อรชพรเดินกลับมานั่งลงบนโต๊ะ พลางคิดว่า หลังจากนี้ไปเธอสองคนพี่น้อง จะอาศัยในบ้านอริยฉัตรสกุลได้อย่างไร เขาไม่ปล่อยพวกเธอไปแน่ เพราะคำสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกลากออกไปยังดังก้องในหัวของเธออย่างไม่ตกหล่น
'ระวังตัวเอาไว้ให้ดี...ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่!!!'
