ตอนที่ 3
“คุณย่าคะ มัน... มันแพงมากนะคะ! ล็อบสเตอร์อะไรนั่นมันต้องแพงมากแน่ๆ หนูไม่กล้ากินหรอกค่ะคุณย่า!”
เธอพยายามห้าม
“เอ่อ... หนูสั่งแค่ข้าวผัดธรรมดาก็พอค่ะ!”
ช่อพิกุลพยายามกระซิบเสียงต่ำที่สุดเพื่อไม่ให้พนักงานได้ยิน
คุณย่ามะลิหันมามองช่อพิกุลด้วยสีหน้า แปลกใจสุดขีด ราวกับว่าช่อพิกุลเพิ่งขอให้คุณย่าปีนต้นไม้
“อะไรกันหนูช่อ! นี่หนูกลัวว่าย่าจะไม่มีเงินเลี้ยงเหรอ? ย่าไม่ได้จนขนาดนั้นหรอกนะ!”
ใช่ เธอก็พอจะมองออกว่าคุณย่าคงไม่ได้อัตคัดขัดสนเงินทองสักเท่าไหร่ แต่เงินพวกนั้นก็น่าจะมาจากลูกหลานที่ต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้มา ดังนั้นเธอไม่อยากเอาเปรียบใคร
“แต่... แต่จานเดียวมัน...”
ช่อพิกุลมองเมนูสลับกับคุณย่าอย่างว้าวุ่นใจ
“มันแพงเกินไปจริงๆ ค่ะคุณย่า! เรามากินก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยกันเถอะนะคะ! อร่อยและประหยัดกว่าเยอะเลยค่ะ!”
คุณย่ามะลิส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจ แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ช่อพิกุลด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ฟังนะหนูช่อ... หนูช่วยชีวิตย่าไว้! ถ้าชีวิตย่ามีค่าแค่ก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอย ย่าก็คงยอมให้โจรมันเอามีดจิ้มไปแล้วล่ะจ้ะ”
“แต่... คุณย่าคะ...”
“เรื่องเงินน่ะปล่อยให้เป็นเรื่องของย่า! หนูแค่กินให้อร่อยก็พอแล้ว”
คุณย่าพูดตัดบท แล้วหันไปพยักหน้าให้พนักงานว่า
“ตามที่สั่งเลยค่ะ รีบทำด้วยล่ะ ฉันหิวแล้ว”
พนักงานรับคำสั่ง และเดินจากไป ในขณะที่ช่อพิกุลถึงกับหน้าซีดเผือด เธอจ้องมองแก้วน้ำตรงหน้าอย่างเหม่อลอย
โอ๊ย... ฉันกำลังนั่งกินอาหารที่แพงกว่าเงินเดือนสามสี่เดือนของตัวเองเหรอเนี่ย?
ช่อพิกุลคิดอย่างเศร้าใจ และก็ถอนใจยาวๆ ด้วยความเครียด ตรงกันข้ามกับหญิงชราที่ตอนนี้ดูมีความสุขมาก เพราะท่านกำลังดื่มด่ำกับไวน์แดงราคาแพงราวกับว่าทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ
ถ้าคุณย่าไม่มีเงินจ่าย... เธอจะทำยังไงนะ จะต้องล้างจานชดใช้ภัตตาคารหรูแห่งนี้อีกกี่ปีถึงจะใช้หนี้ค่าอาหารมื้อหนี้หมด
ในขณะที่เธอกำลังปวดหัวตึบอยู่นั้น อาหารราคาแพงลิบลิ่วก็มาเสิร์ฟตรงหน้า ล็อบสเตอร์ย่างซอสไวน์ขาว ตัวใหญ่สีแดงสดดูหรูหราเกินกว่าที่เธอจะกล้าแตะต้องจริงๆ
“เอาล่ะ หนูช่อ! อย่ามัวแต่นั่งมองสิ! กินสิเลย!”
คุณย่ามะลิ พูดอย่างอารมณ์ดี พลางตักฟัวกราส์ที่สั่งมาก่อนหน้าเข้าปากอย่างสบายอารมณ์
ช่อพิกุล หยิบส้อมเล็กที่สุดขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เธอพยายามจะหั่นเนื้อล็อบสเตอร์ที่เหนียวและดิ้นรนอยู่ในซอส แต่ความพยายามของเธอไม่เป็นผล แถมการใช้ส้อมกับมีดก็ดูเก้ๆ กังๆ จนล็อบสเตอร์เกือบกระเด็นออกจากจาน
โอ๊ย! มันหั่นยากอะไรขนาดนี้เนี่ย! ทำไมคนรวยต้องกินอะไรที่มันต้องใช้พิธีกรรมเยอะแยะขนาดนี้ด้วยนะ!
“เอ่อ... หนูขอโทษค่ะ...”
คุณย่ามะลิมองเห็นความทุลักทุเลของช่อพิกุลก็ยิ้มขำแต่ไม่พูดอะไร คุณย่ารู้ดีว่าการใช้เครื่องมือเยอะแยะขนาดนี้มันช่างน่าเบื่อหน่ายสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย
“เอ้า! ย่าว่าหนูช่อกินยังไงก็ได้ กินไปเถอะ ไม่ต้องกังวลเรื่องมารยาทอะไรหรอก”
ช่อพิกุลฟังคำแนะนำนั้นของหญิงชราแล้วก็ตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเองคุ้นเคยที่สุดเพื่อเอาตัวรอด!
เธอวางส้อมและมีดลงลงทันที จากนั้นก็ค่อยๆ เอื้อมมือไปหยิบก้ามล็อบสเตอร์ขนาดใหญ่ขึ้นมาไว้ในมือ!
เธอใช้มือทั้งสองข้าง บิ ก้ามล็อบสเตอร์นั้นออกมา แล้วค่อยๆ ใช้ปากดูดเนื้อหวานๆ ออกมาจากเปลือกอย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่สนใจซอสที่เลอะปลายนิ้วเลยแม้แต่น้อย
พนักงานที่เดินผ่านโต๊ะไปมาถึงกับต้อง เหลียวหลังมอง บางคนอาจจะมองด้วยความ รังเกียจ ที่เห็นหญิงสาวกินอาหารหรูหราด้วยมือเปล่า แต่คุณย่ามะลิกลับมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู และถูกชะตา
“แบบนี้สิ! มันต้องอย่างนี้สิ!”
คุณย่าพึมพำด้วยความพอใจ
“นี่แหละ เป็นธรรมชาติที่สุด ไม่ต้องมานั่งเกร็งกับช้อนส้อมพวกนี้!”
แล้วสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น! เมื่อคุณย่ามะลิที่วางส้อมของตัวเองลง และเลียนแบบการกระทำของช่อพิกุลอย่างไม่มีความอาย
หญิงชรายื่นมือไปหยิบก้ามล็อบสเตอร์อีกอันขึ้นมา แล้วก็ บิ มันออกมาอย่างทุลักทุเลไม่แพ้ช่อพิกุล
“นี่มัน... อร่อยกว่าใช้ส้อมตั้งเยอะเนอะ หนูช่อ”
