Ep.4
“ไหวค่ะ ว่าแต่คุณเสืออยากกินน้ำอะไรคะ น้ำส้ม น้ำเขียว หรือว่าน้ำแดง เดี๋ยวหนูเลี้ยงเองค่ะ?”
“…..” เขามองหน้าฉันนิ่ง ก่อนจะไล่สายตามองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า นี่ฉันพูดอะไรผิดไปงั้นหรอ
“หนูพูดอะไรผิดไปหรอคะ?”
“นี่เธอโง่จริงๆ หรือว่าแกล้งโง่ ถึงได้ไม่รู้ว่าฉันหมายถึงอะไร!” ไม่พูดเปล่าแต่เขายังยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้ฉัน
“เอ่อ…” ฉันเลิ่กลั่ก เมื่อได้เห็นท่าทางที่เริ่มหัวเสียของคนตรงหน้า แล้วใครมันจะไปรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
“ดูท่าทางแล้วคงโง่จริงๆ สินะ จะไปไหนก็ไป อย่ามายืนเกะกะ!” พูดจบ เขาก็ผลักตัวฉันให้ออกห่าง ก่อนจะหันกลับไปดื่มเหล้าต่อ
“…..”
“เอ้า! มัวแต่ยืนนิ่งอยู่ได้ ออกไปสิ!” คุณเสือพูดด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม หลังจากที่เห็นว่าฉันเอาแต่ยืนงงไม่ยอมขยับไปไหน
“ปะ…ไปแล้วค่ะ” ฉันรีบหมุนตัวหันกลับแล้วรีบเดินออกมาจากตรงนั้น ก่อนที่จะทำให้เขาโมโหไปมากกว่านี้
“…..”
“เป็นไงบ้าง ได้เบอร์พ่อหนุ่มสุดหล่อคนนั้นมาหรือเปล่า?” พี่จาเอ่ยถามด้วยท่าทางระริกระรี้ พร้อมกับแววตาที่ส่องแสงประกายอย่างมีความหวัง
“…..” ฉันส่ายหน้าปฏิเสธ นอกจากจะทำไม่สำเร็จแล้ว ซ้ำยังถูกเขาไล่ตะเพิดออกมาอีกต่างหาก ไม่น่าหาเหาใส่หัวตั้งแต่แรกเลยจริงๆ
“เออๆ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ มานั่งนี่มา”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่จา หนึ่งว่าจะขอกลับบ้านก่อนดีกว่า”
“ทำไมรีบกลับนักล่ะ อยู่ต่ออีกหน่อยสิ”
“หนึ่งบอกทางบ้านไว้แล้ว ว่าจะกลับไม่ดึกน่ะค่ะ” ฉันบอกถึงเหตุผล เพราะว่าที่พักของฉันค่อนข้างจะอยู่ไกล ขืนกลับดึกกว่านี้ เดี๋ยวจะไม่มีรถเมล์กลับบ้าน
“น่าเสียดายจัง กำลังสนุกกันเลย”
“เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะคะ” ไม่ใช่แค่พี่จาที่รู้สึกเสียดาย ฉันก็เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้อยู่ต่อ เอาไว้คราวหลังถ้ามีโอกาส ฉันก็หวังว่าจะได้ออกมาเที่ยวแบบนี้อีก
“โอเค กลับบ้านดีๆ ล่ะ”
“งั้นหนูกลับเลยนะคะ”
ฉันเดินออกมาจากคลับ ก่อนจะมาหยุดนั่งรอรถที่ป้ายรถเมล์ เวลาผ่านไปนานสมควรก็ไม่เห็นจะมีวี่แววของรถเมล์สักคัน ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ ฉันคงต้องเสียเงินนั่งแท็กซี่กลับบ้านแน่นอน
ปรี๊นนนน ปรี๊นนนน เสียงแตรรถดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ก่อนที่จะเห็นรถซุปเปอร์คาร์คันหรูสีแดงสด เคลื่อนมาจอดอยู่ตรงที่ฉันนั่ง ทำให้ผู้คนที่ยืนรอรถอยู่บริเวณแถวนั้น ต่างพากันหันมามองฉันเป็นตาเดียว
“…..” ฉันเพ่งสายตามองไปยังรถเจ้าปัญหา ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเขาคนนั้น ค่อยๆ ลดกระจกลงมา เผยให้เห็นว่าเจ้าของรถคันนั้นคือคุณเสือ
“หูตึงหรือไง มัวนั่งนิ่งอยู่ได้ มาขึ้นรถ!”
“เรียกหนูหรอคะ?” ฉันรีบหยัดตัวลุกขึ้น แล้วเดินเข้าไปหาเขาด้วยความไม่เข้าใจ
“เรียกเธอนั่นแหละ”
“คุณจะพาหนูไปไหน?”
“กลับบ้านไง หรือเธออยากจะนอนที่ป้ายรถเมล์!?”
“…..” ฉันยืนสงบนิ่งตามที่เขาพูด ตอนนี้รถเมล์น่าจะไม่มีแล้ว จะมีก็แต่แท็กซี่ที่พอจะเป็นทางเลือก แต่ฉันก็ไม่ได้มีเงินมากพอ ที่จะนั่งแท็กซี่กลับบ้านหลายร้อยโดยไม่เดือดร้อน แล้วอีกอย่างกลับบ้านทางเดียวกันก็ไม่น่าจะมีปัญหา มันถือว่าช่วยฉันประหยัดได้อีกทาง
“เอาไง จะไปไม่ไป?”
“ไปค่ะไป” สิ้นประโยคนั้น ฉันก็รีบเปิดประตูรถขึ้นมานั่งในทันที มันรู้สึกเกร็งอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นสายตาคุณเสือที่มองมา แต่ฉันก็พยายามไม่คิดมากอะไร แค่อดทนไม่กี่นาทีก็คงจะถึงบ้านแล้ว
บนรถ…
บรรยากาศภายในรถมันเงียบสงัด เพราะเราสองคนต่างเอาแต่นั่งเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา จะมีก็แต่สายตาของคุณเสือที่คอยชำเลืองมองฉันอยู่เป็นระยะ
“ขอบคุณนะคะ ที่อุตส่าห์ให้หนูติดรถมาด้วย” ฉันเอ่ยขึ้น เพราะอยากชวนเขาคุย เพื่อทำลายบรรยากาศที่ชวนอึดอัด
“ไม่เป็นไร ฉันถือว่าทำบุญ”
“…..” มันถึงกลับพูดไม่ออก เมื่อได้ยินคำพูดจากปากเขา ฉันคิดว่าควรกลับไปนั่งนิ่งๆ เหมือนเดิมคงจะดีกว่า
ผ่านไปไม่นานรถก็เคลื่อนมาจอดที่หน้าคอนโดหรู ฉันหันซ้ายมองขวาด้วยความสงสัย เพราะที่นี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้าน
“ฉันขอแวะทำธุระสักหน่อย นั่งรออยู่ในนี้ เดี๋ยวฉันรีบมา”
“ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับ ก่อนจะมองตามแผ่นหลังของเขาที่เดินหายเข้าไปในคอนโด
แต่ผ่านไปไม่นานนัก เขาก็เดินออกมาจากตัวอาคาร พร้อมกับผู้หญิงอีกคนฉันเกาะขอบกระจกรถมองคนทั้งสองที่กำลังหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม หรือว่าเธอคนนั้นจะเป็นแฟนของคุณเสือ
“แน่ใจนะคะว่าจะไม่ค้างกับมิน?”
“วันนี้ต้องรีบกลับ” คุณเสือตอบกลับ ก่อนจะหันมามองฉันที่นั่งรออยู่บนรถ
“งั้นเอาไว้คราวหน้าก็ได้ค่ะ เดี๋ยวมินโทรหานะคะ”
“แฟนคุณเสือสวยจังเลยนะคะ” ฉันเอ่ยเป็นประโยคแรกเมื่อเขาเข้ามาในรถ ขนาดมองไกลๆ ยังดูดีขนาดนี้ ถ้าได้เห็นใกล้ๆ คงจะสวยเหมือนดาราแน่ๆ เลย
“ไม่ใช่แฟนแค่คู่นอน” เขาตอบกลับมาอย่างไม่ใส่ใจ
“…..” ฉันเงียบแล้วคิดตามในสิ่งที่เขาบอก ไอ้เราก็คิดว่าเป็นแฟนกันซะอีก
“คู่นอนที่แปลว่าแค่เอากันเฉยๆ ไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ เธอเข้าใจหรือเปล่า?”
“เข้าใจค่ะ”
“นึกว่าจะโง่จนไม่รู้เรื่องอะไรซะอีก” เขาพูดขึ้นลอย โดยไม่ได้หันมามองหน้าฉันแต่อย่างใด
ใช่! ฉันมันคนโง่ แต่ก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าเขากำลังด่าฉันอยู่ แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรหรอก
“แล้วทำไมคุณเสือถึงไม่หาแฟนไว้สักคนล่ะคะ จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนคู่นอน บ่อยๆ”
“…..” เขาเงียบเมื่อได้ยินในสิ่งที่ฉันถาม
“คุณทั้งหล่อทั้งรวย หาผู้หญิงสวยๆ มาเป็นแฟนสักคนได้สบายอยู่แล้วค่ะ”
“กลายเป็นคนพูดมากตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“…..” พอเห็นปฏิกิริยาของเขา ฉันถึงกลับเลิ่กลั่กเพราะทำอะไรไม่ถูก หรือว่าฉะ…ฉันจะพูดอะไรผิดไปงั้นหรอ หาเรื่องโดนด่าอีกแล้วไหมล่ะ…
“แล้วเธอล่ะ ไม่คิดจะหาผู้ชายหล่อๆ รวยๆ มาเป็นแฟนบ้างหรือไง?”
“ถ้ามันหาง่ายแบบนั้นก็ดีสิคะ ผู้ชายหล่อๆ รวยๆ ที่ไหนจะมาชอบเด็กกะโปโลอย่างหนู” ฉันถึงกลับขำออกมาเบาๆ เมื่อได้ยินในสิ่งที่เขาถาม สวยก็ไม่สวยแถมยังซื่อบื้อ ทำตัวน่ารำคาญแบบฉัน ในชีวิตนี้คงไม่มีผู้ชายหล่อๆ รวยๆ คนไหนหลงผิดมาชอบฉันหรอก
“หรือถ้ามีจริงๆ หนูจะตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดเลยค่ะ”
“ฉันไง”
“…..”
