เมียเสือ(ภาคต่อเมียเสี่ย)

80.0K · จบแล้ว
ฮิวโก้
41
บท
47.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขามองเห็นเธอเป็นแค่ของเล่นไร้ราคา แต่กว่าจะรู้ว่ามีค่า ก็เมื่อได้เสียเธอไป…. “คุณเสือ หนูเจ็บ!” คนตัวเล็กพยายามสะบัดตัวหนี แต่ไม่สำเร็จเพราะสู้แรงเขาไม่ไหว “ปล่อยหนู ปล่อยสิคะ!” “ปล่อยให้โง่น่ะสิ! เอาสิ ร้องสิ ร้องแหกปากดังๆ คนอื่นจะได้รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน!” ใบหน้าคมคายโน้มลงต่ำเข้าไปใกล้ กระซิบข้างใบหู ยิ่งได้เห็นท่าทางกระวนกระวายของคนตรงหน้าเขายิ่งพอใจ “เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้นแหละค่ะ เลิกทำแบบนี้กับหนูสักที” “พูดใหม่อีกทีซิ แน่ใจหรอว่าไม่ได้เป็น?” “…..” ริมฝีปากบางสั่นระริก เมื่อชายหนุ่มใช้มือลูบไล้ที่ใบหน้าเธอเบาๆ “ต้องให้รื้อฟื้นไหม ถึงจะได้กลับมาจำได้ว่าเราเป็นอะไรกัน” “งะ…เงินคุณก็มีตั้งมากมาย จะซื้อผู้หญิงเป็นสิบเป็นร้อยคนให้มานอนด้วยก็ยังได้ แล้วทำไมต้องเป็นหนู?” เธอพูดมันออกมาด้วยความยากลำบาก เพราะไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ของคนตรงหน้าได้เลย “ก็คนอื่นมันไม่ได้น่าเอาเหมือนเธอไง!” “…..”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักคนต่ำต้อยครอบครัวใช้ความรุนแรงพาลูกกหนีคนธรรมดา

Ep.1

“พี่หนึ่ง พี่หนึ่ง พี่หนึ่งจะพาสามไปไหน?” ฉันสะดุ้งตื่นจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงเรียกของน้อง ในระหว่างที่เราสองคนกำลังเดินเตร็ดเตร่แบบไร้จุดหมาย หลังจากที่ฉันทนแม่กับพ่อเลี้ยงต่อไปไม่ไหว สาเหตุก็มาจากที่เขารีดไถ่และทุบตีฉันกับน้องอยู่เป็นประจำ

“เราจะไปหาพี่สองกันนะ”

“แล้วพ่อกับแม่จะตามมาตีเราอีกหรือเปล่า สามกลัว” สามพูด ก่อนจะมองซ้ายมองขวาด้วยความหวาดระแวง ยิ่งเห็นรอยเขียวฟกช้ำตามตัวน้อง มันยิ่งทำให้ฉันเสียใจ

“ไม่ต้องกลัวนะ มีพี่อยู่ทั้งคน ยังไงพี่ก็จะไม่ทิ้งสาม” ฉันเลื่อนมือไปลูบหัวน้องเบาๆ ด้วยความรักความเอ็นดู

“พี่หนึ่งอย่าทิ้งสามนะ สามไม่อยากอยู่กับแม่”

“พี่จะไม่ทิ้งสาม พี่สัญญา”

ติ๊งง ติ๊งง ฉันยืนกดออดอยู่ที่หน้าบ้านหลังใหญ่ หรือจะเรียกมันว่าคฤหาสน์ก็ได้ เพราะบ้านหลังนี้มันดูเหมือนฉากในละครไม่มีผิดเพี้ยน จุดหมายปลายทางของฉันในวันนี้ก็คือมาหาสอง

“มาหาใคร?” ผ่านไปไม่นาน ผู้หญิงที่มีอายุราวๆ เกือบหกสิบปีก็เดินมาเปิดประตูให้ด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“มาหาสองค่ะ สองอยู่ไหมคะ?”

“คุณสองยังไม่ตื่น มีอะไร?”

“ฝากบอกให้ด้วยนะคะ ว่าหนึ่งมาหา”

“นั่งรออยู่ตรงนี้แหละ”

“ขอเข้าไปรอข้างในได้ไหมคะ ตรงนี้แดดมันร้อน เดี๋ยวน้องจะไม่สบาย” ฉันหันไปมองสามที่ยืนอยู่ข้างๆ เพราะตอนนี้เริ่มสายแล้วแดดก็เริ่มแรงขึ้นแล้วด้วย

“เรื่องมาก!” หญิงวัยกลางคนพูดแบบไม่สบอารมณ์มากนัก ท่าทางของเธอคล้ายกับรำคาญฉันเต็มทน

“นะคะ ขอให้ฉันกับน้องได้เข้าไปรอข้างใน”

“แล้วเป็นอะไรกับคุณสองล่ะ?”

“เป็นพี่สาวค่ะ”

“เป็นพี่สาวของคุณสองหรอ?” เธอทวนถามอีกครั้ง พอได้ยินว่าฉันเป็นพี่สาวของสอง สีหน้าและท่าทางของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

“ใช่ค่ะ”

“ถ้างั้นเชิญไปรอด้านในเลยค่ะ เดี๋ยวป้าไปตามคุณสองให้นะคะ”

“ขอบคุณมากค่ะ”

ฉันเดินตามป้าคนนั้นเข้ามาในตัวบ้าน ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความตื่นเต้น ไม่ใช่แค่ฉันที่ตื่นเต้น สามก็รู้สึกไม่แพ้กัน

“อู้หู้ววว พี่สองอยู่บ้านหลังนี้จริงๆ หรอพี่หนึ่ง?” สามมองซ้ายมองขวาด้วยความตื่นตาตื่นใจ พลางวิ่งไปรอบๆ อย่างมีความสุข

“จริงสิ”

“บ้านหลังใหญ่เหมือนในทีวีเลย สามอยากอยู่บ้านหลังใหญ่ๆ แบบนี้”

“…..”

“ทำไมพี่สองถึงไม่พาเรามาอยู่ด้วยล่ะพี่หนึ่ง พี่สองไม่รักเราแล้วหรอ?” สามหันมาถาม พลางเอียงคอเหมือนต้องการคำตอบ

“รักสิ พี่สองรักเรา แต่พี่สองมีแฟนแล้ว เขาต้องมาอยู่กับแฟน” ฉันพูดไปตามความจริง ถึงแม้ว่าสองจะย้ายออกมาอยู่กับเสี่ย แต่สองก็ยังติดต่อมาหาฉันอยู่เสมอ น้องไม่เคยลืมครอบ

ครัว

“แล้วถ้าพี่หนึ่งมีแฟน พี่หนึ่งจะทิ้งสามไปอยู่กับแฟนหรือเปล่า?”

“พี่ยังไม่มีแฟนหรอก”

“หรือถ้าพี่หนึ่งจะมีแฟน ก็ต้องมีแฟนที่รวยๆ เหมือนพี่เสี่ยเลยนะ จะได้อยู่บ้านหลังใหญ่ๆ เหมือนพี่สอง” สามพูดอย่างไม่รู้ประสา ทำเอาฉันถึงกลับหลุดยิ้มออกมาให้กับท่าทางที่น่าเอ็นดู

ครืดด ครืดด เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ก่อนที่ฉันจะล้วงมันออกมาจากกระเป๋าสะพาย แล้วเห็นว่าเป็นแม่ที่โทรมา ฉันตัดสินใจกดตัดสาย เพราะยังไม่พร้อมที่จะคุยกับแม่ตอนนี้จริงๆ

“พี่หนึ่ง!” เสียงของสองดังขึ้นทำให้ฉันต้องค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนจะเห็นว่าสองกำลังมองสำรวจอย่างพิจารณามาที่เราทั้งสองคน

“พี่ขอโทษที่มารบกวนนะ”

“พี่ไปทำอะไรมา ทำไมถึงเป็นแบบนี้ สามก็ด้วย”

“…..”

“บอกสองมาสิพี่หนึ่งว่ามันเกิดอะไรขึ้น!?”

“พวกเราโดนพ่อตีครับ?” สามโพล่งขึ้น ซึ่งคำตอบของน้องก็ทำให้สองงุนงงอยู่ไม่น้อย

“พ่อ?”

“ผัวใหม่แม่น่ะ” ฉันตอบกลับ พ่อที่ว่าคือพ่อเลี้ยงที่แม่ไปเจอตามบ่อน

“ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมสองถึงไม่เคยรู้เรื่องนี้”

“พี่เห็นว่าสองมีเรื่องให้เครียดมากพออยู่แล้วเลยไม่ได้บอก”

“โถ่! พี่หนึ่ง” สองมองหน้าฉันกับสามด้วยความรู้สึกผิด ซึ่งฉันอยากจะบอกว่ามันไม่ใช่ความผิดของน้องเลยสักนิด

“ตอนนี้พี่ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใครแล้วจริงๆ ตอนนี้แม่หลงเขามาก พี่พูดอะไรก็ไม่ฟัง” ฉันร้องไห้ ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องราวออกมาทั้งหมด ถ้าไม่จนปัญญาจริงๆ ฉันคงไม่แบกหน้ามารบกวนน้อง สองกำลังมีชีวิตที่ดี กำลังมีครอบครัวที่น่ารัก ฉันไม่อยากทำให้น้องไม่สบายใจ

“พี่ใจเย็นๆ ก่อนนะ ทุกอย่างมันต้องมีทางออก”

“พี่ทนไม่ไหวแล้วสอง เงินที่ทำงานมาได้เขาก็เอาไปจนหมด” ความในใจไหลพรั่งพรูออกมาจนหมด เงินที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรง ก็ถูกแม่กับพ่อเลี้ยงรีดไถ่เอาไปจนไม่เหลือ

“แล้วพี่จะให้สองช่วยยังไง?”

“พี่อยากจะขอยืมเงินสองก่อนได้ไหม ถ้าเงินพี่ออกเมื่อไหร่ พี่จะทยอยคืนให้”

“ได้สิ พี่จะเอาเท่าไหร่ สองจะให้ พี่ไม่ต้องคืน”

“…..” ฉันอึกอักเพราะเกรงใจน้องแล้วก็เกรงใจเสี่ยด้วย

“ห้าหมื่นพอไหม?” สองพูดแบบไม่คิด ทั้งๆ ที่เงินจำนวนนั้นก็ไม่ใช่น้อยๆ

“มันมากไปนะสอง พี่ขอแค่สองหมื่นก็พอ”

“ฮึก! ฮือออ” สองเงียบไปคล้ายกับคิดอะไรบางอย่าง พอมองหน้าฉันกับสาม สองก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก

“พี่ว่าจะเอาเงินไปจ่ายค่ามัดจำห้องแล้วจะพาสามไปอยู่ด้วย ถ้าจะให้อยู่กับแม่ สามคงไม่มีอนาคต”

“เอางี้ไหม พี่กับน้องมาอยู่กับสองที่นี่ รับรองว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรพี่แน่นอน” สองสะอึกสะอื้นพร้อมกับปาดน้ำตาออกจากใบหน้า

“จะดีหรอสอง พี่เกรงใจเสี่ย”

“อย่าคิดมากสิพี่สอง เสี่ยเขาใจดีกว่าที่พี่คิดนะ”

“…..” ฉันเงียบ พลางคิดตามในสิ่งที่สองบอก ยังไงฉันก็รู้สึกเกรงใจเสี่ยอยู่ดี

“ถ้าเกิดว่าแม่กับพ่อเลี้ยงตามไปทำร้ายพี่กับน้องอีกล่ะ พี่จะทำยังไง ใครจะช่วยทัน!”

“…..” พอได้ยินดังนั้น ฉันถึงกลับวิตกกังวลมากขึ้นไปอีก ถ้าเกิดว่าแม่รู้ที่อยู่ใหม่ของฉัน แม่กับพ่อเลี้ยงคงตามไปอาละวาดแน่นอน แล้วสามก็ต้องกลับไปอยู่กับแม่เหมือนเดิม ซึ่งฉันทำใจยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ ฉันอยากให้น้องมีอนาคตที่ดีมากกว่าตอนที่อยู่กับแม่ ไม่อยากให้น้องต้องมาเห็นสภาพแวดล้อมที่ฉันเคยเจอมาตั้งแต่เด็กๆ

“มาอยู่ที่นี่กับสองนะ เดี๋ยวสองจะดูแลพี่กับสามเอง”

“แต่พี่กลัวว่าแม่จะมาทำให้สองกับเสี่ยเดือดร้อน”

“ไม่มีใครทำอะไรเสี่ยได้หรอก พี่ไม่ต้องห่วง”

“…..” สิ้นประโยคของสอง ฉันจึงเริ่มคิดทบทวนเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง ลำพังถ้าตัวคนเดียว ฉันจะไม่คิดหนักขนาดนี้ แต่ตอนนี้มีสาม ยังไงก็ต้องคิดให้รอบคอบ

“นะพี่หนึ่ง มาอยู่กับสองที่นี่ บอกตรงๆ ว่าสองเป็นห่วงพี่กับน้อง พี่จะพาสามกลับไปอยู่แบบนั้นจริงๆ หรอ?”

“แต่พี่…”

“ถ้าสองไปคุยกับเสี่ยดีๆ เสี่ยเขาก็คงไม่ว่าอะไรหรอก”

“ไม่ต้องเกรงใจ พี่น้องของสองก็เหมือนญาติฉันอีกคน” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้เราทุกคนต่างพากันหันไปมองยังต้นตอของเสียงก่อนจะเห็นว่าเป็นเสี่ยที่เดินเข้ามาใหม่

“…..”

“อยู่ที่นี่ก็ดี สองจะได้มีเพื่อน ส่วนสามฉันจะส่งให้เรียนจนจบเอง”

“…..”

“เป็นไงพี่หนึ่ง พออยู่ได้ไหม?”

ฉันกวาดสายตามองไปบริเวณรายลอบที่น้องพามาอยู่ มันคือบ้านหลังไม้สีขาวขนาดกลาง ที่มีสนามหญ้าหน้าบ้านให้เดินเล่นขนาดใหญ่ ข้างตัวบ้านจะเป็นสระบัวที่มีศาลาไว้ตรงกลางบ่อน้ำเอาไว้ให้นั่งพัก มันรู้สึกร่มเย็นและสงบน่าอยู่มากๆ

ภายในตัวบ้าน จะไปประกอบไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น หรือจอทีวีที่มีขนาดใหญ่ มันดีกว่าที่ฉันเคยอยู่เป็นไหนๆ

“อยู่ได้สิ อยู่ได้แบบสบายเลยแหละ”

“พี่ไม่ต้องคิดมากนะ ถ้าอยู่ที่นี่ไม่มีใครทำอะไรเราได้แน่นอน”

“พี่ขอโทษนะที่มารบกวน ถ้าพี่มีทางออกเมื่อไหร่ พี่จะรีบย้ายออกทันที” ฉันเอ่ยขึ้นอีกครั้งอย่างรู้สึกผิด ตอนนี้สองเปรียบเสมือนที่พึ่งสุดท้ายสำหรับฉันกับสาม ถ้าไม่มีน้องกับเสี่ยช่วยไว้ ป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไประหกระเหินซุกหัวนอนที่ไหน

“อย่าคิดแบบนั้นนะพี่หนึ่ง เราเป็นพี่น้องกัน ยังไงสองก็ต้องช่วยพี่อยู่แล้ว”

“แต่พี่เกรงใจ”

“ไม่ต้องเกรงใจเสี่ยเป็นคนอนุญาตแล้ว พี่จะอยู่นานแค่ไหนก็ได้”

“…..”

“ดีเสียอีก สองจะได้มีเพื่อน แล้วก็มีคนช่วยเลี้ยงสีฟ้ากับสีฝุ่นด้วย”

“พี่ขอบใจสองมากนะ”

“เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว”

“…..” มันถึงกลับน้ำตาเอ่อรื้นขึ้นมาเมื่อสองดึงมือของฉันไปจับไว้แน่น

“เดี๋ยวสองขอไปดูลูกก่อนนะ ส่วนพี่ก็พักผ่อนตามสบาย อย่าลืมกินยาด้วยล่ะ”

“อืม” ฉันพยักหน้า ก่อนจะพยายาม ทำท่าทางให้เป็นปกติมากที่สุดเพราะไม่อยากให้น้องต้องมาคิดมากไปด้วย

หลังจากที่เก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวเสร็จ ฉันก็ออกมาเก็บกวาดใบไม้ร่วงโรยที่อยู่บนลานสนามหญ้าหน้าบ้าน ส่วนสามนอนหลับไปแล้ว

“เดี๋ยว!” เสียงเรียกของใครบางคนดังขึ้น ทำให้ฉันต้องรีบหันหลังกลับไปมอง

“คะ?” ฉันมองหน้าเขาด้วยความสงสัย จะว่าไปเขาคนนี้ก็มีบุคลิกท่าทางและหน้าตา ละหม้ายคล้ายเสี่ยอยู่เหมือนกัน แต่คนนี้จะดูเข้มและดุกว่า ต่างจากเสี่ยที่ดูเงียบๆ ขรึมๆ หรือว่าจะเป็นพี่น้องของเสี่ย!

“ชื่ออะไร?”

“ชื่อนะ…หนึ่งค่ะ” ริมฝีปากของฉันมันถึงกลับสั่นระริก เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ ความสูงของฉันเทียบเท่าระดับอกของเขาเพียงเท่านั้น

“เพิ่งมาอยู่ใหม่หรอ ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นหน้า?”

“ใช่ค่ะ เพิ่งมาอยู่วันนี้”

“งั้นก็ดีเลย ตามฉันมานี่”

“ไปไหนหรอคะ?” ฉันถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ

“ไปทำงานไง หรือคิดจะมาอยู่ที่นี่แบบฟรีๆ!?”

“ทำค่ะทำ” พอได้ยินดังนั้น ฉันก็รีบพยักหน้ารับตอบตกลงในทันที เพราะฉันเป็นแค่ผู้อาศัย เจ้าของบ้านสั่งอะไรก็ต้องทำ

“งั้นก็ตามมา”

“เราจะไปไหนกันหรอคะ?”

“จะถามอะไรนักหนา ไปถึงก็รู้เองแหละ”

“…..”

ฉันเดินตามเข้ามาในตัวบ้าน ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ที่ชั้นสอง ที่หน้าประตูห้องบานใหญ่

แกร้ก! เขาคนนั้นเดินนำเข้าไปในห้อง จะเหลือก็แต่ฉันที่ยังคงยืนนิ่งไม่ยอมไปไหน

“จะมัวยืนนิ่งทำไม ตามเข้ามาสิ!”

“คุณจะให้หนูทำอะไรหรอคะ?” ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจ พร้อมกับรีบเดินตามเขาเข้ามาในห้อง

“ไม่เห็นหรือไงว่าห้องฉันมันรก ไปเก็บกวาดให้หน่อย”

“แต่หนู…” ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร เขาคนนั้นก็พูดแทรกขึ้นเสียก่อน

“เป็นคนใช้ไม่ใช่หรือไง ฉันสั่งอะไรก็ไปทำสิ!”

“แต่หนูไม่…”

“ฉันให้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมง ถ้าทำไม่เสร็จ ฉันจะไล่เธออก!”

“…..”

“ฉันชื่อเสือ แล้วก็เรียกให้มันถูกด้วย!”