Ep.11
“แม่ได้ข่าวจากสองว่าหนูไม่สบาย หายดีหรือยัง?” เสียงผู้เป็นแม่เอ่ยถาม หลังจากที่เห็นหญิงสาวเดินเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าอ่อน
เพลีย
“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ” หนึ่งตอบกลับ ก่อนจะเหลือบไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ในขณะที่ทุกคนกำลังจะทานอาหารเช้ากัน
“แต่สีหน้าดูเพลียๆ เหนื่อยๆ แม่ว่าพักอีกสักวันดีไหม?”
“นั่นสิพี่หนึ่ง พักอีกสักหน่อยดีไหม” สองพูดสมทบ พร้อมกับมองหน้าพี่สาวด้วยความเป็นห่วง
“พี่ยังไหว ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“แต่สองเป็นห่วง กลัวว่าจะเป็นลมเป็นแล้งไปน่ะสิ”
“ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ยังไหวจริงๆ” หนึ่งยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ถึงมันจะมีอาการเวียนหัวอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้มากมายเหมือนเมื่อวาน
“เดี๋ยวแม่ให้ตาเสือไปส่งที่ทำงาน หนูจะได้ไม่ต้องนั่งรถเมล์ไป”
“มะ…ไม่เป็นไรค่ะ” เธอรีบตอบปฏิเสธในทันที โดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีสายตาคู่คมของเขาจ้องมองอยู่
“ไม่ต้องเกรงใจ ยังไงก็ต้องไปทางเดียวกันอยู่แล้ว ใช่ไหมตาเสือ?”
“ใช่ครับ ไปทางเดียวกันพอดี” ชายหนุ่มตอบกลับ ก่อนจะมองไปยังคนตัวเล็กแบบไม่ละสายตา จนทำให้เธอต้องเบือนหน้าหันหนีในที่สุด
“ตกลงตามนี้นะ เดี๋ยวแม่ให้ตาเสือไปส่ง”
“เอ่อคือหนู…” ดวงตากลมโตกลอกกลิ้งไปมาอย่างชั่งใจ เธอไม่ได้อยากไปกับเขา แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ
“ไปเถอะ ไปกับคุณเสือนะพี่หนึ่ง” สองพูดขึ้นสมทบ เมื่อเห็นว่าพี่สาวของเธอมีท่าทีลังเล
“…..”
“ถ้าจะไปก็ตามมา” พูดจบชายหนุ่มก็หยัดตัวลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองตาม
“ถ้างั้นพะ…พี่ไปทำงานก่อนนะ ตอนเย็นเจอกัน”
“ดูแลตัวเองด้วยนะ”
“…..” หนึ่งคว้ากระเป๋าแล้วรีบวิ่งตามชายหนุ่มออกมาติดๆ เพราะกลัวว่าจะทำให้เขารอนาน
บนรถ…
“อยู่กับฉันยังไม่เลิกเกร็งอีกหรอ?” เสือเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นท่าทางของคนตัวเล็กที่เอาแต่นั่งนิ่งอยู่เบาะข้างๆ
“…..”
“ความจริงเธอน่าจะเลิกเกร็งได้แล้วนะ ทั้งๆ ที่เอากันจนแตกแบบนับไม่ถ้วน!”
“…..”
“ปากไม่มีหรือไง ฉันคุยด้วยทำไมไม่ตอบ!?”
“ก็หนูไม่มีอะไรจะคุยกับคุณนิคะ” หนึ่งตอบกลับ ก่อนจะหันหน้าออกไปมองวิวข้างทาง
“ทำท่าทางห่างเหินเหมือนไม่เคยเอากัน!” ริมฝีปากกระตุกยิ้มอย่างเย้ยหยัน เมื่อเห็นท่าทางหมางเมินของคนตัวเล็ก
“…..” หญิงสาวหันขวับไปจ้องหน้าชายหนุ่มในทันที แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรออกมา
“ฉันพูดอะไรผิดไปงั้นหรอ?”
“ความจริงคุณไม่จำเป็นต้องมาส่งหนูก็ได้นะคะ หนูไปเองได้ค่ะ” หนึ่งตัดสินใจพูดมันออกมา เมื่อเห็นท่าทางที่ดูไม่เต็มใจของชายหนุ่ม ไม่ว่าเธอจะพูดหรือทำอะไร ก็คงจะผิดทุกอย่าง
“อวดเก่ง ปากดี งั้นก็ลงมันตรงนี้แล้วกัน!”
เอี๊ยดดดดด เสียงล้อยางเสียดสีดังลั่นไปทั่วบริเวณ เมื่อชายหนุ่มเหยียบเบรคกระทันหันหลบเข้าป่าข้างทาง
มือหนาล้วงควานหาสมาร์ตโฟนเครื่องหรูที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะต่อสายโทรหาใครสักคน โดยที่มีสายตาของร่างบางจับจ้องอยู่
“ตอนนี้เธออยู่คอนโดหรือเปล่า?”
(อยู่ค่ะเสือ คุณจะเข้ามาหาป่านตอนไหนคะ?)
“ผมกำลังจะเข้าไป อีกครั้งชั่วโมงเจอกัน”
(ระ…รีบมานะคะ เดี๋ยวป่านจะใส่ชุดที่คุณชอบไว้รอ)
“แล้วเจอกัน”
(แล้วเจอกันค่ะที่รัก)
“…..” หนึ่งได้แต่นั่งฟังบทสนทนานั้นแบบเงียบๆ โดยที่ไม่ได้พูดหรือแสดงท่าทางใดๆ ออกมาให้เขาเห็น เพราะไม่อยากให้เขารู้สึกสมเพชเธอไปมากกว่านี้
“ลงไปสิ จะมัวนั่งนิ่งอยู่ทำไม?” เสือออกปากไล่ เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่นั่งก้มหน้านิ่ง
“…..”
“อยากอวดเก่งดีนัก งั้นก็หาทางไปเองแล้วกัน”
“…..”
“คิดว่าฉันจะง้อเธอหรือไง รีบลงไปสิ!”
“…..” สิ้นเสียงตวาดของเขา เธอก็ค่อยๆ เปิดประตูลงจากรถมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ มันเหมือนไม้หน้าสามที่คอยทุบหัวใจของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
เธอไม่น่ามาเจอกับเขาตั้งแต่แรกเลยจริงๆ ไม่น่ายอมให้เขาแบบง่ายดายขนาดนั้น ถ้าวันนั้นเธอตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเขา ก็คงไม่ต้องมาเจอเรื่องราวแบบนี้
สำหรับเขา เธอคงเป็นได้แค่คู่นอน ที่เขาเอาไว้แก้ขัดหรือระบายอารมณ์ใคร่ในยามที่ต้องการก็เท่านั้น
ร้านฟาสฟู้ด…
“เป็นไงบ้างหนึ่งดีขึ้นหรือยัง?”
“…..”
“หนึ่ง หนึ่ง ยัยหนึ่ง!!”
“คะพี่จา?” ร่างบางสะดุ้งด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนร่วมงานตะโกนเรียกชื่อเธอ ในขณะที่กำลังคิดเรื่องราวอะไรบางอย่าง
“ไม่สบายดีขึ้นหรือยัง?”
“ดีขึ้นแล้วค่ะ” หนึ่งตอบกลับ แล้วพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ
“ปวดหัว เวียนหัวอยู่หรือเปล่า ทำไมถึงดูเหม่อๆ”
“นิดหน่อยค่ะ แต่หนูกินยาไปแล้ว อีกสักพักก็คงจะดีขึ้น”
“ดูแลตัวเองดีๆ นะ พี่ว่าพักนี้แกดูไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเดิม”
“…..” ร่างบางคลี่ยิ้มกว้าง เพื่อให้พี่ที่ร่วมงานสบายใจ
“พี่ซื้อโจ๊กร้อนๆ มาให้ จะกินเลยไหม?” นายเอ่ย ก่อนจะยื่นอาหารให้คนตัวเล็ก
“ขอบคุณค่ะพี่นาย แต่หนึ่งยังไม่หิว”
“งั้นพี่วางไว้ตรงนี้นะ ถ้าหิวเมื่อไหร่ก็มากิน”
“ขอบคุณมากค่ะ” เธอกลับมายิ้มอีกครั้ง เมื่อได้เห็นว่าคนรอบข้างเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน
“ถ้าทำงานไม่ไหวก็บอก เดี๋ยวพี่ทำแทนให้เอง” นายพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง ก่อนจะเลื่อนมือไปลูบหัวคนตัวเล็กอย่างเอ็นดู
“ค่ะ”
20 : 00 น.
“แกเป็นอะไรตาเสือ เดินวนไปวนมาอยู่นั่นแหละ นั่งลง!” ผู้เป็นแม่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย หลังจากที่เห็นว่าลูกชายเอาแต่เดินวนไปมานานร่วมชั่วโมง
“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ววะ ทำไมถึงยังไม่กลับบ้าน!” เสือบ่นพึมพำ พร้อมกับมองไปที่ประตู เพื่อสอดส่องมองว่าคนที่ต้องการเจอกลับมาหรือยัง
“แม่บอกให้นั่งลง แม่เวียนหัวจะตายอยู่แล้ว”
พรึ่บ! ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก ก่อนจะคว้าแก้วเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่มเพื่อดับอารมณ์ขุ่นมัว
“ไปกินรังแตนมาหรือไง ทำไมถึงได้อารมณ์ฉุนเฉียวขนาดนี้”
“แค่หงุดหงิดนิดหน่อย” เสือตอบกลับพร้อมกับกระแทกแก้วลงบนโต๊ะอย่างแรง
“หงุดหงิดอะไรของแก?” ผู้เป็นแม่ขึ้นถามพลางถอนหายใจมองหน้าลูกชายคนโต
“ก็…” ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ตอบ เมื่อเหลือบไปเห็นสายตาของสองกับเสี่ยที่มองมาทางเขาอยู่พอดี
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร?”
กริ๊งงง กริ๊งงง สายเรียกเข้าของสองดังขึ้น ทำให้ทุกคนต่างพากันหันไปมอง จะมีก็แต่เสือที่เอาแต่นั่งเงียบก้มหน้าก้มตาดื่มเหล้าจนเมาอยู่คนเดียว
“ฮัลโหลค่ะพี่หนึ่ง”
ชายหนุ่มหยุดนิ่งไปชั่วขณะเมื่อได้ยินว่าคนที่โทรเข้ามา คือคนที่เขานั่งรอมาตลอดทั้งวัน
“คืนนี้นอนค้างบ้านพี่จาหรอคะ?”
“โอเคค่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะ”
เพล้ง! ชายหนุ่มบีบแก้วเหล้าอย่างแรงจนแตกคามือเขาไปแบบไม่รู้ตัว หลังจากที่ได้ยินสองพูดจบประโยคนั้น เขาพอจับใจความได้ทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“ว้ายยยย ตาเสือ ละ…เลือดออกเต็มเลย” ผู้เป็นแม่ตะโกนร้องเรียกด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าฝ่ามือของลูกชายมีเลือดไหลซึมออกมาเป็นจำนวนมาก
“ไปทำยังไงให้แก้วมันแตกคามือแบบนี้!?”
“…..”
“กอบัว กอบัว รีบเอากล่องยามาทำแผลให้คุณเสือที”
“ไม่ต้องครับ ปล่อยให้เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว!” ชายหนุ่มหยัดตัวลุกขึ้นแล้วเดินออกจากตรงนั้น ท่ามกลางเลือดสีแดงสดที่ไหลอาบแขนหยดไปตามทาง
