บท
ตั้งค่า

Ep.10

“พี่หนึ่ง พี่หนึ่ง ได้ยินสองไหม?”

“ดะ…ได้ยิน” หนึ่งตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พร้อมกับลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ เปลือกตาของเธอมันรู้สึกหนักอึ้งจนลืมตาแทบไม่ไหว กว่าที่ชายหนุ่มจะยอมปล่อยเธอให้ออกมาจากห้องก็ปาเข้าไปเกือบรุ่งสาง

“เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงไม่ไปทำงาน?” สองเอ่ยถาม ก่อนจะนั่งลงข้างๆ พี่สาวที่นอนซมอยู่ เมื่อไม่เห็นพี่สาวออกไปทำงาน เธอเลยตัดสินใจมาตามที่บ้านสวน

“พี่ปวดหัวน่ะ สงสัยจะไม่สบาย” เพียงแค่ขยับเล็กน้อย ร่างกายของเธอก็เหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

“จริงด้วย ตัวร้อนจี๋เลย เดี๋ยวสองไปเอาข้าว เอายามาให้กินนะ” สองพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ก่อนจะรีบหยัดตัวลุกขึ้น แต่ทว่าเธอกลับคว้าแขนน้องสาวไว้เสียก่อน

“ไม่เป็นไร พี่กินไปแล้ว ขอนอนพักอีกสักหน่อยคงดีขึ้น” หนึ่งตอบกลับแล้วพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ เพราะไม่อยากให้น้องสาวรู้สึกเป็นห่วง เธอเลือกที่จะโกหกออกไป ทั้งๆ ที่ยังลุกขึ้นนั่งแทบไม่ไหวเสียด้วยซ้ำ

“งั้นพี่ก็นอนพักเถอะ เดี๋ยวตอนเย็นสองเอาข้าวกับยามาให้”

“ขอบใจมากนะ”

“ไม่ต้องเป็นห่วงสามนะ เดี๋ยวสองดูแลให้เอง”

“…..” หนึ่งพยักหน้ารับ ก่อนจะมองตามแผ่นหลังของน้องสาวที่เดินออกไป

“หนูหนึ่งไปไหน ทำไมถึงไม่มาทานข้าวด้วยกันล่ะ?” แม่ของชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นหญิงสาวมาทานข้าวด้วยกันเหมือนทุกครั้ง

“พี่หนึ่งไม่สบายน่ะค่ะ เลยลุกมาไม่ไหว” สองตอบกลับ

เสือที่นั่งทานอาหารอยู่ ถึงกลับหันขวับไปมองในทันทีเมื่อได้ยินว่าคนตัวเล็กไม่สบาย แล้วเขาก็รู้ดีแก่ใจว่าสาเหตุที่เธอต้องป่วยมันเป็นเพราะเขา

“ตายจริง! แล้วเป็นอะไรมากไหม ไปหาหมอหรือยัง?” ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม

“เห็นบ่นว่าปวดหัวแล้วก็เจ็บท้องจุกท้องอะไรนี่แหละค่ะ สองจะพาไปหาหมอ แต่พี่หนึ่งไม่ยอม”

“…..” ชายหนุ่มได้แต่นั่งฟังบทสนทนานั้นอย่างเงียบๆ ก่อนจะรู้สึกถึงสายตาของเสี่ยที่จ้องมองมา เขารีบหลบสายตา ก่อนจะทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมา จู่ๆ ถึงได้เป็นแบบนี้” สองพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเพราะท่าทางและอาการของพี่สาวดูจะไม่ค่อยดีนัก ทั้งๆ ที่เมื่อวานยังคุยร่าเริงกันตามปกติ

“โดนของแข็งกระแทกเข้าไปขนาดนั้น อีกวันสองวันก็น่าจะหาย”

“…..” สิ้นประโยคของเสือ ทุกคนต่างพากันหันไปมองยังต้นตอของเสียงนั่น จะมีก็แต่เสี่ยที่นั่งทานข้าวเงียบๆ คนเดียว ไม่สนใจคนรอบข้าง

“อะไรของแกตาเสือ บ่นพึมพำอะไร?”

“ผมก็พูดของผมไปเรื่อย อย่ามาสนใจเลยครับ”

“ไอ้ลูกคนนี้ประหลาดจริง!” ผู้เป็นแม่มองหน้าลูกชายด้วยความงุนงง แต่ก็ไม่ได้สงสัยหรือถามอะไรต่อ

20 : 30 น.

ร่างบางเอามือกุมท้อง ก่อนจะค่อยๆ ก้าวขาเดินเข้ามาในห้องครัวด้วยความระมัดระวัง พออาการเริ่มดีขึ้น เธอเลยอยากลุกขึ้นมาหาอะไรกิน

“ไม่มีอะไรกินเลยหรอ?” คนตัวเล็กเบ้หน้าออกมาด้วยความผิดหวัง เมื่อเปิดตู้เย็นแล้วไม่พบสิ่งของที่พอจะเอามาทำกินได้ หรือถ้าเธออยากกินจริงๆ ก็คงต้องเดินอ้อมเข้าไปในบ้านใหญ่ ซึ่งเธอก็ไม่ได้มีเรี่ยวแรงมากพอขนาดนั้น

“โดนกระแทกแค่นี้ถึงกับจับไข้เลยหรอ?” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น พร้อมกับร่างบางที่สะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อโดนชายหนุ่มโอบกอดเอาไว้แน่นจากทางด้านหลัง

“คุณขะ…เข้ามาได้ยังไง?” หนึ่งเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะเธอมั่นใจว่าได้ล็อกประตูหน้าต่างอย่างแน่นหนาแล้ว

“ลืมไปแล้วหรอว่านี่มันบ้านฉัน ทำไมถึงจะเข้ามาไม่ได้” พูดจบชายหนุ่มก็ควักกุญแจบ้านสวนออกจากกระเป๋ากางเกงให้เธอดู ก่อนจะวางใบหน้าคมคายซบลงบนบ่ามนของหญิงสาว

“…..” มือสากเลื่อนขึ้นไปหมายจะจับใบหน้าแสนหวาน แต่ต้องหยุดชะงักเมื่อถูกคนตัวเล็กปัดมันออกแบบไม่ใยดี

“อย่านะคะ!” ร่างบางขยับถอยห่างเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรเกินเลย

“ฉันแค่จะจับดู ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย”

“…..” เธอได้แต่ยืนนิ่ง เมื่อเขาค่อยๆ เลื่อนฝ่ามือมาแตะที่หน้าผากของเธอเพื่อวัดไข้

“กินข้าวกินยาหรือยัง?”

“…..” คนตัวเล็กเลือกที่จะเงียบไม่ตอบอะไร

“ถ้าพรุ่งนี้ไม่ไหวก็ลางานอีกสักวันสองวัน เดี๋ยวฉันจะเป็นคนจ่ายค่าแรงให้เอง”

“ไหวค่ะ พรุ่งนี้ก็น่าจะดีขึ้น”

“รออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวฉันไปเอาข้าวเอายามาให้กิน”

“ไม่ต้องค่ะ หนูไม่หิว” ร่างบางตอบกลับแบบไม่คิด ต่อให้เธอจะหิวมากแค่ไหน แต่ก็เลือกที่จะอด

“อยากตายหรือไง ถึงไม่ยอมกินข้าวกินยา!”

“แล้วคุณจะมาสนใจหนูทำไม ไม่ใช่เพราะคุณหรอคะที่ทำให้หนูเป็นแบบนี้!” หญิงสาวตัดพ้อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือคล้ายกับจะร้องไห้ เมื่อได้เห็นท่าทางที่ดูเป็นห่วงเป็นใยของชายหนุ่ม ทั้งๆ ที่เขาเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้ง

หมด

“ฉันแค่ไม่อยากให้มีคนมาตายในบ้านฉัน!”

“คนอย่างหนูมันไม่ตายง่ายๆ หรอกค่ะ” หนึ่งยกมือขึ้นปาดน้ำตาแบบลวกๆ แล้วตั้งท่าจะเดินหนีเขาออกมา

“ปากเก่งแบบนี้อยากโดนอีกใช่ไหม!?” ไม่พูดเปล่าแต่ชายหนุ่มยังปรี่ตัวเข้าไปขวางหน้าหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นอยู่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอกลัวเขามากแค่ไหน

“…..”

พรึ่บ! ร่างของเธอลอยขึ้นเหนือพื้น เมื่อถูกชายหนุ่มอุ้มท่าเจ้าสาวเดินออกมาจากห้องครัว

“คุณจะพาหนูไปไหน!?”

“พาไปกินข้าวกินยาไง เรื่องอะไรฉันจะยอมปล่อยให้เธอตาย”

“…..”

“เพิ่งกินไปได้ไม่กี่คำ อิ่มแล้วหรอ?” เสือเอ่ยถามคนตัวเล็กที่เอาแต่นั่งนิ่งไม่ยอมกินข้าวที่เขาซื้อมาให้

“อิ่มแล้วค่ะ”

“อาหารไม่ถูกปากหรือเปล่า เดี๋ยวฉันไปซื้อให้ใหม่”

“หนูอิ่มแล้วจริงๆ มันรู้สึกกินอะไรไม่ค่อยลง”

ครืดดด ครืดดด เสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวดังขึ้น ทำให้คนทั้งสอง ต่างพากันหันขวับไปมองยังต้นตอของเสียงนั่น

ร่างบางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาคือพี่นาย เพื่อนร่วมงานของเธอ

หมับ! ยังไม่ทันที่จะได้จับ โทรศัพท์ของเธอก็ถูกแย่งเอาไปเสียก่อน

“เดี๋ยวฉันรับสายให้เอง”

“คุณเสืออย่าค่ะ เอาโทรศัพท์ของหนูคืนมา” คนตัวเล็กถึงกลับร้องโวยวายออกมา พร้อมกับตั้งท่าจะแย่งโทรศัพท์คืน

“กลัวไอ้หมอนั่นรู้หรือไง ว่าเรากำลังอยู่ด้วยกัน!”

“อย่านะคะ หนูขอร้อง”

เมือเห็นสายตาอ้อนวอนของหญิงสาว เขาเลยเลือกที่จะคืนโทรศัพท์ให้เธอไปแต่โดยดี

หมับ! เสือกระชากคนตัวเล็กให้ขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตักแกร่ง พร้อมกับโอบเอวเธอเอาไว้แน่นไม่ให้ดิ้นหนีไปไหนได้ โดยที่ไม่สนว่าคนตัวเล็กจะทำหน้ายังไง

“ฉันให้เวลาคุยกับมันแค่สองนาที”

ติ๊ด! ชายหนุ่มถือวิสาสะกดรับสายให้ โดยที่หญิงสาวยังไม่ได้ตอบตกลงแต่อย่างใด เมื่อเห็นดังนั้น หนึ่งจึงรีบรับโทรศัพท์นั้นมาด้วยความจำเป็น เพราะกลัวว่าเสียงของเสือจะเล็ด

ลอดออกไปยังปลายสาย

“ค่ะพี่นาย”

(เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมวันนี้ไม่มาทำงาน?)

“หนึ่งไม่สบาย อ๊ะ! นะ…นิดหน่อยค่ะ” หญิงสาวถึงกลับสะดุ้งด้วยความตกใจ เมื่อมือหนาของชายหนุ่มล้วงเข้ามาภายในเสื้อแล้วปลดตะขอบราของเธอออก ในขณะที่เธอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่

(แล้วเป็นอะไรมากไหม กินข้าวกินยาหรือยัง?)

“กะ…กินแล้วค่ะ” ชายหนุ่มจัดการถอดเสื้อยืดของเธอออก ก่อนจะโน้มริมฝีปากลงไปดูดเม้มที่ยอดอกของร่างบางทั้งสองข้างสลับกันโดยไม่สนว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่

(เป็นอะไรไป ทำไมเสียงสั่นๆ)

“เปล่าค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร นะ…หนึ่งขอตัวไปนอนพักก่อนนะคะ” เล็บคมจิกลงบนบ่าแกร่งเมื่อถูกเรียวลิ้นตวัดดูดดึงยอดอกอย่างมูมมาม

(ดูแลตัวเองดีๆ นะ พี่เป็นห่วง แล้วพรุ่งนี้เจอกัน)

“ค่ะ”

“คุณเสือ พะ…พอเถอะค่ะ” เธอพยายามผลักชายหนุ่มให้ถอยห่าง เมื่อเต้าอวบทั้งสองข้างมันเปียกแฉะเต็มไปด้วยน้ำลายของเขา

“นี่เธอยังไม่ได้บอกกับมันอีกหรอว่ามีผัวแล้ว!”

“…..”

“หรือเธออยากให้ฉันเป็นคนไปบอกมันเอง!?”

“อย่านะคะ อย่าทำแบบนั้น”

“งั้นก็ฝากไปบอกมันทีนะ ว่าอย่ามายุ่งกับเมียชาวบ้าน!” เสือเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างไม่สบอารมณ์ แค่คิดว่ามีผู้ชายคนอื่นมายุ่งกับเธอ เขาก็รู้สึกหงุดหงิดจนแทบจะบ้า

“หนูคิดกับเขาแค่เพื่อน ไม่ได้คิดอย่างอื่น” เธอพยายามพูดเพื่อให้เขาใจเย็นลง เพราะถ้าเขาเกิดไม่พอใจ เรื่องมันอาจจะจบเหมือนเมื่อคืน

“คิดได้แบบนั้นก็ดี เผื่อเธอจะยังไม่รู้ว่าฉันเป็นคนหวงของ” มือสากทั้งสองข้างเลื่อนไปประคองใบหน้าแสนหวานเอาไว้อย่างหวงแหน ทุกๆ อย่างบนร่างกายของเธอ เป็นเขาเพียงคนเดียวที่มีสิทธิ์สัมผัสมัน

“ยิ่งอะไรที่เป็นของๆ ฉัน ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามแตะ!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel