บทที่ 9 คาหนังคาเขา
HS Village
บนโต๊ะอาหารมื้อแรกของเช้าวันจันทร์ สองสามีภรรยากำลังกินมื้อเช้ากันอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่เงียบสงบ วันนี้ไลลาดูจะอารมณ์ดีกว่าปกติ เพราะเธอเพิ่งได้รับการรายงานจากมัตสรินว่าทุกอย่างกำลังได้ด้วยดี ซึ่งเจ้านายสาวไม่รู้เลยว่า มันเป็นการรายงานที่ไม่มีมูลความจริง
“ดูคุณอารมณ์นะครับ” กัลป์ที่เพ่งมองภรรยาอยู่เป็นนานสองนานอดที่จะถามไม่ได้
“อืม...อาจเป็นเพราะไลลาเพิ่งได้ฟังข่าวดีมาน่ะค่ะ” ภรรยาสาวเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้ม
“ข่าวดีอะไรครับ?”
“เรื่อง...งานน่ะค่ะ”
“ผิดกับผมเลยนะ ที่เมื่อวันก่อนเพิ่งได้รับข่าวร้ายมา” ไร้รอยยิ้ม ไร้แววตาที่แสนอบอุ่น ในเวลานี้ใบหน้าของกัลป์มีแต่ความเรียบนิ่งที่ไม่อาจจะคาดเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“ข่าวร้ายอะไรคะ?”
“ก็เรื่องงานเหมือนคุณนั่นแหละ”
“เรื่องงานมีปัญหาเหรอคะที่รัก? พวกนักศึกษาสร้างเรื่องวุ่นวายอีกแล้วน่ะสิ ไลลาบอกแล้วไงว่าคุณน่ะมาลงทุนทำธุรกิจดีกว่า เป็นอาจารย์น่ะ...นอกจากจะงานหนักแล้ว เงินก็น้อยอีกต่างหาก”
“ดูท่าว่าคุณจะสนใจเรื่องเงินเป็นพิเศษนะไลลา?” แล้วคำถามของสามีก็ทำให้ภรรยาสาวหุบยิ้มในทันที
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะกัลป์?”
“เปล่าครับ ผมก็แค่พูดไปอย่างนั้นแหละ คุณอย่าคิดมากเลย...ว่าแต่ ไซต์งานที่ภูเก็ตเป็นยังไงบ้าง คืบหน้าไปถึงไปแล้ว” ชายหนุ่มทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง
“ก็...ดีค่ะ ตอนนี้ก็เสร็จไปราวๆเจ็ดสิบเปอเซนต์แล้ว”
“เดือนที่แล้วตอนผมถาม คุณก็บอกว่าเสร็จไปแล้วเจ็ดสิบเปอเซนต์ แบบนี้ก็แสดงว่ามันไม่คืบหน้าเลยล่ะสิ”
ปัก!
ไลลากระแทกส้อมลงบนจานอย่างแรง เธอเริ่มชักสีหน้าไม่พอใจออกมา ก่อนจะหยิบผ้ากันเปื้อนขึ้นมาเช็ดปาก
“รู้ไหมคะว่าคุณทำตัวเหมือนพยายามจับผิดไลลา?”
“ผมทำให้คุณคิดแบบนั้นเหรอ?”
“ไลลาไม่อยากหาเรื่องทะเลาะกับคุณ แต่อย่าคิดนะคะว่าไลลาไม่รู้ว่าคุณมีอะไรที่ปิดบังไลลาอยู่” ได้ทีภรรยาสาวก็แกล้งทำเป็นเกริ่นถึงบางคน
“ผมเหรอครับที่มีเรื่องปิดบัง?”
“สาวๆสวยๆ ของแปลกใหม่ มันคงเร้าใจกว่าเมียเก่าๆที่บ้านล่ะมั๊งคะ?” ไลลาแสร้งทำเป็นทิ้งปริศนาเอาไว้ในสามี ก่อนจะเดินออกไปจากห้องอาหารในทันที และเมื่อเขาเห็นว่าเธอออกไปแล้ว สองมือหนาก็กำแน่น ฟันกรามขบกันอย่างพยายามที่จะกัดกลั้นความเสียใจและความขุ่นเคืองเอาไว้ แล้วภาพเมื่อวันก่อนมันก็ลอยเด่นชัดเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง
The Sky Luxury Hotel
รถยนต์คันหรูวิ่งเข้ามาจอดที่โรงแรมระดับห้าดาวซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ร่างสูงรีบลงจากรถแล้วยื่นกุญแจให้พนักงานรับรถ ก่อนจะเดินขึ้นตรงเข้าไปในห้องลิฟต์แล้วกดขึ้นไปยังชั้นบนสุด สายตาของเขาสั่นไหว สองมือกำแน่น และเมื่อลิฟต์เปิดออก เขาก็พุ่งตรงเข้าไปยังเลาจน์ของโรงแรม ก่อนที่จะได้เจอกับหญิงสาว เจ้าของใบหน้าสายที่มาพร้อมกับแววตาเจ้าเล่ห์
‘มาจนได้...ไหนบอกว่าไม่เชื่อไง?’ เธอคนนั้นเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มในทันทีที่เห็นเขา
‘ไลลาอยู่ที่ไหน?’ และดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่สนใจคำถามนั้น
‘กัลป์...ทำใจเย็นๆ แล้วมานั่งตรงนี้ก่อน...ไม่งั้นฉันจะไม่บอกอะไรนานทั้งนั้น’ โรส คือชื่อของเธอ เธอเข้าไปพาตัวชายหนุ่มให้เข้ามานั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ ส่งสัญญาณให้บาร์เทนเดอร์เอาเครื่องดื่มมาเพิ่มอีกแล้ว
‘ฉันจะไปดูให้เห็นกับตาว่าสิ่งที่เธอบอก มันคือเรื่องจริงหรือเรื่องเหลวไหลกันแน่!’
‘กัลป์! นายตั้งสติก่อน...ตอนนี้เมียนายพาผู้ชายขึ้นห้องไปแล้ว ฉันสาบาน เอาหัวเป็นประกันเลยว่าถ้านายเข้าไปตอนนี้ ยังไงก็เจอ...แต่คำถามคือ นายพร้อมแล้วเหรอ? นายกล้าพอที่จะเห็นภาพบาดตาบาดใจพวกนั้นแล้วหรือไง?! แล้วถ้าเห็นแล้วยังต่อ...นายกล้าหย่ากับยัยบ้านั่นไหม ถ้าคำตอบคือไม่...ก็อย่าเพิ่งเข้าไป’ สิ่งที่โรสพูดมามันทำให้กัลป์นิ่งไป
‘เธอรู้ใช่ไหมว่าถ้ามันไม่จริง...ฉันจะไม่รับสายเธออีก เหมือนเมื่อหกเดือนก่อน’ กัลป์จ้องหน้าโรสไม่วางตา
‘ครั้งที่แล้วมันก็จริง เพียงแต่ตอนนั้นนายไม่ยอมเชื่อฉัน เพราะเอาแต่หลงนังสำส่อนนั่น!’
‘เธอไม่มีสิทธิ์ด่าเมียฉัน จนกว่าฉันจะเห็นกับตาว่าเขาทำอย่างที่เธอว่าจริงๆ’
‘ฮ่ะๆ ดูเหมือนว่านายก็ยังไม่เชื่อฉันนะ งั้นแล้วครั้งนี้นายมาทำไม? เอ๊ะ?! หรือว่านายเลิกโง่แล้ว?’ โรสเอียงคอทำเสียงทีเล่นทีจริงใส่เพื่อนสมัยเด็กที่รู้จักกันมาเกือบทั้งชีวิต
‘เธอแค่เล่าสิ่งที่เธอรู้มาทั้งหมด’ กัลป์คว้าแก้วเหล้าขึ้นมากระดก รวดเดียวหมดแก้ว
‘โอ...นายดื่ม ทั้งๆที่ไม่เคยดื่ม...แบบนี้แสดงว่านายน่ะ เริ่มสงสัยเมียตัวเองขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหม? บอกฉันมา...ว่านายเอะใจอะไรบ้าง? แล้วฉันจะยอมเสี่ยงชีวิตบอกเรื่องที่ฉันรู้’ อยู่ๆโรสก็นึกสนุกขึ้นมา
‘ถ้าเธอไม่ใช่เพื่อนที่ฉันไว้ใจมากที่สุด...’
‘ฉันรู้ๆ นายไม่มีทางพูดเรื่องนี้กับคนอื่นนอกจากฉัน เล่าๆมาเถอะน่ะ!’
‘หลวม’
‘หะ?!’ คำบอกเล่าสั้นๆของกัลป์ทำให้โรสเบิกตามองโต
‘เราไม่ค่อยได้มีเซ็กส์กัน อย่าว่าแต่จะนอนกอดกันเลย...แค่เจอหน้ากันก็ยังไม่ค่อยมีเวลา แต่ครั้งล่าสุด...ไลลาหลวมมาก ฟังแล้วมันเหมือนจะเป็นเรื่องไร้สาระ แต่มันก็ทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้ ว่าถ้าเมียฉันมีแค่ฉันคนเดียว มันจะหลวมจนน่าแปลกใจได้ยังไง’
‘ใช่...เป็นฉันก็คงคิด...แต่ฉันรู้ว่าถ้านายจะสงสัยอะไรสักอย่าง มันคงไม่ใช่แค่เพราะจิมิของไลลาหลวมแน่ๆ’
‘ตอนคบกันแรกๆ ไลลาบอกว่าฉันคือผู้ชายคนแรกของเขา แต่...ฉันกลับไม่คิดแบบนั้น ฉันไม่ได้มองว่าเรื่องนี้มันสำคัญ แต่เธอรู้ใช่ไหมว่าสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดคือการถูกหลอก’
‘ฉันรู้...แต่นายน่ะถูกหลอกมาตั้งแต่ต้นแล้วกัลป์’
‘สายตาที่ไลลามองมาที่ฉัน มันเหมือนเป็นสายตาเยาะเย้ยมากกว่ายิ้มแย้ม คำที่เธอบอกว่ารัก...ฉันรู้สึกว่าเธอพูดเพราะรู้ว่าฉันอยากได้ยิน ฉันอดสงสัยไม่ได้จริงๆ ว่าไลลารักฉันเพราะเงิน’
‘นายโอเคไหม?’ โรสอดจะถามไม่ได้เมื่อเห็นว่ากัลป์ดูเป็นทุกข์มาก คนดีอย่างเขาไม่ควรมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้
‘ไลลาปิดบังเรื่องการใช้เงินกับฉัน โกหกเรื่องไปทำงานต่างจังหวัด โกหกเรื่องงาน เขาทำสิ่งที่ฉันเกลียด...แต่ฉันก็เลิกกับเขาไม่ลง เพราะฉันรักเขา...เธอเข้าใจความรู้สึกนี้ไหม?’ แววตาและน้ำเสียงของกัลป์สั่นเครือมาก เขารู้มาตลอด...ถึงการโกหกที่ไลลาสร้างขึ้น แต่ก็ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยอมเป็นคนโง่ให้ภรรยาหลอก เพียงเพราะเขารักเธอ
‘ไม่จริงหรอก กัลป์...นายไม่ได้รักเมียตัวเองมากขนาดที่จะทิ้งไม่ได้ แต่นายแค่ไม่อยากเริ่มต้นใหม่ นายแค่อยากจะทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด นายเลยให้โอกาสนังตอแหลนั่นซ้ำๆซากๆแบบนี้...อย่ายอมที่จะเป็นคนโง่ เพราะผู้หญิงเลวๆคนนั้นเลย ฉันจะบอกนายให้ว่าเมื่อหกเดือนก่อนกับวันนี้ ฉันเห็นอะไร’
‘...’
‘ฉันเห็นเมียนายมาที่โรงแรมนี้กับผู้ชายที่ชื่อหลุยส์ ทั้งตอนนั้นและตอนนี้...เป็นผู้ชายคนเดียวกัน แล้วฉันก็รู้จักผู้ชายคนนั้นดี ว่าเขามันเลวระยำยังไง’
‘หลุยส์? นั่นมันเพื่อนสมัยเรียนของไลลา’ กัลป์ขมวดคิ้วมองโรส เขาเองก็รู้จักหลุยส์ดี เคยไปกินข้าวด้วยกันอยู่หลายครั้ง
‘ก็เพื่อนที่เป็นคู่นอนไง แล้วฉันจะบอกนายให้...ว่าหลุยส์คนนี้มันไม่ธรรมดาเลยล่ะ มันเข้าหาผู้หญิงรวยเพื่อหลอกเอาเงิน ไอ้นี่มันเป็นนักลงทุน...ชอบลงทุนไปเรื่อย แต่ก็เจ๊งไม่เป็นท่าเพราะสนใจแต่อยากจะได้เงิน แต่ไม่ดูความเป็นไปได้อะไรเลย ไลลาเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่มันหลอก เรื่องนี้ฉันก็เอาหัวเป็นประกันอีกเหมือนกัน’
‘...’
‘และเงินที่ไลลาเอาไปปรนเปรอไอ้ชั่วนั่น ก็คือเงินของนาย ตาสว่างสักทีนะกัลป์’
‘ยังไงฉันก็อยากเห็นด้วยตาตัวเอง ถ้าลองเธอเรียกฉันมาที่นี่ นั่นแปลว่าเธอต้องรู้ด้วยว่าสองคนนั้นอยู่ห้องไหน’
‘นายพร้อมจริงๆเหรอกัลป์...?’
‘อืม’
Room 2207
โรสและกัลป์มาอยู่ที่หน้าห้องสวีท ซึ่งหญิงสาวมั่นใจว่าภายในห้องนั้นมีคู่ชู้กำลังพลอดรักกันอยู่
‘ฉันไม่อยากให้ไลลารู้ตัว’ กัลป์เอ่ยขึ้น
‘ฉันรู้...ยังไงสองคนนั้นก็ไม่รู้อยู่แล้วนี่ว่าเราเป็นเพื่อนกัน...นายเคยเล่าเรื่องของฉันให้ไลลาฟังหรือเปล่าล่ะ?’
‘เธอเป็นคนห้ามไม่ให้ฉันบอกใครถึงเรื่องของเธอไม่ใช่เหรอ แล้วฉันจะไปเล่าเรื่องเธอให้ไลลาฟังได้ยังไง?’
‘งั้นดีเลย...นายไปหลบตรงโน้น...หามุมหลบให้ดี ที่เหลือฉันจัดการเอง’ กัลป์ยอมทำตามที่โรสบอกอย่างว่าง่าย เขารีบเดินไปหลบที่มุมลับตา แต่ก็ยังพอจะมองเห็นเหตุการณ์ได้จากตรงนั้น
และเมื่อได้จังหวะ โรสก็กดกริ่งหน้าห้องในทันที ไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออก...เผยให้เห็นหลุยส์ที่อยู่ในชุดผ้าเช็ดตัวห่อท่อนล่างผืนเดียว
‘มาหาใคร?’ หลุยส์ขมวดคิ้วถามโรส
‘พี่เรียกหนูมาไม่ใช่เหรอคะ?’ โรสเป็นงาน เธอรู้ดีว่าต้องทำตัวยังไงกับสถานการณ์แบบนี้
‘ใครเรียกเธอ?!’
‘ที่รัก...ใครเหรอคะ?’ และจังหวะนั้นเอง เมื่อเสียงหวานใสดังขึ้นมา หัวใจของคนที่เฝ้าแอบดูอยู่ก็เต้นรัว และเมื่อเขาได้เห็นร่างบางในชุดผ้าขนหนูห่อตัวเข้ามาโอบกอดหลุยส์ หัวใจของเขาก็หยุดเต้น ร่วงหล่นลงพื้น แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ
นี่คือสิ่งที่เขาสงสัยมาโดยตลอด...
ทั้งกลิ่นกายที่แปลกไปของเธอ ทั้งร่างกายที่ไม่เหมือนเดิม ทั้งหลักฐานการใช้เงินมากมาย หกเดือนหลังมานี้ไลลาใช้เงินหนักมาก และไม่ค่อยมีเวลา อ้างว่าทำงานหนัก เขาเพียงสงสัย...แต่ไม่เคยตามสืบ เพียงเอะใจ แต่ไม่เคยตั้งคำถาม แต่วันนี้...เขาได้เห็นกับตาและได้ยินกับหู ว่ามันคือเรื่องจริง...สิ่งที่โรสพยายามบอกเขามาตลอดมันคือเรื่องจริง เขาโดนสวมเขา โดนนอกใจ โดนหลอกใช้ โดยภรรยาของเขาเอง...
กัลป์ถอยหลังเดินออกไปจากตรงนั้น...น้ำตาลูกผู้ชายรินไหลลงอาบสองแก้ม ก่อนที่เขาจะยื้อมันเอาไว้ไม่ไหว...เขาหมดแรง เดินต่อไปไม่ได้ จึงทิ้งตัวลงนั่งกับพื้น แล้วปลดปล่อยความเสียใจออกมา
‘กัลป์! นายโอเคไหม?!’ โรสที่เคลียร์ตรงหน้าห้องชู้รักเสร็จ ก็รีบเข้ามาประคองเพื่อนเอาไว้
‘ฮึก! ไม่...ไม่โอเคเลยโรส’ สิ้นคำทรมาน เขาก็พุ่งตัวเข้ากอดเพื่อนสาวเอาไว้ แล้วปล่อยโฮออกมาอย่างไม่คิดอาย
‘ร้องออกมา...ร้องออกมาให้พอ ฉันอนุญาตให้นายร้องไห้ได้แค่วันนี้เท่านั้น...หลังจากนี้นายต้องเข้มแข็งนะกัลป์...เข้มแข็งแล้วไปหย่ากับนังร่านนั่นซะ!’
