บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 การตัดสินใจ

Heaven

การตัดสินใจเป็นเรื่องยากสำหรับฉัน เพราะที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ฉันตัดสินใจจะทำอะไร สิ่งที่ดีกว่ามักจะอยู่ในฝั่งตรงกันข้ามกับทางที่ฉันเลือกเสมอ ฉันได้แต่นั่งดื่มเบียร์แก้วแล้วแก้วเล่า มองเงินห้าหมื่นในบัญชีจากแอปพลิเคชันธนาคารในมือถือ

‘เงินห้าหมื่นนี้เป็นค่าคิด...ฉันให้เธอกลับไปคิดสองวัน ได้คำตอบแล้วมาบอกฉันด้วย’

เสียงของคุณไลลายังดังกังวานอยู่ในหัวไม่หยุด ฉันถอนหายใจออกมาอย่างที่รู้ตัวว่าทำมันไปแล้วซ้ำๆ ยังไงวันนี้ฉันก็ต้องโอนเงินให้ไอ้พวกสารเลวนั่นสองหมื่น เงินนี่...ถึงจะรับงานหรือไม่ก็ตาม ยังไงฉันก็ได้มันมาแล้ว ถ้ามันอยู่ในบัญชีชื่อฉัน นั่นแปลว่ามันคือเงินของฉัน เพราะงั้น...ฉันก็แค่ใช้มันซะ

“แกชวนฉันออกมาดื่ม แต่กลับนั่งจ้องแต่มือถืออ่ะนะ?” เสียงถิงถิงดังขึ้นมา

“ฉันแค่อยากดื่ม ไม่อยากคุยกับแกนี่”

“แรงมากแม่! งั้นฉันกลับล่ะ!” ถิงถิงแกล้งทำเป็นงอนแล้วทำท่าจะลุกออกไปจากโต๊ะ ฉันเลยรั้งแขนเพื่อนเอาไว้

“ล้อเล่นน่ะ! ไหนๆ แกมีเรื่องอะไรของเจ้านายอยากจะเล่าให้ฉันฟังอีกไหม?” แน่นอนว่าพอฉันบอกออกไปแบบนั้น ถิงถิงก็ทิ้งตัวลงนั่งที่เดิมพร้อมรอยยิ้มในทันที

“แกอยากรู้เรื่องอะไรล่ะ?”

“เรื่องที่แกรู้ อะไรก็ได้ที่แกอยากเล่า”

“อยู่ๆทำไมถึงอยากจะรู้เรื่องเจ้านาย จริงสิ...คุณไลลาเรียกแกไปคุยเรื่องอะไรเหรอ?”

“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่...ถามเรื่องรอยแดงที่ปากฉัน”

“นี่คุณไลลาเขาเห็นเหรอว่าพวกนั้นทำร้ายแก?”

“อืม แล้วฉันก็โกหกไปว่าไอ้เลวนั่นมันเป็นแฟนอันธพาลของฉันเอง” ตอนนี้ฉันโกหกทั้งคุณไลลาและถิงถิง มันเริ่มขึ้นอีกแล้ว...การโกหก

“ทำไมแกไม่บอกความจริงไปว่าพวกนั้นมันเป็นพวกนักเลงทวงหนี้”

“ขืนบอกแบบนั้น ฉันก็โดนไล่ออกพอดี...เจ้านายที่ไหนจะเก็บพนักงานที่มีเจ้าหนี้มาตามถึงที่ทำงานไว้ล่ะ?”

“เออ...ก็จริงของแกนะ จริงสิ...แกรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงชวนแกมาดื่มที่ร้านนี้? ทั้งๆที่เบียร์แพงหูฉี่” ในตอนนั้นถิงถิงก็ยกยิ้มขึ้นมา

“เพราะฉันบอกว่าจะเลี้ยง”

“นั่นก็ใช่...แต่มันมีอีกเรื่องน่ะสิ...คือร้านนี้น่ะ เป็นร้านที่มีแต่พวกคนรวยๆ ฉันอยากให้แกตกใครสักคนกลับบ้านไปน่ะ”

“หึ! ยังไม่พ้นเรื่องรวยทางลัดสินะ”

“หาผัวรวยๆสักคนเถอะนะมัต บอกตามตรงว่าฉันไม่อยากเห็นใครได้ผัวรวยเท่าแกมาก่อนเลย หน้าสวยๆแบบนี้ เวอร์จิ้นสดซิงแบบนี้...จะเก็บไว้ชิงโชคหรือไง?”

“หาผัวรวยแบบคุณไลลาน่ะเหรอ?” ฉันยิ้มถาม

“ใช่ แบบนั้นแหละ...ผัวที่ทั้งดี หล่อ แล้วก็รวย”

“งั้นทำไมฉันไม่ตกผัวคุณไลลามาเป็นของตัวเองซะเลยล่ะ? ถ้าเขาจะเพอร์เฟคซะขนาดนั้น”

“ไอ้มัต?!”

“ฉันพูดเล่นน่ะ!” ฉันรีบทำให้มันเป็นเรื่องล้อเล่นในทันทีที่ถิงถิงทำหน้าตกใจ

“ฉันรู้ว่าแกล้อเล่น...แต่ที่ฉันตกใจน่ะ คือพอแกพูดถึงเขา เขาก็โผล่มาทันทีเลย...นั่น! ข้างหลังแกที่กำลังเดินเข้ามา ผู้ชายคนนั้นที่ใส่เสื้อเชิตสีขาว เขาคืออาจารย์กัลป์ ผัวคุณไลลาล่ะ!”

ฉันค่อยๆหันไปตามคำบอกของถิงถิง แล้วก็ได้สบตากับเขาคนนั้น ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีสุดเพอร์เฟคของคุณไลลา ผู้ชายที่ถิงถิงและใครต่อใครบอกว่าเขาเป็นคนดี แต่เมียตัวเองกลับบอกว่าเขามันเลวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แล้วหัวใจของฉันมันก็เต้นแรงขึ้นมาซะอย่างนั้น...

ครืดๆ ครืดๆ

“บ้าจริง! พี่เจมส์โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย?!” เสียงของถิงถิงทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ รีบละสายตาจากเขาคนนั้นก่อนจะหันกลับมาตามเดิม

“ไอ้มัต! ฉันต้องออกไปรับสายพี่เจมส์ว่ะ แกนั่งคนเดียวไปก่อนนะ” ว่าแล้วถิงถิงก็ลุกออกไปจากโต๊ะ ขณะนั้นฉันก็แอบหันไปมองหาเขาอีกครั้ง เขายังอยู่ที่เดิม...เหมือนกำลังมองหาใครบางคนอยู่ และเหมือนว่าเขาหาเจอในที่สุด เขายกยิ้มขึ้นมา...แล้วเดินผ่านโต๊ะฉันไปยังโต๊ะด้านใน แล้วฉันก็ต้องเชื่อว่าบนโลกใบนี้มันมีเรื่องบังเอิญอยู่จริงๆ เมื่อคนที่สามีของคุณไลลามองหาก็คือพี่เวย์ รุ่นพี่สมัยเรียนของฉันเอง

ครืดๆ ครืดๆ

มือถือของฉันดังขึ้นมา เมื่อมีข้อความเข้ามา พอเห็นว่าเป็นข้อความของถิงถิง ฉันก็เปิดอ่านในทันที

LINE

TingTing : แก พี่เจมส์โกรธมากที่ฉันออกมาดื่ม ขอโทษจริงๆ แต่ฉันต้องรีบกลับไปง้อผัวว่ะ

Matsarin : ฉันเข้าใจ แกไปเถอะ

TingTing : ขอโทษน๊า...อย่าเมามากล่ะ กลับบ้านดีๆ

Matsarin : อื้ม

เอาล่ะ...ในเมื่อจังหวะมันเหมาะเจาะได้ขนาดนี้ ฉันเองก็ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อประกอบการตัดสินใจครั้งใหญ่ อย่างน้อยถ้าฉันได้คุยกับเขาสักสองสามประโยค ฉันก็พอจะได้รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง...จะดีอย่างที่ใครๆเขาว่า หรือจะเลวอย่างที่คุณไลลาบอกจริงหรือเปล่า

ฉันคว้ากระเป๋าแล้วลุกจากโต๊ะ จากนั้นก็แกล้งทำให้เก้ามันหงายหลังล้มลงไป

ปัง!

เสียงดังที่เกิดขึ้นมันทำให้ผู้คนในร้านที่เปิดเพลงคลอเบาๆพากันหันมามองที่ฉันเป็นตาเดียว

“ขอโทษค่ะ” ฉันก้มหน้าขอโทษพวกเขา แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา

“มัต! นั่นมัตหรือเปล่า?” ตามแผน...ฉันเรียกร้องความสนใจจากพี่เวย์ได้

“พี่เวย์?” แล้วฉันก็เดินเข้าไปหยุดที่ตรงหน้าเขา หางตาของฉันเห็นว่าอาจารย์กัลป์คนนั้นมองฉันเพียงแวบเดียวเท่านั้น ก่อนจะหันไปมองที่อื่น

“ไม่ได้เจอกันนานมาก ตั้งแต่ที่พี่เรียนจบล่ะมั๊ง นี่มัต...มาดื่มกับเพื่อนเหรอ?” พี่เวย์ทักทายฉันพร้อมรอยยิ้ม

“ค่ะ พอดีว่ามัตมากับเพื่อน แต่เพื่อนกลับไปก่อนแล้วเพราะติดธุระ มัตก็เลยกำลังจะกลับ...”

“เดี๋ยวสิ...จะรีบไหน มานั่งกับพี่ดีกว่า พี่มากับเพื่อนแค่สองคนน่ะ แล้วเพื่อนพี่มันก็ไม่ดื่มด้วย พี่ดื่มคนเดียวเหงาแน่เลย”

“จะดีเหรอคะ?”

“ดีสิ...นั่งๆ”

แล้วฉันก็นั่งลงตรงข้ามกับอาจารย์กัลป์ เขาดูอึดอัดเล็กน้อยที่มาฉันมาร่วมโต๊ะ และเขาก็ดู...เหมือนจะไม่สนใจผู้หญิงสวยซะด้วยสิ สายตาก็ไม่มีวี่แววของความเจ้าชู้เลยด้วย ชักน่าสนใจแล้วสิ...

“พี่เวย์กลับมาจากบอสตันตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?” ฉันถามไปอย่างนั้นแหละ แค่หาเรื่องคุย เพื่อที่จะดูปฏิกิริยาของอาจารย์จอมหยิ่ง

“พี่กลับมาได้อาทิตย์แล้วล่ะ แต่พรุ่งนี้ก็จะบินอีกแล้ว คราวนี้ไปออสเตรเลียน่ะ เดี๋ยวขอแนะนำก่อนนะ นี่เพื่อนรักของพี่เอง ชื่อกัลป์ เขาเป็นอาจารย์น่ะ”

“สวัสดีค่ะอาจารย์กัลป์” ฉันยกมือขึ้นไหว้เขา

“ไม่ต้องไหว้หรอกครับ แล้วก็ไม่ต้องเรียกอาจารย์ด้วย...” แต่เขาก็นะ...คงทำตัวไม่ถูกที่มีคนนอกอย่างฉันมาร่วมโต๊ะ

“ไอ้กัลป์...นี่มัตสริน รุ่นน้องที่คณะกูเอง...รู้จักกันไว้สิ”

“สวัสดีครับ...” เขาทำเพียงโค้งศีรษะใส่ฉันแล้วก็หันมองไปทางอื่น

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ...เอ่อ ถ้าไม่ให้เรียกว่าอาจารย์กัลป์ แล้วมัตต้องเรียกว่าอะไรคะ?” ฉันเองก็เพิ่งค้นพบสกิลตอแหลขายอ้อยของตัวเองก็ตอนนี้นี่แหละ

“เรียกแค่ชื่อเฉยๆก็ได้ครับ” อืม...เขาพูดครับทุกคำเลยล่ะ

“จะเรียกแค่ชื่อได้ยังไงคะ? ในเมื่อคุณกัลป์เป็นเพื่อนของพี่เวย์ งั้นมัตขอเรียกว่าพี่กัลป์แล้วกันนะคะ” ฉันพยายามยิ้มหวานอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่ไม่แน่ใจจริงๆว่าเขาจะเห็นรอยยิ้มของฉัน เพราะเขาไม่มองหน้าฉันเลย

“งั้นก็เอาตามที่คุณมัตสะดวกก็แล้วกันครับ”

“ค่ะ...พี่กัลป์” พอฉันเอ่ยออกไปแบบนั้น เขาก็เหลือบตามามองฉัน เราสบตากัน เพียงชั่ววินาที เขาก็หลบตาฉันไป หึ...เขาทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นพรานป่า ส่วนเขาก็เป็นลูกกวางน้อย น่ารักดีแฮะ!

ฉันกับพี่เวย์ เราดื่มเบียร์ด้วยกันอยู่พักใหญ่ ขณะที่พี่กัลป์คนนี้ดื่มแค่น้ำเปล่า...เขาน่ะเป็นพวกถามคำ ตอบคำ ไม่ชวนคุย...ไม่ถามกลับ มันเลยมีแค่ฉันกับพี่เวย์เท่านั้นที่คุยกัน จนในที่สุดมันก็ถึงเวลาที่พี่เวย์ต้องไป...

“โอ...เที่ยงคืนแล้วเหรอเนี่ย? พี่ต้องไปเช็กอินที่สนามบินตอนตีสองน่ะ”

“หะ? นี่มึงจะเมาขึ้นเครื่องเหรอไอ้เวย์?” ขณะนั้นพี่กัลป์ก็ตกใจถาม

“ก็เออดิ!”

“แบบนี้จะดีเหรอคะ? มัตไม่คิดว่าพี่เวย์จะบินไฟล์ตเช้า...”

“ดีสิ...พี่ต้องไปแล้วล่ะ กูไปนะไอ้กัลป์...แล้วเจอกันเมื่อชาติต้องการ...!” ว่าแล้วพี่เวย์ก็ลุกออกไปจากโต๊ะ พี่กัลป์รีบควักเงินแบงก์พันออกมาวางบนโต๊ะหลายใบไม่ต่ำกว่าสี่ ก่อนจะรีบตามพี่เวย์ออกไป ฉันเลย...ต้องตามพวกเขาออกไปด้วย

ฉันกับพี่กัลป์ตามคนเมาออกมาที่ริมถนน พี่เวย์โบกแท็กซี่...ก่อนจะหันกลับมาที่พวกเราพร้อมรอยยิ้ม

“ไอ้กัลป์! ไปส่งมัตด้วยล่ะ! อย่าปล่อยให้น้องสาวกูต้องกลับแท็กซี่เองนะ” พี่เวย์ทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะขึ้นแท็กซี่จากไป

“...”

แล้วฉันก็พี่กัลป์ก็หันมามองหน้าฉัน...เขาลอบถอนหายใจ แววตาแสดงความหนักใจไม่น้อยที่ต้องไปส่งฉัน

“พี่กัลป์ไม่ต้องไปส่งมัตหรอกค่ะ พี่เวย์ไม่รู้หรอก” ฉันยิ้มให้เขา และที่จริง...ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาจะปฏิเสธฉันยังไง

“ไม่ได้ครับ ยังไงผมก็ต้องไปส่งคุณ” ผิดคาดแฮะ...นี่เขายืนยันที่จะไปส่งฉันที่บ้านงั้นเหรอ?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel