บทที่ 2 เมียน้อยว่าจ้าง
“หน้าแกไปโดนอะไรมา?”
ถิงถิงถามขึ้นในทันทีที่ฉันเดินกลับเข้ามานั่งทำงานที่โต๊ะ ฉันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เพราะไม่อยากจะตอบคำถามนั้น แต่แน่นอนว่านิสัยอยากรู้อยากเห็นของถิงถิงมันทำให้เธอลุกจากที่นั่งตัวเองแล้วตรงเข้ามาหาฉัน
“อย่าบอกนะว่าพวกเจ้าหนี้มาตามแกถึงที่นี่?!”
“ถิงถิง กลับไปทำงานของแกเถอะ!”
“ฉันว่าแกควรแจ้งตำรวจนะมัต”
“ถิง! ที่ฉันไม่ตอบคำถามของแก เพราะฉันไม่อยากพูดถึงมัน แกมองไม่ออกหรือไง?” ฉันอดที่จะทำเสียงดุเพื่อนเจ้าคำถามของฉันไม่ได้จริงๆ
“ฉันเป็นห่วงแกนะ รู้ทั้งรู้ว่าแกมีปัญหา รู้ทั้งรู้ว่าแกต้องเจอกับอะไรบ้างแต่ฉันก็ช่วยอะไรแกไม่ได้เลย”
“เอาเป็นว่าฉันรับรู้ความห่วงใยของแกแล้ว กลับไปนั่งที่ของตัวเองแล้วทำงานซะ แค่นั้นก็ถือว่าช่วยฉันได้มากสุดๆแล้ว”
“โอเคๆ” ในที่สุดถิงถิงก็ยอมกลับไปที่โต๊ะ แต่ขณะนั้นก็มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาหาฉันอีก
“คุณมัตสรินใช่ไหมคะ?” เสียงอ่อนหวานของเธอทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมอง
“ค่ะ มัตเองค่ะ”
“ลีเป็นเลขาของคุณไลลานะคะ ท่านให้มาเชิญคุณมัตสรินไปพบที่ห้องทำงานน่ะค่ะ”
“คะ? เชิญมัตเหรอคะ?”
“ค่ะ”
คุณลี หันหลังเดินออกไปในทันที ส่วนฉันก็ทำได้เพียงหันไปมองหน้าถิงถิงอย่างงงๆ คนระดับรองประธาน จะมาเชิญพนักงานระดับล่างอย่างฉันไปพบทำไมกัน? หรือเพราะคุณไลลารู้ว่าพวกนั้นที่มาเจอฉันเป็นพวกตามทวงหนี้อย่างนั้นเหรอ?
ฉันเดินตามคุณลีเข้ามาในห้องทำงานของคุณไลลา เพียงเดินเข้ามาฉันก็รับรู้ได้ในทันทีว่าที่นี่คือสวรรค์ ทุกสิ่งอย่างมันดูหรูหราไปหมด กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งห้อง พวกคนรวยเขาตัวหอมกันแบบนี้ทุกคนหรือเปล่านะ?
“ท่านรองคะ คุณมัตสรินมาแล้วค่ะ”
เก้าอี้ทำงานที่ด้านหลังโต๊ะนั่นหมุนกลับมาในทันทีที่คุณลีบอกว่าฉันมาถึงแล้ว และนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นใบหน้าโคตรสวยของคุณไลลาใกล้ๆเป็นครั้งแรก
“คุณลีออกไปรอข้างนอก ส่วนมัตสรินเชิญนั่ง” สิ้นเสียงไพเราะของคุณไลลา คุณลีก็เดินออกไปจากห้องในทันที ส่วนฉันก็นั่งลงที่โซฟารับแขก ก่อนที่คุณไลลาจะเดินเข้ามานั่งตรงข้ามฉัน
“ได้มองใกล้ๆแบบชัดเจนอีกครั้ง เธอสวยมากจริงๆนะ” คำพูดของคุณไลลาทำเอาฉันเอียงคอสงสัยในทันที ประสบการณ์ชีวิตเฮงซวยของฉันมันบอกว่า เธอไม่ได้เรียกฉันมาพบเพื่อชมว่าสวยเพียงอย่างเดียวแน่ๆ
“ขอบคุณค่ะ แต่คุณไลลาก็สวยมากเหมือนกันค่ะ สวยจนมัตเองยังไม่กล้ามองตรงๆ”
“สวยมากเหมือนกันเหรอ? ฉันว่าเธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ เพราะเราสวยไม่เหมือนกัน” คุณไลลายกยิ้มที่มุมปาก เอาจริงๆฉันไม่เข้าใจเธอหรอก แต่ก็ไม่คิดจะถามต่อ
“คุณไลลาเรียกมัตมาพบ...”
“ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกับเธอ...เรียกง่ายๆว่ามัตได้ใช่ไหม?”
“ค่ะ”
“มัต...เธอทำงานที่นี่มานานเท่าไหร่แล้ว?”
“สามเดือนค่ะ”
“งั้นก็ยังไม่ได้บรรจุเป็นพนักงานประจำน่ะสิ”
“ค่ะ”
“อยากบรรจุไหมล่ะ? ไม่สิ...เธออยากได้ตำแหน่งหัวหน้าแผนกฝ่ายบุคคลไหมล่ะ?”
“คะ?” บอกตามตรงว่าคำถามของคุณไลลามันเป็นสิ่งที่ฉันไม่ได้คาดเอาไว้ เพราะฉันเอาแต่คิดว่าเธอจะเรียกฉันมาดุด่า
“ก็ตรงตามที่พูดนั่นแหละ ดูจากประวัตแล้วเธอฉลาดมากไม่ใช่เหรอ จบจากมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของประเทศ แถมยังได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ไม่น่าจะเข้าใจอะไรยากนะ” โอเค...ฉันเข้าใจแล้วล่ะ เธอคนนี้สืบประวัติฉันแล้ว ก่อนจะเรียกเข้ามาคุย
“แลกกับอะไรล่ะคะ?” ฉันเลิกคิ้วถามกลับในทันที
“ต้องแบบนี้สิ...ถึงจะเป็นแบบที่ฉันชอบ ไม่ต้องทำตัวหงิมๆหรอกนะ เพราะฉันดูออกว่าเธอไม่ธรรมดา” คุณไลลาเหยียดยิ้มอีกครั้ง
“อะไรทำให้คุณคิดว่ามัตไม่ธรรมดา?”
“เพราะฉันเห็นว่าใครมาหาเธอวันนี้...หึ! ถ้าไม่ใช่แฟนที่เป็นนักเลง ก็คงหนีไม่พ้นพวกเจ้าหนี้ เขาตบเธอด้วยนี่...”
“บางครั้งผู้หญิงก็รักคนเลว...ใช่ไหมล่ะคะ?” ฉันแกล้งทำเป็นยิ้ม ให้คุณไลลาเข้าใจว่าพวกนั้นเป็นแฟนฉัน ยังดีกว่าให้รู้ความจริงว่าเป็นเจ้าหนี้
“ใช่ ฉันถึงได้อยากคุยกับเธอไง...ฉันมีเรื่องสำคัญมาก อยากให้เธอช่วย แน่นอนว่าเธอไม่ได้ช่วยฉันฟรีๆ เธอจะได้ทั้งเงินและตำแหน่งหัวหน้าแผนก ถ้างานนี้สำเร็จ”
“คุณจะให้มัตทำอะไร?”
“อย่างที่เธอบอก ว่าบางครั้งผู้หญิงอย่างเราก็โง่ไปหลงรักคนเลว...ฉันเองก็เป็นแบบนั้น” คุณไลลานี่อ้อมค้อมเก่งเป็นบ้าเลย!
“...”
“สามีฉัน...ในสายตาคนอื่น เขาเป็นคนดี ดีมากจนใครๆก็บอกว่าฉันมันน่าอิจฉา แต่ที่จริงแล้ว...เขามันเลวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เลยล่ะ”
“คุณจะจ้างมัตฆ่าสามีคุณเหรอคะ?” ฉันแกล้งถาม ถามไปอย่างนั้นแหละ เพราะฉันไม่ใช่คนที่จะตัดสินใครจากคำบอกเล่าของคนอื่นอยู่แล้ว
“ฮ่ะๆ เธอนี่ตลกดีนะมัตสริน! แทนที่จะถามว่าเขาเลวยังไง แต่เธอกลับ...คิดว่าฉันจะจ้างให้เธอฆ่าเขา...ฉันฆ่าเขาไม่ลงหรอก เพราะฉันรัก รักเขามากจนยอมถวายหัวเลยก็ว่าได้ ฉันซื่อสัตย์กับเขา ไม่เคยคิดนอกใจหรือนอกกายแม้แต่สักครั้งเดียว ขณะที่เขา...ฮึก!” คุณไลลาหัวเราะในตอนต้นประโยค แต่กลับสะอื้นเหมือนจะร้องไห้ในตอนท้ายประโยค เล่นเอาฉันทึ่งในความสามารถนี้ของเธอไม่น้อย
“เขานอกใจคุณเหรอคะ?”
“ทั้งใจและกาย ทุบตี ด่าทอฉันสารพัด เขาทำเหมือนฉันไม่ใช่คน แต่...ก็ไม่ยอมหย่าให้ฉันเป็นอิสระ” อา...ฉันพอจะรู้แล้วล่ะว่าคุณไลลาจะจ้างให้ฉันทำอะไร
“ถึงจะทรมาน แต่คุณก็ยังรักเขา อย่างนั้นใช่ไหมคะ?” ฉันถามต่อ ทำเหมือนว่าเข้าใจหัวอกผู้หญิงด้วยกัน
“ใช่ แต่ความอดทนของคนเรามันก็มีขีดจำกัด ฉันทนรองมือรองเท้าเขาไม่ไหวอีกแล้ว ฉันต้องการหย่า...เธอช่วยฉันได้ไหมมัตสริน?”
“คุณจะให้ฉันช่วยยังไงคะ?”
“เป็นเมียน้อยเขา ทำให้เขารักเธอ จนยอมหย่าให้ฉัน...แค่นั้นแหละที่ฉันต้องการ”
“ฮ่ะๆๆๆๆ” แล้วฉันก็หัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“เธอจะเรียกเงินเท่าไหร่ก็ได้...ขอแค่ทำให้ผู้ชายคนนั้นรักเธอจนยอมหย่าก็พอ”
“ล้านนึง” ฉันจ้องหน้าคุณไลลาไม่วางตา เงินล้านนึงที่พอจะทำให้ฉันเป็นอิสระได้
“ตกลง” แต่เธอกลับยินยอมอย่างว่าง่าย ซึ่งมันทำให้ฉันแปลกใจเล็กน้อย
“แค่จ้างให้ฉันไปเป็นเมียน้อยของสามีคุณ...ฉันได้ตั้งล้านนึงเลยเหรอ?”
“มากกว่านั้นฉันก็ให้เธอได้...เพราะมันคุ้มค่ามากเมื่อแลกกับอิสรภาพ...เธอว่าไหมล่ะ?”
