บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 : คนใจร้าย 1

ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ภูริไม่สนใจดารินญาอย่างที่พูดจริงๆ แค่ชายตามองก็ยังไม่ทำ แล้วยังกลับมาทำตัวเช่นเดิมด้วย นั่นคือตื่นเกือบเที่ยง แล้วออกไปสังสรรค์พบปะเพื่อนฝูง กลับมาอีกครั้งตอนดึกดื่นในสภาพเมามาย ยกเว้นอย่างเดียวคือการหลับนอนกับผู้หญิง จะแตะต้องใครทีไร ภาพใบหน้าใสซื่อของดารินญาก็ตามมาหลอกหลอนจนหมดอารมณ์ทุกที ชีวิตประจำวันของเขาวนลูปอยู่อย่างนั้นทั้งเดือน จนชาติชายกับอัมพิกาแทบทนนิ่งเฉยไม่ไหว ถ้าไม่ใช่เพราะดารินญามาขอร้องเอาไว้ว่า อยากให้ปล่อยชายหนุ่มใช้เวลากับความโสดของเขาตามสบายไปก่อน เมื่อถึงวันที่ต้องจดทะเบียนสมรสกัน ค่อยขอให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองในฐานะผู้ชายที่แต่งงานแล้วก็ยังไม่สาย

เช้านี้ภูริตื่นเร็วและลงมาข้างล่างไวกว่าทุกวัน อากาศเย็นสบายทำให้เขานึกอยากออกไปนั่งดื่มกาแฟกลางสนาม ตลอดทั้งเดือนเขาต้องทนเห็นว่าที่ภรรยาหัวเราะต่อกระซิกกับเอกราชอยู่บ่อยๆ แต่ก็บอกตัวเองเสมอว่าอย่าไปให้ราคากับชายหญิงชั้นต่ำ มาวันนี้เองที่ทำให้ความอดทนของเขาขาดสะบั้น เพราะทันทีที่เดินออกมาหน้าบ้าน เขาก็พบเอกราชกำลังกอดเอวดารินญาจากทางด้านหลัง แนบชิดกันจนคางของไอ้ลูกขี้ข้านั่นก้มลงมาเกยอยู่บนไหล่เล็ก

“ระวังครับ!”

เอกราชคว้าตัวหญิงสาวไว้ วันนี้เป็นวันหยุด เขาไม่ไปทำงานจึงรับหน้าที่ปลูกดอกกุหลาบแทนบิดาซึ่งเป็นคนสวน ดารินญาเห็นเขาทำ เธอก็นึกอยากลองบ้าง เธอช่วยปลูกกุหลาบลงบนแปลงเรียบร้อย รดน้ำให้มันเสร็จสรรพ แต่จังหวะที่ลุกขึ้นยืน ดันเหยียบดินเปียกๆ เข้า เกือบลื่นล้มหงายหลัง ถ้าไม่ใช่เพราะมีเอกราชยืนอยู่ก่อนแล้วช่วยประคอง เธอคงล้มก้นจ้ำเบ้าไปแล้ว

“ตายจริง! ดานี่ซุ่มซ่ามอีกแล้ว”

ดารินญาตำหนิตัวเอง เธอสะดุดเกือบจะหกล้มอยู่เรื่อย ส่วนหนึ่งคงเพราะมัวแต่ใจลอยคิดถึงพ่อ แล้วก็กังวลกับอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งจำได้ดีว่ามันคือฤกษ์จดทะเบียนสมรสตามที่คุณลุงคุณป้าว่าไว้ วันนี้ก็วันที่ห้าแล้ว อีกแค่สี่วันสถานภาพของเธอก็จะเปลี่ยนไป กลายเป็นคนมีเจ้าของ

“ไม่ซุ่มซ่ามหรอกครับ แต่เหม่อ” เอกราชแย้ง ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นดินเปื้อนอยู่ตรงข้างแก้มอีกฝ่าย “ขออนุญาตนะครับคุณดา ดินเปื้อนแน่ะ”

เขายื่นมือไปข้างหน้า บรรจงใช้นิ้วโป้งปัดเบาๆ ลงบนแก้มนวล ริมฝีปากคลี่ยิ้มด้วยความเอ็นดู ไม่ทันสังเกตภูริที่ก้าวอาดๆ เข้ามาหา แล้วสาดกาแฟร้อนใส่อกเอกราชเข้าอย่างจัง

“โอ๊ย!” เอกราชร้องลั่น แล้วรีบถอดเสื้อออกจากศีรษะอย่างรีบร้อน

“ตายแล้ว!” ดารินญาอุทานด้วยความตกใจ รีบหันหน้าไปหาภูริทันที “ทำไมทำแบบนี้ละคะ”

“ทำไม! ห่วงมันมากนักเหรอ มันเป็นผัวเธอเหรอหรือไงฮะ!” คราวนี้คนที่กำลังโกรธขว้างแก้วกาแฟลงบนพื้นหญ้า แล้วปราดเข้าไปกระชากคอเอกราชไว้แน่น ปล่อยหมัดลุ่นๆ กระแทกเข้าที่โหนกแก้มไปสองทีซ้อน จนเอกราชที่เลือกไม่ตอบโต้ล้มหงายลงไปบนพื้น ดารินญาเห็นภูริจะตามไปซ้ำ เธอจึงผวาเข้าไปคว้าแขนว่าที่สามีเอาไว้แน่นเพื่อยุติศึกครั้งนี้

“พอได้แล้วค่ะ! ขอร้องเถอะนะคะ”

“นี่มันอะไรกับครับคุณภู” เอกราชถามด้วยความไม่เข้าใจ

“มึงกล้าถามกูแบบนี้ คิดก่อนหรือยังวะไอ้ระยำ” ภูริโกรธจนหน้าแดงก่ำ บอกตัวเองว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับดารินญา เพียงแต่ไม่ชอบให้คนที่ด้อยกว่าอย่างเอกราช มายุ่งวุ่นวายกับสิ่งที่ต้องเป็นของเขาก็เท่านั้น

“ผมทำอะไรผิดครับ”

“ก็ที่มึงกอดผู้หญิงคนนี้ แล้วยังกล้าจับแก้มอีก มึงมีสิทธิ์อะไร!”

“ผมก็แค่...” คนที่โดนต่อยหาคำพูดมาอธิบายไม่ได้ เพราะรู้ว่าตัวเองทำเกินไปจริงๆ

“ถึงกูจะไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบยัยนี่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามึงจะมีสิทธิ์มาแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงของกู”

“ผม...ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้เจตนาจะ...”

“หุบปาก! มึงไม่ต้องแก้ตัวอะไรทั้งนั้น ตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา มึงคิดว่ากูตาบอดหรือไง” ภูริตวาดเสียงดังลั่น แต่ก็ยังไม่ดังมากพอที่จะได้ยินเข้าไปถึงในบ้าน คนอื่นๆ จึงไม่ได้ตามออกมาดูเหตุการณ์ “ส่วนเธอ...อยากนักก็รอคืนเข้าหอ อย่าทำตัวแรดให้มันมาก ล้มจริงหรือแค่อยากอ่อยกันแน่!”

“ดาไม่เคยทำแบบนั้นนะคะ” ดารินญาแก้ไขเสียงแผ่ว ไม่กล้าสบตา

“เข้าไปในบ้านกับฉัน! ในเมื่ออยากมีผัวจนตัวสั่นนักก็ไปจดทะเบียนสมรสกันวันนี้เลย!” เขาฉุดข้อมือเธอ ตั้งท่าจะดึงให้เดินตามเข้าไปในบ้าน เอกราชลุกขึ้นยืน ทำได้แค่ตรึงเท้าอยู่กับที่ ไม่กล้ายื่นมือเข้าไปยุ่ง เพราะรู้ว่านั่นจะยิ่งทำให้ภูริโกรธและเลือกระบายลงกับดารินญา

“เดี๋ยวสิคะ...” เธอซอยเท้าตามไปแทบไม่ทัน

“ถ้าเธอไม่ยอมเออออตามฉันละก็ ฉันจะทำให้ชีวิตการเป็นเมียของเธอทรมานที่สุด!” เมื่อประโยคนี้หลุดออกมาจากปาก ดารินญาก็ไม่กล้าเอ่ยค้านแม้แต่คำเดียว ปล่อยให้เขาจูงมือเดินเข้าไปข้างในบ้าน ถามจากป้าเพิ้งที่เดินสวนมาว่าบุพการีอยู่ที่ไหน เมื่อรู้ว่าพวกท่านอยู่ในห้องทำงานชั้นบน เขาก็พาเธอตามขึ้นไปพบทันที

ชาติชายกำลังเตรียมเอกสาร ส่วนอัมพิกาเปิดแฟ้มช่วยสามีดูงานสำคัญที่ต้องทำ ทั้งคู่เงยหน้าขึ้นมองทันทีที่ประตูเปิดผ่างออก พบลูกชายจูงมือว่าที่ลูกสะใภ้เดินเข้ามาหา สีหน้าของภูริเรียบเฉย กดซ่อนความเกรี้ยวกราดเอาไว้อย่างมิดชิด ต่างจากดารินญาที่แม้จะฝืนยิ้ม แต่ใบหน้านั้นซีดเผือดไร้สีเลือด

“มีอะไรหรือเปล่าภู” บิดาถามพลางมองอย่างสังเกต

“คือเราสองคนเพิ่งตกลงกันเมื่อกี้นี้เองครับ...ว่าอยากจดทะเบียนสมรสกันก่อนกำหนด”

“อ้าว ทำไมถึงต้องรีบร้อนล่ะลูก?” อัมพิกาหันมาถามด้วยความสนใจ

“เราแค่คุยกันว่าตลอดเดือนที่ผ่านมา เรารู้จักกันมากพอแล้ว” ท้ายประโยคเขาหันไปจ้องหน้าเธอเขม็ง แล้วหันกลับมายิ้มให้บิดาอีกครั้ง “นะครับ...พรุ่งนี้เลยนะครับคุณพ่อ ผมจะพาหนูดาของคุณพ่อไปจดทะเบียนที่อำเภอ แล้วก็กลับมาเข้าหอกันเลย” ชายหนุ่มพูดตรงๆ ออกมาแบบนั้น ดารินญาก็ถึงกับหัวใจเต้นรัว ร้อนวูบวาบไปทั่งทั้งใบหน้า

“พูดอะไรแบบนั้นฮึภู!” บิดาเอ็ดเสียงขุ่น แล้วขัดขึ้นมา “รออีกสามสี่วันแล้วกัน พ่อกับแม่ต้องไปพบลูกค้าที่ฮ่องกงด้วยกันพรุ่งนี้”

“รอทำไมครับ ในเมื่อไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรอยู่แล้ว ผมจะไปจดทะเบียนพรุ่งนี้เลย” เขายักไหล่ ทำหน้าตายียวนแล้วหันไปยิ้มร้ายกาจให้กับดารินญา แต่เมื่อเห็นเธอเสมองไปทางอื่น เขาจึงก้าวเข้าไปหา แล้วคว้ามือนุ่มนิ่มนั้นมากุมไว้ บังคับให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ตกลงใช่ไหม ดารินญา” ภูริยกมืออีกข้างขึ้นโอบไหล่ ทำให้คนในอ้อมกอดถึงกับตัวเกร็งด้วยความประหม่า แล้วรีบรับคำอย่างว่าง่าย

“ค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel