บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 : ผู้หญิงร่าน 1

งานสีดำผ่านพ้นไปแล้วโดยไร้เงาของภูริ ดารินญายังจมอยู่กับความโศกเศร้าไม่จางหาย แม้จะมีเวลาทำใจมาก่อนแล้ว แต่ใครเล่าจะอยากสูญเสียคนที่รักไป แล้วต้องระหกระเหินย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของคนอื่นอย่างนี้ ชาติชายกับภรรยาดีต่อเธอมาก จนเธอสัญญากับตัวเองว่าจะตอบแทนและกตัญญูต่อผู้ใหญ่ทั้งสองให้สมกับที่ได้รับความเมตตา คนในบ้านต่างก็ดีและเป็นมิตร เธอย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านอาภาชนะโชติได้สองสัปดาห์แล้ว แต่ก็แปลกที่ยังไม่เคยได้พบกับลูกชายคนเดียวของผู้มีพระคุณเลย

ผู้ชายที่เธอจะต้องแต่งงานกับเขา...

ชาติชายบอกเรื่องนี้เมื่อสัปดาห์ก่อน ว่าการแต่งงานกับภูริจะทำให้ชีวิตของเธอมั่นคง แต่ก็ขอร้องด้วยเช่นกันว่าให้อดทนต่อความดื้อรั้นของชายหนุ่ม เนื่องด้วยเป็นพวกหัวแข็ง ไม่ฟังใคร แล้วก็มีนิสัยเอาแต่ใจตัวเองมาก ได้ยินแบบนั้นดารินญาก็ชักไม่แน่ใจว่าการมีเขาเป็นคู่ชีวิต นั่นเป็นทางเลือกที่ถูกต้องจริงหรือไม่ แต่เมื่อนึกถึงความเป็นห่วงของพ่อที่อุตส่าห์ฝากฝังเธอไว้กับเพื่อนรัก เธอจึงบอกตัวเองว่าคงต้องลองสู้ดูสักตั้ง หากไม่เป็นดั่งใจคิด เธอก็มีสิทธิ์ที่จะถอนตัวได้ทุกเมื่อ

“คุณดาครับ” เสียงของเอกราชดังขึ้นจากทางด้านหลัง ดารินญาที่นั่งเหม่ออยู่ในศาลากลางสวนรีบหันไปมอง แล้วยิ้มหวานให้หนุ่มผู้พี่ ซึ่งอยู่และโตที่นี่ในฐานะลูกชายของลุงปราดกับป้าเพิ้ง สองผัวเมียที่รับใช้ตระกูลอาภาชนะโชติมานานหลายสิบปี “คุณผู้หญิงให้มาตามน่ะครับ บอกว่าใกล้มืดแล้วเดี๋ยวอากาศเย็น เลยอยากให้กลับเข้าไปในบ้านได้แล้ว”

“ดากำลังไปเข้าไปพอดีค่ะพี่เอก”

“โธ่ ผมบอกว่าอย่าเรียกแบบนั้นไงครับ เรียกว่านายเอกดีกว่า” เอกราชครางเบาๆ มองซ้ายแลขวาเพราะกลัวว่าจะมีใครมาได้ยินเข้า ดารินญาย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะว่าที่เจ้าสาวของภูริ เป็นเสมือนคุณหนูคนหนึ่ง ส่วนเขาแค่ลูกคนใช้ จึงคิดว่ามันไม่เหมาะสมนัก หากจะยอมให้เธอเรียกขานด้วยความสนิทสนมแบบนี้

“ทำไมคะ ก็พี่เอกแก่กว่าดาตั้งสิบปี ดาก็เรียกพี่เปิ้ลว่าพี่เหมือนกัน ไม่เห็นพี่เปิ้ลจะว่าอะไรดาเลย” หญิงสาวยิ้ม ปรายตามองอย่างหยอกเย้า

“แต่คนอื่น...”

“จะมองไม่ดี...” เธอแทรกขึ้นอย่างรู้ทัน แล้วส่ายหน้าน้อยๆ “พูดแบบนี้จนดาจำได้ขึ้นใจแล้ว พี่เอกลืมไปแล้วเหรอคะว่าดาเองก็เป็นแค่ผู้หญิงกำพร้า ที่คุณลุงคุณป้ารับอุปการะดูแลเท่านั้น ดาไม่ใช่เจ้านายของพี่ ไม่ใช่คุณหนูของบ้านนี้ ถึงคุณลุงจะหมายมั่นให้ดาเป็นสะใภ้ แต่ดูท่าว่ามันคงไม่ง่าย เพราะอยู่ที่นี่มาเกือบจะยี่สิบวันแล้ว ดายังไม่เคยพบหน้าคุณภูริเลย”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะครับ พี่ เอ๊ย! ผมว่า...”

“ถ้าจะมาแบ่งชนชั้นกันแบบนี้ ดาว่าดาไม่คุยกับพี่เอกดีกว่าค่ะ” ดารินญาชักแง่งอนขึ้นมา ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ เอกราชกับปนาลีซึ่งเป็นพี่น้องกันก็ดูแลเธอดีมาก จนเธอมองเห็นพวกเขาเป็นดั่งพี่น้อง แต่ก็น่าอึดอัดใจที่สถานะของเธอทำให้พวกเขาต้องคอยทำท่าทางเจียมเนื้อเจียมตัว มันเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย คงดีกว่านี้ถ้าเธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะคนรับใช้เช่นเดียวกันบ้าง

“คุณดา!” เอกราชมองตามคนตัวเล็กที่กำลังจะเดินออกไปจากศาลาอย่างรีบร้อน จึงสะดุดขั้นบันไดเตี้ยๆ และทำท่าจะล้มคะมำไปข้างหน้า เขาเรียกเธอด้วยความตกใจแล้วรีบปรี่เข้าไปคว้าเอวไว้อย่างรวดเร็ว เธออุทานเบาๆ เมื่อจู่ๆ ก็ตกอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของอีกฝ่ายแบบไม่ได้ตั้งตัว

“ระวังหน่อยสิครับ” เขาบอกเสียงนุ่ม

“ขอบคุณค่ะ” เธอพึมพำ แม้ไม่ได้คิดเกินเลยกับเขา แต่อดที่จะแก้มแดงเรื่อขึ้นมาไม่ได้

เอกราชยิ้มน้อยๆ กวาดสายตามองดวงหน้าสวยหวานนั่นอย่างลืมตัว โชคไม่ดีนักที่วันนี้ภูริตัดสินใจกลับบ้านมา เพราะเงินทองที่มีอยู่ถูกใช้จ่ายไปจนหมดแล้ว รถก็โดนยึด ทรัพย์สินอื่นๆ ก็เช่นกัน แม้แต่บัตรเครดิตทุกใบก็ใช้จนวงเงินเต็มหมดแล้ว ตอนนี้นอกจากเสื้อผ้าไม่กี่ชุดที่ทิ้งไว้ในบ้านของคู่ขา เขาก็เหลือแต่ตัวเท่านั้น

ชายหนุ่มชะงักฝีเท้าเมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างสองร่างที่อยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน ดวงตาคมปลาบมองอย่างพิจารณา เห็นทันทีว่าผู้ชายหน้าตาดีรูปร่างกำยำคนนั้นคือเอกราช ส่วนผู้หญิงผิวขาวราวกับงาช้างและมีรูปร่างเพรียวบาง ซึ่งสวมชุดเดรสสีครีมอ่อนนั้น กำลังยืนหันหลังให้กับเขา จึงมองไม่ออกว่าเธอเป็นใครกันแน่

‘สงสัยจะเป็นแฟนของไอ้เอก’

ภูริคิดอย่างไม่สนใจนัก เขาไม่ค่อยชอบหน้าเอกราชเท่าไร เหตุผลก็เพราะบิดาชอบชื่นชมมันเสียจนออกหน้าออกตา พูดกรอกหูเขาอยู่เรื่อยว่าแม้มันจะเป็นเพียงลูกคนใช้ แต่ก็ร่ำเรียนจนจบปริญญาและทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์อยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้นตามอายุงาน การเห็นคนที่ด้อยโอกาสกว่าตัวเองได้ดี ทำให้คนพาลอย่างภูริเกิดความเกลียดชังขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล

ชายหนุ่มก้าวอาดๆ เข้าไปในบ้าน การกลับมาครั้งนี้เพราะคิดดีแล้วว่าจะตอบตกลงยอมแต่งงาน หวังจะแลกกับความสุขสบายของตัวเอง ดีเสียอีก...มีผู้หญิงคนหนึ่งไว้ระบายความใคร่ตามต้องการ ไม่ต้องยกย่องเชิดชู ไม่แนะนำให้ใครรู้จัก แค่อยู่ไปวันๆ ในฐานะเมียในหน้าที่ ในเมื่อหวังสบายทางลัดด้วยการยอมถูกคลุมถุงชน เขาก็จะจัดให้ลืมไม่ลงเลยทีเดียว

ทนไม่ไหวเดี๋ยวก็คืนความโสดให้เขาเอง!

ชาติชายกับอัมพิกามองสบตากัน เมื่อเห็นภูริก้าวเข้ามาในห้องโถง แม้จะถูกตัดงบทางการเงิน แต่ต้องยอมรับว่าลูกชายยังดูแลตัวเองดีมาก เสื้อผ้าและผมเผ้ายังดูดีเสมอ ไม่ต้องเดาเลยว่าคงไปขลุกอยู่กับผู้หญิงสักคนในฮาเร็ม ทว่าเมื่อเงินหมดก็เป็นธรรมดาที่จะต้องบากหน้ากลับบ้านมา

“ภู...” อัมพิกายิ้มเมื่อเห็นบุตรชาย

“กลับมาได้แล้วสินะ หลังจากหายหัวไปเป็นครึ่งเดือน” ชาติชายละสายตาจากข่าวช่วงค่ำ หันมองลูกชายด้วยสายตาเย็นชา “มีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่า ถ้าไม่มี...ฉันจะได้ขึ้นข้างบน” ร่างท้วมสูงใหญ่ขยับจะลุกจากโซฟา แต่ผู้เป็นลูกชายห้ามไว้เสียก่อน

“เดี๋ยวครับ ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel