7
"เธอไม่ว่างแล้วรึ" ถามเสียงต่ำ ราวกับไม่ได้ถาม...แต่กำลังตวาดแบบขรึมๆ มากกว่า
"ที่ผ่านมา คุณธัชไม่เคยกินอาหารซ้ำจานนี่คะ" รศสุดาทำเหมือนจะร้องไห้ได้แนบเนียนนัก หากแต่แววตาคมกรุ่นเลือกที่จะจดจ้องไปยังร่างบางพลิ้วที่กำลังส่งยิ้มหวานจ้อยไปให้ผู้ชายตรงหัวมุมต่างหาก
"ร่าน" สบถขึ้นมาเบาๆ หากแต่รศสุดาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยที่คืบคลานเข้ามา
"เอ่อ เอาอย่างนี้มั้ยคะ เดี๋ยวเจ๊เลือกอาหารจานใกล้เคียงกับจานเดิมให้ รับรองค่ะว่าคนนี้สดใหม่แถมเร้าใจมากกว่าแน่ๆ"
"มันให้เท่าไหร่" เขาหมายถึงผู้ชายที่กำลังจ้องอาหารจานโปรดของเขาตาเป็นมันอยู่ในตอนนี้
"มันไม่เกี่ยวกับราคาหรอกค่ะ คุณธัชก็รู้...ว่าร้านเราให้ความสำคัญกับลำดับการจองแค่ไหน"
"ถ้าเจ๊เคลียให้ไม่ได้ ฉันก็จะเคลียเอง" รศสุดาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ใส่อย่างเสแสร้ง ยกมือขึ้นกราบไหว้เขาสั่นงันงก บีบน้ำตาใหญ่ หากแต่เขาก็ไม่สนใจเลือกที่จะลุกขึ้นยืนเพราะจบเพลงพอดี
"เอาอย่างนี้นะคะ ใจเย็นๆ ก่อน เดี๋ยวเจ๊คุยกับลูกค้าท่านนั้นกับหยินให้ค่ะ" รีบว่าตัดบทอย่างรีบร้อน จนเขาต้องพยักหน้าให้
หยินหันมาทางนี้และสบตากับเขาเข้าพอดี ความใสซื่อในแววตาเธอส่งยิ้มทักทายเขาเพียงนิด ก่อนมองผ่าน
มันยิ่งทำให้ไฟที่คุโชนขึ้นในดวงตาของเขา แทบจะแผดเผาเธอกลับ...
หยินถูกเรียกให้ไปยังหลังร้าน ตามที่รศสุดาสั่ง... ไม่นานนักก็มีคนมาเชิญเขาไปยังห้องสวีทที่ได้เตรียมเอาไว้ แต่พอเขาเข้าไป กลับไม่เป็นอย่างที่คิด
ผู้หญิงที่รออยู่ไม่ใช่หยิน!
"เล่นตลกอะไรกัน" เขาคำรามลั่นจนผู้หญิงคนนั้น ต้องรีบวิ่งหนีออกจากห้อง
"เอ่อ คือว่า...เด็กหยินเล่นงานเจ๊เข้าแล้ว เจ๊คุยกับเขาเข้าใจแล้วนะคะ" มีเพียงประโยคเดียวที่รศสุดามีโอกาสพูด เพราะหลังจากนั้น กิตติธัชและลูกน้องก็เดินไล่ยิงกลอนประตูทุกบานในโซนห้องสวีท เปิดเข้าไปหาคนที่กล้าถือดีกับเขา
แต่แล้วเขาก็พบกับความว่างเปล่า...
ไม่มีเธออยู่แม้สักห้อง!
"นี่คือสรุปแผนสร้างการรับรู้แบรนด์ของ DLMMT ที่เพิ่งส่งมาให้เมื่อเช้าค่ะ เขาทำงานเร็วกันดีนะคะ" เลขาสาวใหญ่ผู้มีแววตาเรียบเฉยไม่ต่างจากเขา วางเอกสารลงตรงหน้าแบบเรียบๆ ไม่ฉายความรู้สึกใดผ่านแววตาตามแบบฉบับ
"จะมีประชุมกันอีกทีเมื่อไหร่" ยังไม่ได้เปิดแฟ้มเข้าไปดูรายละเอียด หากแต่ใบหน้าเรียวเล็กที่วนเวียนอยู่ในสมองอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่เมื่อคืน กลับแจ่มชัดขึ้นเมื่อเขานึกอะไรออก...
ทีแรกก็หมายมาดว่าจะไม่เอาเรื่องงานมาปะปนกับเรื่องส่วนตัว แต่สิ่งที่เธอทำกับเขานั้น..เขาจะไม่มีวันปล่อยให้เธอทำงานอย่างสงบสุขแน่
เขาใจร้ายอยู่แล้ว นั่นคือสิ่งที่เธอต้องรู้!
"คุณสุพจน์บอกว่าอีกสองสามวันค่ะ"
"ฉันจะเข้าด้วย" ดวงตาเรียบเฉยสะดุดเพียงนิด แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามถึงเหตุผล
"จากตารางประชุม วันนั้นท่านอาจจะต้องไปคุยงานที่สิงคโปร์นะคะ" ว่าเชิงเสนอความเห็นมากกว่าโต้แย้ง
"ยกเลิกให้หมด"
ปกติคนอย่างกิตติธัชไม่ใช่คนที่จะเห็นอย่างอื่นดีกว่า 'งาน'
เขาดีเดือดเรื่องงานแค่ไหน ใครๆ ก็ทราบ หากแต่เหตุการณ์เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา มันทำให้เขารู้สึกหัวเสียอย่างถึงที่สุด ทั้งๆ ที่เขาแทบจะให้คนพลิกแผ่นดินหาเธอ แต่ก็หาไม่พบ เธอกล้ามากที่กล้ามาล้อเล่นกับคนอย่างเขา!
ธัญวลัยเลขาสาวใหญ่ที่ทำงานให้เขามามากกว่าสิบปีไม่เคยรู้เรื่องนี้ เธอมีหน้าที่ดูแลเรื่องงานของเขาให้ดี ส่วนเรื่องส่วนตัวเขาจะให้ราชันมือขวาเป็นคนดูแลมากกว่า
เพราะ'เรื่องส่วนตัว' ของเขาเกี่ยวข้องกับเรื่องผู้หญิง และเรื่องสีดำอื่นๆ ที่เขาไม่เคยให้ใครได้รับรู้มากกว่า
"จะเอายังไงดีครับท่าน" หลังจากที่ธัญวลัยออกจากห้องของเขาไป ราชันก็เดินเข้ามาต่อทันที
"ได้เรื่องว่ายังไง"
"เมื่อคืนคุณญานินไม่ได้กลับคอนโดครับ" คำตอบที่ได้รับยิ่งเหมือนเชื้อเพลิงที่สุมให้ความรุ่มร้อนในใจเขา ลุกโชนมากยิ่งขึ้น
แค่จินตนาการว่าเธอตกอยู่ในมือของชายอื่น ทั้งๆ ที่เขาไม่มีความคิดเรื่องจะครอบครองใครแม้เพียงเล่นๆ มาก่อน ความรุ่มร้อนก็เหมือนจะลุกโชนแผดเผาจนเขาไม่อาจจะอยู่สุขได้
"แล้วไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร"
"ลูกชายนักการเมืองครับ เที่ยวเล่นไปวันๆ ไม่ได้ทำงานทำการอะไรครับ" สันกรามที่มีเคราสั้นเตียนคราครึ้ม ขบแน่นจนเห็นเค้าโครงเรียวยาวเด่นชัด กิตติธัชไม่ใช่คนผิวขาวผ่องหากแต่ก็ไม่ได้เข้มคม ผิวสีแทนของเขาส่งเสริมให้เจ้าตัวดูเป็นคนแข็งแกร่งสมรูปร่าง
"ไปสั่งสอนมันให้หลาบจำ"
"แต่ว่า..."
"ฉันไม่ชอบคำว่าแต่" ถือเป็นอันสิ้นสุดของคำตอบ ปกติกิตติธัชไม่ใช่คนไร้เหตุผลหรือใช้กำลังไปเรื่อย นี่เป็นครั้งแรกเลยกระมังที่เขาแสดงฤทธิ์ด้านหยาบของตัวเองออกมาจนหมดสิ้น อาจจะเพราะไม่เคยถูกใครเล่นกับความรู้สึกแบบนี้มาก่อน เขาก็เลยพาลได้ทุกสิ่งและพร้อมจะแผดเผาไม้พวกมันให้เป็นจุณ
"ไง สะใจป่ะ" ใบหน้าและแววตาของคนถาม เป็นไปในทางค่อนแคะแจ่มชัด จนคนที่นอนแช่อยู่ในอ่างกุชชี่ถึงกับต้องวักน้ำเล่นแก้เก้อ
"ขอบใจ ที่ให้ยืมแฟนคืนนึงนะ"
"นี่แหนะ!" กิติยาผู้สวมเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวอยู่ วักน้ำใส่หน้าเพื่อนแทนเชิงกรุ่นโกรธ
"เออ จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว" ว่าเสียงอ่อยเชิงอ้อน
"ตอนนี้ฉันยังติดต่อป้ารศไม่ได้เลย สงสัยจะเคลียกับทาง club ยังไม่ได้ ถึงคนนั้นของแกเนี่ยจะเปย์ค่าเสียหายทุกอย่างให้ทั้งหมดก็ตามเถอะ ร้านต้องสั่งปิดไปอีกหลายวันเลย" ญานินรู้ว่าไม่ควรทำแบบนี้ แต่เธอไม่มีทางเลือก
ที่ผ่านมาเหมือนเธอกำลังเล่นไล่จับ กี่ครั้งต่อกี่หนที่เขาไม่ยอมมาพบหน้า ตามนัดหมายของญาติผู้ใหญ่ เขาอ้างงานอ้างธุระทุกช่องทางที่จะปิดโอกาสให้คนสองคนได้มาพบกัน
ครั้งนี้ จะเป็นเธอเสียเอง ที่เขาจะต้องมาไล่จับเธอบ้าง
เขาจะได้เข้าใจ...
ว่าคนวิ่งตาม มันเหนื่อยแค่ไหน!
"แล้วพี่แจ๊คเขาโอเคมั้ย โดนไปรุกรานอะไรหรือเปล่า" ว่าอย่างแอบเป็นกังวล ที่ลากให้แฟนเพื่อนรักมาเสี่ยงด้วย แม้เจ้าตัวจะเต็มใจก็ตาม
"ก็โอเคแหละ รายนั้นรักสนุกจะตาย ไหนๆ เราสองคนก็จะไปเมกากันพรุ่งนี้อยู่แล้ว เขาคงมาทำอะไรมากไม่ได้ ห่วงแต่แกเถอะ...ดูแลตัวเองด้วยนะเว้ย" กิติยาผู้ไม่สบายใจที่สุดมาตั้งแต่แรก ว่าอย่างเป็นกังวลเสมอ
"เออ ฉันไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะเว้ย ฉันดูแลตัวเองได้"
"ช่วงนี้งดไปคลับก่อนก็ดีนะเว้ย ป้ารศเองก็เฟี้ยวเงาะแทนที่จะห้ามปรามแก ดันเล่นด้วยซะงั้น" พอนึกถึงผู้สนับสนุนหลัก ญานินก็ต้องหัวเราะลั่นออกมา
'ผู้ชายเนี่ย ถ้าไม่เจอแบบนี้ไม่รู้สึก...ไปให้สุด มีอะไรบอกป้า ป้าจะช่วยเต็มที่เลยลูก' นี่คือเวลาของเธอแล้ว เวลาของผู้หญิงที่ไม่เคยมีตัวตนในชีวิตของใครมาก่อน โชคกำลังเข้าข้างเธอแล้ว
เพราะฉะนั้น เธอจะไม่มีวันหยุดเรื่องนี้...
ไม่มีวัน...
ไม่มีวัน!!