8
วิดีโอที่ถูกบันทึกจากคนของกิติธัช ถูกส่งมาให้เขาเมื่อได้รับการตัดต่ออย่างเรียบร้อย
ท่วงท่าการร่ายรำของแม่สาวจอมยั่วเย้าตราตรึงใจจนยากเกินกว่าจะแกะออก ทรวงอกนูนเด่นดันเนื้อผ้าลื่นของชุดร่ายรำนั้น จนเขายังรู้สึกใจสั่นประหลาด
ความโหยหิวลึกๆ ปรากฏเด่นหราขึ้นที่กึ่งกลางกาย
เขา 'กินเก่ง' แต่ไม่เคยกินอะไรซ้ำสอง เหมือนอย่างที่รศสุดาว่า
หยินทำให้เขาโหยหิวได้อย่างประหลาด เธอทำให้เขาติดใจรสชาติที่ไม่เหมือนใครของเธอนั่น สีสันของเธอแลดูจัดจ้าน หากแต่กลับ 'ไม่เผ็ด' อย่างที่คิด
แววตาหวานฉ่ำนั่น...ฉ่ำเหมือนน้ำหวานที่เธอผลิตมันออกมาเองให้เขาได้ช่วงชิม
รสชาติของเธอยังคงติดอยู่ที่ปลายลิ้น
กลิ่นของเธอยังหวนอยู่ที่ปลายจมูก
เม็ดเกสรแดงปลั่งที่สั่นระริกสู้กับปลายลิ้นของเขาแข็งชันแต่ทว่าเรียบลื่น คราที่สะโพกกลมกลึงโยกไล้ไปตามความรัญจวนที่เขาจุดให้ มันทำให้เขารู้สึกดีประหลาด
พูกลีบงามสองกลีบสีชมพูสวย โอบล้อมไปด้วยสีขาวนวลผ่องเกลี้ยงเกลา มีเคราประปรายบางเบาแซมเพียงนิด
ต้นขาอุ่นร้อนที่มีบางสิ่งพองโตเสียดสีมันอยู่เริ่มที่จะทานทัดและรับน้ำหนักมันไม่ไหว หน้าท้องเป็นลอนคลื่นกำลังถูกเบียดเสียดจากความแข็งแกร่งนั้น คราที่ห้วงอารมณ์ของเขาเริ่มพุ่งสูง
สองมือสากระคายจับเอวบางที่แอ่นอยู่ให้มั่นขึ้น
ก่อนดึงเธอเข้าหา...
ภาพจำบอกเขาว่า สะโพกกลมกลึงนั้นขาวเนียนเพียงใด เธอกระตุกเมื่อพอจะเดาได้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไปในภายหน้า
แม่กวางน้อยเหลียวหลังมามองเขาด้วยแววตาหวานฉ่ำ จนริมฝีปากหยักหนาอดใจไม่ไหวที่จะมุ่งตรงไปดูดดื่มริมฝีปากกัดเม้มอย่างเสียวซ่านของเธออยู่
'อื้อ' เธอครางกระเส่าในลำคอเมื่อความปูดโปนเด่นหราได้ครูดผิวเนื้ออ่อนของตุ่มติ่งอ่อนไหวของเธอเข้า
'เธอน่ากินมาก' ย้ำเสียงพร่าพร้อมเริ่มที่จะเคลื่อนไหวสะโพกสอบขึ้นลงช้าๆ จนเรียวขาที่โก้งโค้งอยู่สั่นสะท้านมากขึ้น
'...' ความรู้สึกที่วิ่งปราดไปทั่วร่าง ทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก ได้เพียงตอบสนองเรียวลิ้นของเขาอย่างสุขสมไม่แพ้
'เธอเผ็ดจริงด้วย' เสียงทุ้มว่าเชิงสั่น เมื่อสะโพกงามงอนเริ่มที่จะสวนส่ายเข้าหา ตุ่มติ่งที่รับบทเป็นผู้ถูกแตะต้อง กำลังถูไถบริเวณดอกเห็ดหยักใหญ่เรียบรื่นของเขาอยู่
กิตติธัชครางกระหึ่มในลำคอ กัดฟันหยัดสะโพกส่ายร่อนให้หยุดการกระทำเอาไว้
'น้ำสักแก้วมั้ยคะ' กวางน้อยส่งสายตาเย้ายวนพร้อมเลียริมฝีปากแห้งผากของตัวเองไปมา
ร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่อกิริยานั้นทำให้เขาพุ่งเข้าใส่เธอรวดเร็วเกินไป หากแต่ก็เข้าไปได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น ความคับแคบของช่องทางชุ่มฉ่ำ โอบกอดแน่นจนเขาหายใจแทบไม่ออก
'อืม...' เขาส่งเสียงพร้อมแนบกล้ามเนื้อแกร่งของตัวเองไปตามแผ่นหลัง บอบบางที่ร่นฟุบลงไปจนเกือบจะราบ
ความเจ็บเจียนใจจะขาดทำให้ญานินทุรนทุรายหนัก
'ไม่เคยเหรอ' กัดฟันถามด้วยความอยากจะเชื่อ หากแต่ก็สัมผัสไม่ได้ว่าเยื่อบางๆ จะมากางขวางกั้นแต่อย่างใด
มันรัดแน่นแบบที่เขาไม่เคยได้สัมผัสจากอาหารจานไหนมาก่อน!
'เปล่าค่ะ' ว่าพร้อมโยกสะโพกเข้าหา บดเบียดจนเขาต้องกัดฟันเดินหน้าต่อแต่ยังคงกระทำการช้าๆ เขาไม่มีรสนิยมชอบเห็นใครเจ็บปวด ไม่ว่าผู้หญิงจะเป็นเพียงอาหารที่่เขาซื้อมาก็ตาม
ความรัดแน่นของเธอในวันนั้นตราตรึงให้เขาจำต้องกอบกุมความอวบใหญ่ ที่ตื่นตัวเสมอในคราที่คิดถึงเรื่องคืนนั้นได้ทุกทีสิน่า
เขาไม่เคยสัมผัสของตัวเองมานานมากแล้ว ไม่เคยใช้มือแตะต้องมันเพื่อให้ถึงจุดหมาย
"อา..." แต่ความต้องการที่อัดแน่นอยู่นี่ต้องการการระบายออก ใบหน้านวลผ่องยิ้มหวานแล่นเข้ามาในโสตประสาท มือหยาบของเขาเคลื่อนไหวขึ้นลงบริเวณความตื่นตัวนั่นช้าๆ ก่อนเริ่มที่จะรัวจังหวะเร่งขึ้น
ลมหายใจหอบถี่กระชั้น ก่อนจะส่งตัวเองพวยพุ่งจนเปียกชื้นเต็มมือ
"อื้อ!" นิ้วเรียวยาวเร่งจังหวะเข้าออกมากขึ้น จนน้ำหวานลื่นฉ่ำไปทั่วมือ ไม่กี่เวลาสะโพกกลมก็แอ่นเข้าหาและกระตุกขึ้นลงรัวเร็ว ก่อนสงบนิ่ง...
"บ้าจริง ต้องช่วยตัวเองทุกคืนเลยเหรอเนี่ย" ญานินเปิดไฟหัวเตียงอีกครั้ง ก่อนที่จะคว้าผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำดับความกระหายร้อนอีกหน
นับตั้งแต่ไปเจอหน้าเขาที่ club ในวันนั้น เธอก็เฝ้าฝันหวนคิดถึงความปรารถนาในแววตาของเขาอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้ เลยเถิดไปถึงก่อให้เกิดอารมณ์ปรารถนาในกายตน...จนต้องนำมาขจัดออกจนปวดมือไปหมด
ใช่...เธอเริ่มที่จะช่วยตัวเองได้แบบไปไม่สุด ไปไม่ถึง หรือถึงยากขึ้น...
"หยุดเลย!"
"ไม่คิดจะกลับบ้านกลับช่องบ้างเลยหรือยังไงฮะ เจ้าธัช" เสียงปลายสายแหลมปรี๊ดของมารดา ทำให้เขาต้องเลื่อนโทรศัพท์ออกห่างจากใบหูเพียงนิด
"งานผมยุ่ง" ว่าเชิงเรียบเฉยชาใส่มารดาตามแบบฉบับ
เขารู้ว่าผู้ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นมารดา คงจะมีเรื่องอะไรที่จะ 'บังคับ' เขาเป็นแน่ ถึงได้ลงทุนโทรมาถึงขนาดนี้
ห้องทำงานใหญ่ของเขาค่อนข้างโปร่งโล่ง บ่งบอกความเป็นตัวเขาแบบเฉพาะตัว ที่รักอิสระเกินกว่าที่จะอยู่ในกรงขังเล็กๆ ของมารดาได้
"คุณย่าท่านถามถึง เมื่อไหร่จะทำให้ท่านสบายใจสักทีฮะ" เสียงบ่นของมารดาสำหรับเขาเปรียบเสมือนยาขม ที่รู้ว่าบางทีก็อาจจะมีประโยชน์ หากแต่เขาไม่ชอบและไม่คิดที่จะเต็มใจกินเลยสักนิด
นาฬิกาสีเงินเรือนงามที่ประดับอยู่บนข้อมือใหญ่ บอกเวลาอันสมควรแล้วแก่การเข้าห้องประชุม จนเขาต้องหาเรื่องอ้าง
"เดี๋ยวผมโทรกลับครับแม่" ไม่มีแม้แต่ความคิดที่อยากจะให้มารดาเข้าใจว่าเขามีธุระสำคัญแค่ไหน
ระหว่างเขากับมารดามีเพียงความสัมพันธ์ฉันแม่ลูกทั่วไป เขามีนิสัยเหมือน 'พ่อ'
กฤติพล เจริญบริโภคทรัพย์ ผู้ชายที่รักอิสระและเลือกแต่งงานกับมารดาของเขาเพียงเพราะคุณย่าท่านต้องการ เลือดพ่อในตัวเขาไหลวนรุนแรงจนแทบจะไม่มีสีเลือดของมารดาเจือปน
สุพรรณษา โตมรวิถี เป็นบุตรสาวของนักการเมืองใหญ่ในสมัยนั้น ที่เอื้ออำนวยผลประโยชน์ให้กับเจริญบริโภคทรัพย์กรุป ก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดหุ้น
สุพรรณษาปลื้มในความเก่งของกฤติพลมาตั้งแต่สมัยเรียน เขาได้ยินเรื่องนี้มาบ้างจากเหล่าญาติๆ ที่พากันพูดถึงเรื่องนี้ผ่านหูเขามาตั้งแต่เด็กๆ จนเขารู้สึกสงสารบิดา ที่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ตัวเองไม่ได้รัก
เขารับรู้ถึงความ 'ไม่รัก' นั้นได้เด่นชัดมาตลอด
และเลือกแล้วที่จะเข้าข้างกฤติพล นั่นคือเหตุผลที่เขาตั้งใจช่วยบิดาทำงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ สั่งสมประสบการณ์จนขึ้นมาบริหารเต็มตัวอย่างทุกวันนี้ หากนับเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบสิบปี
จากนั้นกฤติพลก็ได้ไปใช้ชีวิตอิสระที่นิวยอร์ก ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ...
แน่นอนว่ากิตติธัชคือเบื้องหลังการจัดการนั้น และเมื่อเขาดูแลบริษัทได้ดีกว่ากฤติพล คุณปู่อย่างกองทัพและคุณย่าอย่างจินตรา เลยคัดค้านอะไรไม่สำเร็จผล
"นี่คือหัวข้อการประชุมกับ DLMMT บ่ายนี้ค่ะ" แฟ้มเรียบสีดำสนิทถูกวางลงตรงหน้า หากแต่สายตาครุ่นคิดถึงเรื่องอื่น
"งานที่สิงคโปร์เป็นยังไงบ้าง" แม้ว่าวันนี้เขาจะไม่ได้ไปตรวจงานด้วยตัวเอง แต่ก็ยังสนใจอยู่
"คุณเดเนียลรายงานว่าไปได้สวยค่ะ เดี๋ยวจะส่งสรุปรายงานผลให้ตามมาอีกทีหลังงานแล้วเสร็จค่ะ" งานที่ว่านั้นคือการเปิดตัวสินค้ากลางห้างใหญ่ของที่นั่น ซึ่งคืออาหารไทยสำเร็จรูปยุคใหม่ที่เขาทุ่มเทวิจัยมากว่าเวลาสองปีเต็ม
กิตติธัชพยักหน้าเชิงเข้าใจ ก่อนค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วชี้เปิดแฟ้มอ่านหัวข้อการประชุมในบ่ายนี้อย่างตั้งใจ
ภาพหญิงสาวร่างบางที่วนเวียนอยู่ในหัว วนกลับมาชัดอีกหน
สร้างการรับรู้แบรนด์ : เปิดเผยที่มาของแบรนด์ผ่านการเล่าเรื่อง เขาพยักหน้าช้าๆ ให้กับการวางแผนนั้น ก่อนค่อยๆ คลี่อ่านรายละเอียดอย่างตั้งใจทีละหน้า
น้ำเสียงหวานๆ ที่เคยได้ยินในเวลาปกติตอนที่งานปาร์ตี้สัมพันธ์ในครั้งนั้น หวนเข้ามาในมโนนึก
แม้ครานั้นเธอจะดูไม่มีสมาธิสักเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้เขาจะจงใจให้เธอไปไม่เป็นด้วยตัวของเขาเอง