
บทย่อ
คำโปรย ‘คุณมีด้านมืดของคุณ ฉันก็มีด้านมืดของฉัน ไม่ก้าวก่ายกัน แฟร์ๆ เนอะ’ สปอยล์พระเอก : ดาร์ก ดุ แต่แอบอบอุ่นอยู่นะ สปอยล์นางเอก : กรอบนอกนุ่มใน สร้างความแกร่งอำพลางได้แนบเนียน ดื้อรั้น พยศสุดๆ ทั้งที่ภายในใจ แทบจะละลายในอ้อมกอดเขา แฮร่! อารัมภบท "คบหานี่ ต้องยังไงบ้างอ่ะครับ ห้ามชิงสุกก่อนห่าม ห้ามจับมือถือแขน อะไรเทือกๆ นั้นด้วยหรือเปล่า" น้ำเสียงเชิงเหยียดชัดจนลำคอขาวเกร็งขึ้นมากผิดปกติ จินตราสังเกตเห็นชัดจนรู้สึกสนุกขึ้นมา "พูดจาอะไร ไม่ให้เกียรติน้องเลยนะตาธัช!" จิราพรว่าพร้อมเงื้อมือเชิงอยากจะตีหลานตัวเองนัก "ไม่ต้องหรอกค่ะ ชีวิตคู่ที่จริงแท้เนี่ย มันควรจะต้องเอาทุกองค์ประกอบของคู่ชีวิตมาตัดสิน อยู่ก่อนแต่งก็ได้นะคะ ไม่ชอบใจกันตรงไหน จะได้ปรับให้เข้ากันทุกๆ องค์ประกอบ หรือถ้าปรับไม่ได้จริงๆ ก็จะได้ไม่เสียเวลากันทั้งคู่ อีกอย่างจะได้ไม่มีคนมาหาเรื่อง ออกไปกินนอกบ้านทีหลัง..." การตอบกลับแบบนิ่มๆ เจือรอยยิ้มของญานินทำเอาผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลายแทบจะไม่เชื่อประสาทรับสัมผัสของหูตัวเอง โดยเฉพาะยลโฉมผู้เลี้ยงหลานมากับมือ เอามือทาบอกแบบแทบจะเป็นลม "พูดอะไรออกมาฮะหนูนิล!" "นิลพูดความจริงค่ะ อันที่จริงปัญหานี้ทุกครอบครัวแทบจะมีเหมือนกันหมด ไม่จริงหรือคะคุณป้า คุณน้า คุณอาทั้งหลาย" เธอหันไปมองหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ที่ชะงักเชิงครุ่นคิดไปตามๆ กัน
1
‘ชื่ออะไร’ เสียงทุ้มอันแสนจะนุ่มหู เปล่งออกมาจากริมฝีปากเป็นเส้นตรงที่น่าจะดุดันอยู่ไม่น้อย ในคราที่จะได้ลากผ่านผิวเนื้ออ่อนสักแห่งบนร่างกายเธอ
แววตาดุกร้าวของเขา ช่างตรงกันข้ามนักกับนวลน้ำเสียงในตอนนี้
‘หยิน...ค่ะ’ พยายามอย่างที่สุด ในการส่งสายตาเย้ายวนและไม่ไขว้เขว หากแต่ซุ่มเสียงยังแอบสั่นจนแทบอยากจะกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้
‘ได้ข่าวว่าเธอเผ็ดมาก...’ ทอดเสียงต่ำ พร้อมหลุบตามองริมฝีปากอวบอิ่มสีนู้ดที่เหมือนจะเป็นสีประจำตัวเธอไปเสียแล้ว
ดวงตารีกว้างเบิกมอง กะพริบไล่ความกังวลที่คั่งอยู่ในนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม จืดจางไปกับหยาดน้ำใสหล่อเลี้ยงตา
เธอจะให้เขารู้ความรู้สึกจริงแท้ของเธอไม่ได้...
เธอจะให้เขารู้ไม่ได้! ว่าเธอมาที่นี่เพื่ออะไร
‘แต่เด็กก็กินได้นะคะ...’ มุมปากหยักหลุบลึกเล็กน้อย ความขันฉายในแววตา
เธอคิดว่าตัวเองกำลังอ่านเรซูเม่ให้เขาฟังอยู่รึยังไง
‘เธอดูไม่เหมือนคนช่ำชองสักเท่าไหร่’ มือใหญ่สีเข้มเริ่มที่จะไม่อยู่ในที่ของมัน นิ้วเรียวยาวอวบใหญ่สมตัว กำลังลากไล้ไปตามโครงหน้าเรียวเล็กของเธออย่างเชื่องช้า
หยิน ใช่...ในตอนนี้เธอคือหยิน ผู้หญิงเบอร์หนึ่งที่กำลังจะมอบความสุขขั้นสุดให้กับ 'ลูกค้า' อย่างเขา
เธอเกร็งลำคอขึ้นเล็กน้อย พร้อมหลับตาพริ้มรับกลืนน้ำลายลงคออย่างยั่วเย้า ตามที่ได้ ‘ฝึก’ มาอย่างดี
ใช่...เธอฝึกมันมาอย่างดี เพื่อเขาโดยเฉพาะเลยล่ะ
‘ผิดหวังเหรอคะ?’ ถามขณะพยายามที่จะงับเรียวนิ้วไม่อยู่สุขของเขา ที่ไล้วนมาเหนือริมฝีปากในตอนนี้
‘ไม่เชิง มันอาจจะไม่เลวก็ได้’ เหมือนเธอจะได้ยินเสียงขันในลำคอเขา ลูกกระเดือกใหญ่โตนั่นกำลังเคลื่อนไหวขึ้นลง จนเธอหยุดมองไม่ได้
แต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ที่เธอชื่นชอบลูกกระเดือกของพวกผู้ชาย ใครมี ‘เจ้านี่’ ใหญ่ จะเรียกร้องความสนใจให้เธอมองแบบไม่วางตาได้เสมอ
ใช่มันคือ ‘เจ้านี่’ ที่เธอไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำว่าขนาดของมันสัมพันธ์กับ ‘เจ้านั่น’ แค่ไหน...
ให้ตายสิ เธอกำลังเลอะเทอะใหญ่แล้ว!
‘มีอะไรผิดปกติรึ’ คางเล็กถูกเชยขึ้นอีกครั้ง เมื่อเธอหลุบตาลงต่ำเกินไป อย่างรู้สึกละอายอะไรบางอย่าง
‘ปะ...เปล่า’ เธอโกหกเขาอย่างจงใจ เธออยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายในตอนนี้
ตัวเองที่จงใจประดิษฐ์ขึ้น ไม่โผล่มาในวินาทีนี้เลยสักนิด เธอกำลังเป็นผู้หญิงแบบไหนก็ไม่รู้ เธอไม่ได้กลัวเขาแบบที่ควรจะเป็นในเวลาปกติ
เธอไม่ได้ดูเฉี่ยว กร้านโลก ช่ำชองเหมือนที่ตัวเองตั้งใจเลยสักหน่อย
เธอกำลังเป็นผู้หญิงแบบไหนก็ไม่รู้ ที่น่าจะกำลังปรารถนาในตัวเขาและเว้าวอนอย่างเต็มที่...แถมยังแสดงความประหม่าที่ไม่อันควรออกมาด้วยซะอีก
‘ฉันไม่ชอบคนโกหก’ เสียงของเขาเตือนให้เธอกลับเข้ามาสู่ภวังค์
ภวังค์ตรงหน้า...ที่เขากำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้
บททาสสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าผู้เป็นนาย ดูเหมือนว่าเขาจะถูกใจเป็นพิเศษ
‘คนโกหกต้องถูกทำโทษยังไงดี’ เสียงทุ้มต่ำของเขา มีความพึงพอใจพร่างพราย จนเธอรู้สึกเหมือนจะขาดใจตายลงให้ได้
ขนอ่อนแถวต้นคอพากันลุกเกรียวขึ้นจนเธอแทบจะสั่นสะท้านให้เขาเห็น
แต่ไม่ได้! ‘หยิน’ ไม่ใช่ไก่อ่อนที่จะตื่นกลัวหมาป่าที่จ้องจะเขมือบมันซะหน่อย
‘อย่าเลยนะคะ ได้โปรด’ สายตาเว้าวอนช้อนขึ้น ฝ่ามือเรียวบางนิ้วเรียงเป็นระเบียบ กอบกุมนิ้วอวบสากระคายของเขาเอาไว้ ก่อนที่จะมันจะเลื้อยไปไกล แบบล้ำลึกขึ้น
ใช่...ตอนนี้เขากำลังจะกรีดนิ้วหยาบนั่นลงบนลำคอระหงของเธอ อย่างจงใจ
‘ขอร้องเหรอ ฉันเข้าใจว่าเธอกำลังขอร้องอยู่...’ เขาจงใจก้มลงกระซิบข้างหู จนขนอ่อนทั่วร่างเธอกำลังลุกชันขึ้นตอบสนอง
ลมหายใจอุ่นๆ ของเขานั่น เป็นเครื่องรบกวนสมาธิของเธอได้อย่างดี
แล้วสิ่งที่เธอต้องการที่สุดในตอนนี้ คือปลายจมูกของเขา... ปลายจมูกโด่งคมเป็นสันอันแข็งแกร่งนั่น เธอต้องการให้มันจรดลงตรงไหนสักแห่งบนร่างของเธอ
บ้าจริง! เธอพยายามสบถให้ก้องในใจ เรียกสติรู้ตื่นของตัวเองให้กลับมาเสียที
เธอกำลังเป็นบ้าอะไร...เธอกำลังเผลอไผลไปกับมนต์เสน่ห์ของเขาอย่างนั้นนะเหรอ!
‘อา...ได้โปรด’ ลมหายใจสะท้อนขึ้นลงจนทรวงอกสั่นไหว ใจดวงน้อยเต้นรัวเร็ว ร้อนแรงจนแทบจะกระดอนออกมาข้างนอกอก
ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอส่งเสียงร้องขอออกมา จนเขาแทบจะทานทัดห้วงอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่ไหว
เรียวฟันขาวที่กำลังเม้มกัดริมฝีปากตัวเองไปมาแบบไม่รู้ตัวนั่น ช่างยั่วเย้าเขาได้เป็นธรรมชาติ...เกินกว่าจะมองว่าเธอมีรสชาติยังไงแล้วในตอนนี้
‘ฉันต้องเตรียมน้ำเปล่าเอาไว้เยอะ ๆ หรือเปล่า ฮื้อ...’ ช่างเป็นประโยคที่นุ่มนวลนัก แต่ทำไม...
ทำไมประโยคนุ่มนวลนั้น ไม่ได้ออกมาจากริมฝีปากอุ่นชื้นล่ะ ทำไมมันมาจากริมฝีปากร้อนผ่าว...หยาบกระด้างและพร้อมจะเผาผลาญผิวเนื้ออ่อนของเธอให้ไหม้เป็นจุณ
‘อื้อ...’ เสียงครวญครางพ่นออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่ม ที่เผยอเหมือนรอคอยอะไรบางอย่าง
ซอกคอขาวเนียนละเอียดกำลังถูกดูดเม้มเชื่องช้า แต่หนักหน่วงนัก และกินเวลายาวนานนัก จนเธอใจจวนจะขาด
‘ฉันน่าจะโดนหลอกแล้ว’ เสียงพร่าเหมือนมีลาวาพร้อมปะทุนั่น ช่างทำให้เธอต้องหล่อไหล่หลบเลี่ยง เอนเอียงเพียงนิด
‘ยังไงเหรอคะ’ สติที่ไม่มีเหลืออยู่เลยตอนนี้ ยิ่งทำให้ประโยคคำถามและแววตาสีน้ำตาลเข้ม ประกายความปรารถนาแจ่มชัด จนต้องเกร็งสะโพกเพื่อรับความพองตัวของอะไรบางอย่าง
‘หรือว่าเธอจะเป็นห่อหมก ที่ซ่อนพริกเม็ดใหญ่และเครื่องเทศเผ็ดร้อน เอาไว้ใต้เนื้อปลานุ่มๆ รสกลมกล่อมนั่น’ เป็นเธอซะเองที่ต้องส่งเสียงขันเบาๆ เมื่อได้ยินเขาเปรียบเปรยเธอเป็นอาหารให้ฟัง
สายเสื้อเส้นจิ๋วค่อยๆ หลุดลงไปกองกันอยู่แถวต้นแขนเรียวได้รูป จนเขาต้องมองตามช้าๆ พร้อมส่งยิ้มในแววตาให้
สีนิลสนิทของแววตาเขาช่างน่ากลัวนัก ในความรู้สึกครั้งแรกที่ได้สบด้วย
ใช่...มันไม่ใช่วินาทีก่อนหน้านี้แน่ๆ
‘ได้ยินมาว่า คุณเปรียบผู้หญิงเป็นอาหาร...’ แม้จะไม่มั่นใจนักว่าสมควรจะถามเขาออกไปอย่างนี้หรือเปล่า
แต่ก้นบึ้งของหัวใจที่ได้เก็บงำคำถามพวกนี้เอาไว้ พากันล้นปรี่ออกมาอย่างยากเกินกว่าที่จะข่มมันเก็บลงที่เดิม
‘คุณรู้จักลูกค้าดีอย่างนี้ทุกคนหรือเปล่า’ ริมฝีปากที่ไม่ยอมตอบ แถมยังตั้งคำถาม ประทับลงบนเนื้ออ่อนบริเวณหัวไหล่ พร้อมลาดไล่ลงไปตามการหลุดของสายเสื้อช้าๆ
‘ขอโทษ ที่ละลาบละล้วงค่ะ’ รีบว่าขณะที่ฝ่ามือเริ่มไขว่คว้าหาที่ยึดเกาะบนกายเขา
ความร้อนผ่าวรุกต่ำลงเรื่อยๆ แล้ว ฝ่ามือหยาบอีกข้างทำให้สายเสื้อที่ยังอยู่ดี เลื่อนหลุดลงไปด้วย
‘ฉันชอบคนรอบคอบ และทำการบ้านมาดี’ เนื้อขาวโพลนละเอียดตื่นตัวมากขึ้นเมื่อถูกแตะต้อง ความอวบอูมและนุ่มหยุ่นของมัน ตอบสนองความหยาบกระด้างของมือเขาได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
‘เพราะฉะนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องขอโทษหรอกสาวน้อย’ สูทอย่างดีถูกเธอช่วยปลดออกด้วย อย่างเชื่องช้า
กล้ามเนื้อแน่นเครียดที่ปรากฏให้ได้เห็นจากกายเขาในตอนนี้ มีเพียงแผงอกรำไร...ที่มีขนหยาบขึ้นประปรายท้าทายสายตานั่น
เธออยากลูบมันเล่นอย่างไม่มีเหตุผล ในขณะที่เขาลูบเธอไปถึงไหนต่อไหน
ความร้อนจากฝ่ามือเขา ทำให้ความขาวโพลนที่มียอดช่อปทุมมา แข็งเป็นไตและกำลังสั่นสะท้านคราที่เขาไล้ผ่าน
อา...เขากำลังทรมานเธอเล่นอยู่ชัดๆ
‘แต่คุณกำลังลงโทษฉันอยู่...’ ลมหายใจเธอเริ่มขาดห้วงขึ้นเรื่อยๆ ‘หยิน’ ที่เธอวาดเอาไว้ ต้องเป็นฝ่ายลงโทษเขาให้ครวญครางสิ
ไม่ใช่มาหายใจหอบระทวยให้เขาสาแก่ใจอยู่ในตอนนี้!
‘แยกแยะหน่อยสิ ฉันลงโทษเพราะเธอโกหกไม่เก่งต่างหาก’ ช่างเป็นน้ำเสียงนุ่มที่บาดหูและทะลวงบาดลึกทะลุออกจากก้นบึ้งของหัวใจ
จวนจะขาดใจ ไม่ผิดเลยที่จะนิยามให้ห้วงอารมณ์ในตอนนี้ ว่าแบบนี้...
‘อื้อ!’ ริมฝีปากเผยอส่งเสียงแบบพยายามสะกดกลั้น เรียวฟันเล็กมิอาจหักห้ามเสียงพวกนั้นไม่ให้ครวญครางออกมา
ศีรษะทุยของเขาซบอยู่ต่ำกว่าไหล่บอบบางเพียงนิด กำลังโอบประคองสองเต้าชูชันของเธอ ด้วยริมฝีปากบางเรียบแต่รุกหนักนั่น
ให้ตายเถอะ ใครเป็นคนบอกกันว่าเขา ‘กินแรง’ นี่เขากำลังกินเธออยู่ชัดๆ
‘มีคนเคยบอกฉันว่า คุณไม่ชอบแตะต้องอาหารที่คุณซื้อมา’ ริมฝีปากดุดันชะงักลงชั่วครู่ ก่อนจงใจไล้เลียดปลายถันให้ชูชันสู้เรียวลิ้นได้อีกหน
‘ผมชอบความรู้สึกที่ตัวเองถูกกิน แต่ก็ยังรู้รสอาหารด้วย บ้ามั้ย’ เขาเองก็ไม่คาดคิด ว่าจะกล้าพูดอะไรแบบนี้กับผู้หญิงขายบริการ
ใช่...เขาไม่เคยคิดที่จะทำ
น่าประหลาดใจสิ้นดี!
‘แล้วทำไมตอนนี้ คุณถึงไม่ยอมให้ฉันกินซะทีล่ะ’ เธอพยายามพูดเพื่อเรียก ‘หยิน’ ที่วาดเอาไว้ให้กลับมาคืนร่าง
ให้ได้ลงมือกินเขา ด้วยปรารถนาที่จะทำให้เขาได้ลิ้มรสของเธอด้วย
‘เพราะคุณคืออาหารชิ้นแรก...ที่ผมอยากจะลงมือกิน ให้รู้รสด้วยตัวเองล่ะมั้ง’ แล้วเธอก็ถูกเขาผลักราบลงไปกับพื้น เสื้อสายเดี่ยวรูดลงมากองที่เอวตามริมฝีปากที่ลากผ่าน
หน้าท้องแบนราบเกร็งพร้อมแอ่นขึ้นสู้เรียวลิ้นสากระคาย ที่ตวัดจนสะโพกงามงอนไม่อาจจะติดพื้นได้
‘อื้อ!’ เสียงครวญครางที่ไม่เป็นตัวเองดังก้อง
และเงียบลงในที่สุดเมื่อเธอวักน้ำใส่หน้า...
“หยุดคิดถึงเรื่องนี้ได้แล้ว!”