บทที่ 2 ข้อตกลง
หลังจากที่องศาไปทานอาหารเย็นที่บ้านอัครวิบูลย์ เขาก็รีบกลับมาบ้านทันที โชคดีที่เขาไม่ได้เจอปลาดาว ไม่งั้นคงทานอาหารไม่ลง ใจหนึ่งเขาก็รู้สึกดีใจ อีกใจหนึ่งก็รู้สึกกังวล
องศากังวลเรื่องการแต่งงานกับปลาดาวมาก เขายังจำในวัยเด็กได้ ตอนนั้นเขาเล่นอยู่ในสวนกับเด็กผู้หญิง 2 คน หนึ่งในนั้นคือลูกสาวของเจ้าของบ้าน ส่วนอีกคนเป็นลูกสาวของคนรับใช้
องศาจำไม่เคยลืมว่าเด็กผู้หญิงที่แต่งตัวด้วยชุดกระโปรงเจ้าหญิงนั้นเป็นคนชนเขาจนตกสระน้ำ หลังจากนั้นก็วิ่งหนีไปเลย เขาตะโกนให้ช่วยยังไงก็ไม่ยอมหันหลังกลับมาช่วยเขาสักนิด ตั้งแต่นั้นมาเขาก็รู้สึกไม่ชอบและไม่อยากรู้จักกับลูกสาวของบ้านอัครวิบูลย์อีกเลย
แต่แล้วก็มีเด็กผู้หญิงอีกคนที่ใส่เพียงชุดธรรมดากระโดดลงสระน้ำมาช่วยดึงเขาเอาไว้ จนตัวเองเกือบจมน้ำไปด้วย
“พี่องศา! พี่จับมือหนูเอาไว้ค่ะ หนูจะช่วยพี่เอง” เด็กหญิงลอยคอเข้าไปหาแล้วยื่นมือน้อยๆ ส่งให้พี่ชาย
“ไม่..ไม่..ไม่ดะ..ได้” องศาดำผุดดำว่ายอย่างตะเกียกตะกาย
“พี่ชายจับมือหนูไว้ค่ะ” เด็กหญิงไม่ย่อท้อ ยังคงยื่นมือไปจับเขา
“ไม่..ได้..ดะ..เดี๋ยว..เธอจะ..จมน้ำ..ด้วย” เขาพูดอย่างเป็นห่วง เพราะเด็กหญิงตัวเล็กนิดเดียว เธออายุเพียง 5 ขวบเท่านั้น
เนื่องจากเด็กชายปฏิเสธที่จะจับมือเด็กหญิง เธอจึงว่ายน้ำเข้าไปประชิดตัวเขาแล้วสอดแขนทั้งสองข้างเข้าไปที่ใต้ท้องแขนของเด็กชาย ตอนนี้เด็กชายก็เริ่มอ่อนแรงจนดิ้นไม่ไหวอีกแล้ว ทำให้ร่างเริ่มจมลงไปในน้ำ
เด็กหญิงก็พยายามตะเกียกตะกายดีดเท้าเพื่อเข้าหาบันไดตรงขอบสระ แต่ด้วยน้ำหนักและตัวเด็กชายที่ใหญ่กว่า ทำให้เธอเริ่มหมดแรงแล้วดำผุดดำว่ายในน้ำไปหลายครั้ง เธอสำลักน้ำจนเกือบเอาตัวไม่รอด สุดท้ายก็ลากเด็กชายมาถึงบันไดสระน้ำจนสำเร็จ
“พี่..พี่ชาย ปลอดภัยแล้วค่ะ” เธอพูดอย่างเหนื่อยหอบ
เด็กชายนอนราบอยู่บนพื้นแล้วลืมตามองหน้าเด็กหญิง
“ขอบใจนะ แคก! แคก! แคก!” เด็กชายไอ “เธอเป็นคนลูกของคนรับใช้ที่นี่เหรอ?”
เด็กหญิงไม่อยากพูดอะไรมาก ตอนนี้เธอรู้สึกเหนื่อยจนแทบหมดแรงแล้ว ยังเจ็บหน้าอกอีกด้วย จึงทำได้เพียงพยักหน้ารับแล้วเออออไปกับเขา ถึงเขาจะคิดว่าเธอเป็นแค่ลูกคนรับใช้ก็ช่างเถอะ
ครื่น! ครื่น! ครื่น!
เสียงมือถือขององศาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นเบอร์โทรของพ่อตัวเองที่โทรเข้ามา
“ครับ” เขาตอบรับ
“ไปทานข้าวที่บ้านลุงปริญเป็นยังไงบ้าง?”
“ก็ไม่เป็นไรครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“พ่อคุยกับลุงปริญแล้วนะว่าจะให้แกกับหนูปลาดาวแต่งงานกันในอีก 2 เดือนข้างหน้า”
“ไม่ครับ! ผมไม่แต่ง! ผมไม่ได้ชอบลูกสาวของลุงปริญ!”
“ทำไม?”
“ไม่ชอบก็คือไม่ชอบครับ พ่ออย่ามาบังคับผมเรื่องนี้ ไม่งั้นผมจะไปอยู่ที่ต่างประเทศแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย”
“แกขู่ฉันเหรอ?”
“ผมไม่ได้ขู่ครับ แต่ผมจะทำจริงแน่หากว่าพ่อยังบังคับผมอีก”
“องศา!” น้ำเสียงของอธิอ่อนลง “พ่อก็แค่อยากมีหลานสักคนเพื่อสืบทอดธุรกิจของครอบครัวเรา พ่ออายุมากแล้วนะ แกไม่อยากให้พ่อได้เห็นหน้าหลานก่อนตายหรือไง?”
“แต่ทำไมต้องเป็นลูกสาวของลุงปริญด้วยล่ะครับ ผู้หญิงมีตั้งมากมาย”
“ในเมื่อแกบอกว่าผู้หญิงมีมากมาย แล้วทำไมแกไม่เลือกเอาสักคนหนึ่งล่ะ?”
“พ่อครับ เลือกผู้หญิงสักคนมาเป็นแม่ของลูกมันไม่ได้ง่ายนะครับ ไม่ได้เล่นขายของนะครับที่อยากจะเอาใครมาเป็นแม่ของลูกก็ได้”
“แล้วแกจะเอายังไง? ลูกสาวของลุงปริญแกก็ไม่ชอบ หรือแกจะให้ฉันหาผู้หญิงคนอื่นมาให้แกอีก”
“ไม่ครับ แม่ของลูกผม ผมหาเองได้ เพียงแต่ตอนนี้ผมยังหาไม่เจอเท่านั้น”
“แกหมายความว่าไง? แกมีคนที่ชอบอยู่แล้วเหรอ?”
“ใช่ครับ ผมกำลังตามหาเธออยู่” องศาตอบอย่างไม่ปิดบัง
“เป็นใคร? แล้วแกรู้จักเธอได้ยังไง?” อธิถามอย่างสงสัย เพราะตอนที่ลูกชายไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนเลย แล้วผู้หญิงคนนั้นคือใคร?
“เธอเคยช่วยผมเอาไว้ตอนเด็กครับ เธอเป็นลูกสาวของคนรับใช้ที่บ้านลุงปริญ แต่เธอกับแม่ของเธอออกจากบ้านของลุงปริญไปแล้ว ผมกำลังตามหาอยู่” เขาบอกตามตรง
“นั่น….” อธิอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดเอาไว้ก่อน ที่จริงแล้วลูกชายก็เข้าใจผิดนี่เอง แท้จริงแล้วคนที่ลูกชายของเขาชอบมาตลอดก็คือปลาดาวนี่เอง
“ผมจะบอกคุณพ่ออีกครั้งนะครับว่าอย่ามาบังคับให้ผมแต่งงานกับลูกสาวของลุงปริญอีก ไม่งั้นผมจะทำตามที่พูดแน่นอน”
“ได้ ฉันจะไม่บังคับแก แต่แกต้องยอมรับเงื่อนไขของฉันเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องอะไรครับ? ขอเพียงคุณพ่อไม่บังคับให้ผมแต่งงานกับลูกสาวของลุงปริญ อย่างอื่นก็ได้ทั้งหมด”
“แกพูดเองนะ” อธิถามอย่างตื่นเต้น
“ครับ”
“แกกำลังตามหาลูกสาวของอดีตคนรับใช้ของลุงปริญใช่ไหม?”
“ใช่ครับ”
“แกอยากแต่งงานกับเธอใช่ไหม?”
“ใช่ครับ”
“ฉันจะยอมให้แกแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นก็ได้ แต่แกต้องมีทายาทให้ฉันคนหนึ่งก่อน”
“ได้ครับ เมื่อผมหาเธอเจอแล้ว ผมจะรีบผลิตทายาทให้คุณพ่อทันที หลังจากที่เธอคลอดแล้วผมค่อยแต่งงานกับเธอ” เขาพูดอย่างดีใจ แต่ไม่นานรอยยิ้มของเขาก็หายไป
“ใครบอกว่าหลานคนแรกของฉันต้องมาจากผู้หญิงคนนั้น”
“ไม่มาจากเธอแล้วจะมาจากใคร?” องศาสับสน
“ทายาทคนแรกของฉันต้องไม่ใช่ลูกของผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งจะคู่ควรรับทุกอย่างจากแกได้ยังไง แค่ฉันยอมให้แกแต่งงานกับเธอก็มากพอแล้ว”
“แล้วพ่อจะให้ผมมีลูกกับใคร? ใครจะมายอมมีลูกให้ผมโดยที่ไม่ได้แต่งงานและไม่ได้รับฐานะอะไรด้วย”
“ฉันจะเลือกให้แกเอง แกมีหน้าที่ทำให้เธอท้องและดูแลเธอจนกว่าจะคลอดเท่านั้นหลังจากนั้นฉันจะเลี้ยงลูกของแกเอง”
“แล้วถ้าผมหาผู้หญิงคนนั้นเจอล่ะ ผมไม่อยากให้เธอรู้เรื่องนี้”
“แกไม่ต้องห่วง คนที่ฉันหามาจะไม่ปากโป้งแน่นอน แต่แกจะแต่งงานได้ก็ต่อเมื่อผู้หญิงที่ฉันหามาให้คลอดแล้วเท่านั้น แกก็จะบอกผู้หญิงของแกได้ว่าแกมีลูกก่อนเจอเธอ”
“งั้นก็แล้วแต่คุณพ่อก็แล้วกัน”
