ตอนที่ 6 เริ่มเกม
ตอนที่ 6
เริ่มเกม
“ขอบคุณนะคะพี่หมอ” แพร์พีญาหมุนตัวกลับไปเอ่ยกับติณณภพด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าจะกลับดึกอีก โทรบอกพี่นะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ค่ะ” ร่างบางพยักหน้าไปอย่างงั้น ทั้งที่ความจริงไม่คิดจะรบกวน
“แพรจะให้พีพีขึ้นมาที่นี่เมื่อไหร่” ติณณภพถามไถ่เพราะเป็นคนจัดการเรื่องคิวการรักษาและรอโอกาสที่จะได้เป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
“อีกสักพักค่ะ”
“จะลงไปรับเองไหม” เขาถามต่อ
“ตอนแรกว่าจะให้แม่พามา แต่แพรว่าแพรจะลงไปรับเองดีกว่า” เธอไม่อยากให้พีพีนั่งรถโดยสารตามลำพังกับแม่ กลัวว่าจะอันตราย
“แพรจะไปรับพีพีวันไหน บอกพี่นะ พี่จะไปด้วย”
“...!?” ใบหน้าเฉี่ยวหวานเงยหน้าสบตาอย่างสงสัยในคำพูด
“คือ...พี่จะกลับไปเยี่ยมม๊าน่ะ ก็เลยถือโอกาสกลับบ้านพร้อมแพรทีเดียวไง” ทำให้ติณณภพแก้ตัวออกไป
“...” แพร์พีญาพยักหน้ารับไม่อยากขัดใจ ยังไงเสียเขาก็ดีกับเธอมาตลอด
“รีบเข้าห้องเถอะ”
“ค่ะ”
“อย่าลืมใส่กลอน ปิดหน้าต่างให้เรียบร้อย” ไม่วายมือหนายังถือวิสาสะเอื้อมไปโยกศีรษะทุยอีกครั้ง “เข้าใจไหม”
ฟึ่บ!
“หึ แพรไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ” มือบางเลื่อนขึ้นมาปัดไม่ให้ดูน่าเกลียดจนเกินไป
“รู้ แต่พี่ก็เป็นห่วงอยู่ดี…”
“…พี่ไปก่อนนะ” เมื่อเห็นว่าร่างบางเงียบไม่พูดอะไรต่อเขาจึงจำต้องลากลับ
“ขับรถกลับดี ๆ นะคะ”
ติณณภพพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะหมุนตัวเดินกลับออกไป แพร์พีญาจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องตัวเองบ้าง
ก๊อก ๆ
ก๊อก ๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นในเวลาไม่นานหลังจากแพร์พีญาเข้ามาในห้อง
“พีท! กลับมาแล้วเหรอ”
“...” เงียบไร้เสียงตอบกลับ
“พีทรึเปล่า” ร่างบางถามย้ำอีกครั้ง แต่ก็เหมือนเดิมไม่มีเสียงขานรับแต่อย่างใด
ทำให้เธอหมุนตัวกลับไปทั้งหลัก มองหาอุปกรณ์ป้องกันตัวจนสายตาไปปะทะเข้ากับมีดสำหรับหั่นผัก มือบางกำมีดเอาไว้ในมือแน่นแล้วเดินไปจัดของต่อ
ตึก ๆ
ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงเคาะ ทว่าด้านนอกเขย่าบานประตูแทนพร้อมทั้งทำบางอย่างกับลูกบิดประตู
ทึบ!
สุดท้ายประตูก็เปิดออก ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะเข้ามายืนในห้องแล้วดันหลังเท้าปิดประตูทันที
“นาย!” ร่างบางชะงักนิ่งเงียบ คิดไม่ถึงว่าคนที่กล้างัดประตูห้องคือ...คูเปอร์
อีกแล้ว...เขาต้องการอะไรกันแน่
“...” นัยน์สีนิลจับจ้องแพร์พีญาแล้วก้าวเท้ามายืนตรงหน้า
“ออกไป!” มือบางใช้มีดชี้ไปตรงหน้า เอ่ยเสียงแข็งลั่นห้อง
“กลัวเหรอ!?” เขาเลิกคิ้วถาม
“...” แพร์พีญานิ่งไม่โต้ตอบ
คูเปอร์มองห้องด้วยสายตาที่ดูถูก “ดูจากสภาพห้องแล้ว ฉันว่าเธอควรกลัวอย่างอื่นมากกว่าฉันนะ”
“ต้องการอะไร เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตฉันทำไม” ริมฝีปากบางเอ่ยถาม ถึงจะไม่ได้คำตอบแต่สมองมันก็ต้องหาคำตอบให้ตัวเองอยู่ดี ทว่าเธอเองก็ไม่ลืมที่จะป้องกันตัวด้วยการกำมีดไว้มั่นพร้อมที่จะสวนกลับถ้าเขาเข้ามาใกล้
“อยากรู้เหรอ” คูเปอร์ถามอย่างกวน ๆ “อยากรู้ก็เข้ามาใกล้ ๆ สิ”
“...” ร่างบางไม่คิดจะทำตามคำเอ่ยชวนนั้น ใครมันจะอยากเข้าไปใกล้คนที่อันตรายต่อตัวเอง
“เห็นเธอมีชีวิตใหม่แล้วรู้สึกขวางหูขวางตา ก็เลยอยากเล่นเกมสนุก ๆ ดู”
“...” แพร์พีญาเม้มปากเป็นเส้นตรง ไม่ชอบเลยที่โดนคุกคามทั้งที่เรื่องเธอและเขามันจบไปตั้งนานแล้ว
“อยากเล่นเกมกับผัวคนนี้ไหม สนุกกว่าไอ้หน้าจืดนั่นอีกนะ”
“เลิกพูดแบบนั้นสักที เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว”
“อ้อ! ลืมไปว่าผู้หญิงประเภทเธอไม่ให้สถานะผู้ชายหรือ…ถ้าจะให้คงจะนับเป็นชั่วโมง”
“...” ร่างบางได้แต่กำมีดแน่นอย่างแค้นใจ ไม่รู้ชีวิตของเธอจะโดนเหยียบย้ำไปถึงไหนกัน
“ตกลงไอ้หน้าจืดนั่นเป็นแค่ลูกค้าเหรอ” เพราะถ้าคบกันก็คงไม่ปล่อยให้แฟนอยู่ในห้องที่มีสภาพแบบนี้
“อืม รู้แล้วก็ไซหัวออกไปจากห้องฉัน”
“หึ กล้าเรียกที่นี่ว่าห้องน่ะ แต่ว่าดู ๆ ไปมันก็เหมาะกับเธอดี” คูเปอร์เว้นวรรคก่อนจะพูดอย่างเจ็บแสบ “น่าขยะแขยง!!”
“ขยะแขยงก็ออกจากห้องฉันไปสิ ถ้าไม่ออกฉันนี่แหละจะทำให้นายออกไปเอง”
“...” ร่างสูงใหญ่เดินเข้าหา ท้าทายใส่ทันที
ฟิ้ว!
ทำให้มือบางฟาดเพื่อที่จะปาดกล้ามท้องที่กำลังจะชิดใกล้ ทว่ามือหนากลับคว้าไว้ทันเวลา
“นี่เธอกล้าแทงฉันเหรอวะ!!” เขาคว้าเอวเล็กเข้าหาตัวพร้อมทั้งสะบัดให้มีดหลุดจากมือ พร้อมทั้งโน้มหน้าเข้าไปถามใกล้ ๆ
“ฉันกล้ามากกว่านี้อีก ถ้านายไม่เลิกยุ่ง”
ตุบ! ทันทีที่พูดจบแพร์พีญาฟาดศีรษะตัวเองใส่คมจมูกคูเปอร์อย่างแรง ทำเอาร่างสูงเซถอยหลังเล็กน้อย เขาเงยหน้าพร้อมกับส่ายหัว ก่อนจะก้มลงมาเพื่อพูดบางอย่าง
“ได้! แล้วเราจะได้เห็นดีกัน” มือหนาสะบัดข้อมือร่างบางอย่างแรง ทั้งดวงตาและสีหน้ามีแต่ความดุดัน
“ออกไปแล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก!!” แพร์พีญามองจมูกโด่งที่มีเลือดกำเดาไหลออกมาแล้วชี้นิ้วไล่ไปทางประตู
คูเปอร์จ้องดวงตากลมโตนิ่ง ไม่คิดจะยกมือขึ้นมาปาดเลือดที่ไหลแตะขอบปาก เขาได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความโมโห แต่ก็ยอมถอยหลังออกจากห้อง...สุดท้ายเกมนี้ก็เริ่มต้นอย่างสมบูรณ์แบบสักที
แพร์พีญาย่างกรายเข้ามาในสตูดิโอที่นัดหมายกันไว้อย่างดิบดี มองรอบ ๆ ห้องที่ยังไม่ได้จัดสถานที่เป็นเพียงห้องว่างเปล่าและที่สำคัญไม่มีแม้แต่ทีมงานสักคนเดียว
“ถูกที่รึเปล่าพี่แพร” พีรภัทรถามด้วยความสงสัย
“ก็ถูกนะ” ดวงตากลมโตก้มมองชื่อสถานที่ในโทรศัพท์มือถือใหม่อีกครั้งพร้อมกับอ่านชื่อป้ายที่ติดไว้ในอาคาร
“ผมว่ามันแปลก ๆ นะ ถึงเราจะมาก่อนเวลา แต่อย่างน้อยต้องมีทีมงานบ้างสิ” ร่างสูงเท้าสะเอวความสงสัยในใจยิ่งมากกว่าเดิม
“เดี๋ยวพี่ลองโทรหาพี่ทีมงานดูแล้วกัน”
นิ้วเรียวกดต่อสายทันที ในใจร้อนรนขึ้นมาและสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ หวังลึก ๆ ว่าคงไม่เป็นอย่างที่คิด จนกระทั่งโทรศัพท์มือถือตัดสายไป ไม่มีการกดรับหรือโทรกลับ...
“ไม่รับเหรอ”
“อือ” คราวนี้แพร์พีญาเริ่มหน้าชา ทุกอย่างเริ่มชัดขึ้นมา
“งั้นผมลองโทรหาไอ้เดียร์ดูแล้วกัน”
สองพี่น้องต่างแยกกันโทรหาเพื่อคลายความสงสัย
จนกระทั่งพีรภัทรวางสายและหันมาบอกพี่สาว
“เดียร์ว่าไงพีท”
“มันยังไม่รู้เรื่องอ่ะ กำลังติดต่อคนที่จ้างให้”
แพร์พีญาพยักหน้ารับ ทว่าสีหน้าสลดลงไปมาก ภาวนาอย่าให้อะไรมาทำให้เกิดความผิดพลาดเลย แค่นี่ก็แย่มากพอแล้ว
ครืดดด ครืดดด
พีรภัทรกดรับสายโดยไม่อิดออด “ว่าไง!?” พร้อมทั้งรอคำตอบด้วยใจระทึก
(คือ...ลูกค้าแคนเซิล) ปลายสายเอ่ยเสียงบางเบา
“...” ร่างบางถึงจะไม่ได้ยินเสียงเดียร์น่าพูด แต่ก็รู้ทันทีที่เห็นสีหน้าน้องชาย
“อะไรวะ ทำไมไม่คิดจะโทรบอกสักคำ” พีรภัทรอารมณ์ขุ่นเคืองระเบิดใส่เพื่อนสนิทเสียงดังลั่น
(ฉันก็ไม่รู้ กับฉันเขายังไม่คิดจะโทรบอกเลย)
“กวนประสาท...เฮ้ย! พี่แพร เดียร์แค่นี้ก่อน” ร่างสูงกดวางสายแล้ววิ่งไปดักด้านหน้าแพร์พีญา “พี่แพรจะไปไหน”
“ไปหาต้นเหตุของเรื่องนี้”
“ต้นเหตุ! ใคร!?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน เพิ่งจะย้ายเข้ามาในเมืองไม่นาน นี่เรามีศัตรูด้วยเหรอ
‘ได้! แล้วเราจะได้เห็นดีกัน’
“...” แพร์พีญาย้อนคิดถึงคำพูดข่มขู่พวกนั้น คงเป็นใครไม่ได้ที่ทำเลวกับชีวิตเธอ
“ตกลงใคร บอกผมมาพี่แพร”
“...” เธอไม่ตอบ แต่เลือกที่จะเดินนำออกไป
หมับ!
“พี่แพร!” น้องชายจับมือบางไว้เพื่อที่จะคุยกันให้รู้เรื่อง
ทว่า...ไม่ทันที่จะได้พูดคุยเสียงโทรศัพท์มือถือของพีรภัทรก็ส่งเสียงอีกรอบ
“อืม เดี๋ยวกูเข้าไปที่ร้านเดียวนี้”
“มีอะไร” เธอเอ่ยถามน้องชายทันที
“ผู้จัดการตามให้เข้าร้านน่ะ”
“...” มือบางกำหมัดแน่น เนื้อตัวเริ่มสั่น คงไม่ใช่แค่เธอใช่ไหมที่โดนเล่นงาน ทว่ารวมถึงคนรอบตัวเธอด้วย
“ตกลงพี่จะไปไหน” ไม่วายคนเป็นน้องถามกลับด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มีอะไรหรอกไปที่ร้านเถอะ ไว้เจอกันที่ห้อง”
“แน่ใจนะ”
ร่างบางพยักหน้าย้ำความมั่นใจ ทำให้คนเป็นน้องยอมวางใจและแยกกันไปทำหน้าที่ตัวเอง
แพร์พีญาครุ่นคิดคำข่มขู่นั้นอีกครั้งและมั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือของเขา เธอไม่ลังเลใจที่จะไปเคลียร์ให้รู้เรื่อง และรู้ดีว่าที่ประจำของเขาคือที่ไหน
