บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 เกมอารมณ์

ตอนที่ 5

เกมอารมณ์

‘เวลาทำให้คน ๆ นึงเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยเหรอ’

ร่างบางนอนพลิกไปพลิกมา นึกย้อนเหตุการณ์เมื่อตอนเย็น

เย็นชา...ใช่เขาเป็นแบบนั้นมาตลอด

แต่!

คำพูดเหยียบหยามดูถูก...มันไม่ใช่เขาเลยสักนิด

ใช้อารมณ์ป่าเถื่อน...ยิ่งไม่ใช่นิสัยของเขา

“จะไปคิดถึงคนที่เลวใส่เราทำไม” จู่ ๆ เสียงพีรภัทรก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบในยามวิกาล

“ฉันคิดเรื่องอื่นต่างหากล่ะ” แพร์พีญาแก้ตัวออกไป

“เหรอ”

“อืม”

“ก็แล้วแต่ แค่อยากบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องอ่อนข้อให้คนพวกนั้น” พีรภัทรที่นอนบนฟูกอีกด้านเอ่ยกลายตักเตือน

“ไม่ต้องห่วง ฉันตาสว่างพอที่จะเห็นอะไรเป็นอะไร” เห็นธาตุแท้ผู้ชายที่ใช้สถานะแฟนกันมาเกือบสองปี ผู้ชายที่ไม่เคยทำร้ายร่างกายหรือจิตใจเธอเลยสักครั้งในระยะเวลาที่คบกัน

จนกระทั่งวันที่เขาเลือกจะทิ้งเธอไปโดยไม่คิดจะบอกลาสักคำ

“ให้มันจริงเถอะ มันไม่ใช่คนดีของพี่อีกต่อไปแล้ว ถ้าเจอหน้ามันอีกก็เอาไม้หน้าสามฟาดหัวมันได้เลย”

“หึ” คำพูดของน้องชายทำเอาร่างบางหัวเราะตัวโยก

ฟึ่บ!

“ผมพูดจริงนะ ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะฟาดมันเองกับมือ ต้นเหตุที่ทำให้พี่แพรต้องลำบาก” พีรภัทรลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปพูดกับแพร์พีญาอย่างจริงจัง พร้อมทั้งกำหมัดต่อยฝ่ามือตัวเองด้วยความเจ็บใจ

“นอนได้แล้ว พรุ่งนี้เราต้องหางานใหม่สู้กันต่อนะ” แพร์พีญาพลิกตัวกลับไปอีกด้านแล้วบอกเสียงอ่อนลง ไม่ใช่เปลี่ยนเรื่องเพราะใจไม่แข็งพอ แต่เธอต้องการตัดขาดจากผู้ชายคนนั้น แม้แต่อดีตก็ไม่ให้หลงเหลือในความทรงจำ

“พี่แพรรับปากผมก่อนว่าจะไม่ยอมให้มันทำร้ายพี่อีก” เขาไม่ยอมนอนลง ยังคงรบเร้าคำยืนยันให้ได้

“อืม พี่รับปาก” ร่างบางเอ่ยอย่างหนักแน่น ตอบอย่างที่คิดจะทำจริง ๆ “สบายใจยัง”

“โอเค งั้นผมนอนล่ะ”

ก่อนที่พีรภัทรจะทิ้งตัวนอนลงเหมือนเดิม ส่วนแพร์พีชญาเองก็ยอมสลัดความคิดทุกอย่างทิ้งและหลับตาลงเข้าสู่นิทราในที่สุด

เช้าวันต่อมา

พีรภัทรและแพร์พีชญาเซิร์ชหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต หางานที่ตัวเองถนัดและคิดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการหาเงิน

“เห้อ! ท้อวะพี่แพร เดือนเดียวกับเงินห้าแสน ไม่ใช่ง่าย ๆ เลยนะเว้ย”

ประโยคนี้ไม่รู้รอบที่เท่าไรที่พีรภัทรบ่นออกมา ต่างจากร่างแบบบางที่ไม่คิดจะท้อกับโชคชะตา

จนกระทั่ง...

ครืดดด ครืดดด

เสียงโทรศัพท์พีรภัทรดังขึ้น แต่แล้วมือหนากลับโยนมาวางบนหน้าตักพี่สาวโดยเร็ว เมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ

“อะไรของแกเนี่ยพีท” แพร์พีญาแวดเสียงใส่อย่างงุนงง

“ไอ้เดียร์พี่ เดียร์น่ามันโทรมา”

“ก็รับสิ”

“ไม่เอาอ่ะ มันต้องโทรมาด่าอีกแน่” แค่เมื่อวานที่โดน หูเขายังชาไม่หาย ขืนโดนอีกวันนี้มีหวังหูดับแน่

“คิดมาก รับก่อน” นิ้วเรียวกดรับสายแล้วยื่นไปแนบหูพีรภัทรทันที “พูด!” ก่อนจะกดเสียงต่ำเป็นการบังคับ

“อะไรวะพี่แพร” ทำให้พีรภัทรดีดตัวหนีเอ่ยแผ่วเบาเพราะยังรู้สึกเสียวสันหลัง

“อะ…ฮาโหลเดียร์” แต่สุดท้ายก็หลบเลี่ยงไม่ได้จนต้องเอ่ยพูดกับปลายสาย

(ฟังฉันอยู่ไหม ไอ้พีท!)

“ฟะ…ฟังอยู่”

(จะพูดตะกุกตะกักทำไมวะ ฉันไม่โทรมาด่าแล้วหรอกน่า)

“แล้วโทรมาทำไมวะ”

(พอดีมีคนสนใจพี่แพร อยากร่วมงานด้วยน่ะ ฉันเลยต้องติดต่อมาไง) เดียร์เข้าเรื่องไม่อยากเสียเวลานาน

“ติดต่องานพี่แพรเหรอวะ” พีรภัทรเงยหน้าสบตาพี่สาวทันที

(อือ)

“งานอะไร!?”

(ถ่ายแบบเสื้อผ้าแฟชั่นในอินสตาแกรมน่ะ)

“อ้อเหรอ...” ก่อนที่พีรภัทรจะกระตุกยิ้มอย่างดีใจ ไม่เสียแรงที่เขาเคยช่วยไว้จากกลุ่มวัยรุ่นในผับเมื่อหลายปีก่อน ตอนเดียร์ลงไปเที่ยวที่ใต้ ไม่อย่างงั้นระดับเขาก็คงไม่มีเพื่อนที่มีหน้ามีตาในสังคมได้หรอก

(แต่ห้ามหนีกลับเหมือนเมื่อวานอีก ไม่อย่างงั้นคงไม่มีงานให้ทำอีกแน่) ทำให้เดียร์เอ่ยดักเอาไว้ก่อน

“ไม่มีทาง ครั้งนี้ฉันจะไปด้วย จะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก ฉันรับประกัน”

พีรภัทรตกลงรับงานโดยที่ไม่ถามความสมัครใจจากพี่สาวเพราะรู้ว่ายังไง แพร์พีญาก็ไม่ปฏิเสธ

ณ ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า ‘เงิน’ อีกแล้ว

คอนโดหรู

ร่างสูงใหญ่นั่งไขว่ห้างมองทิวทัศน์ริมระเบียงห้องนั่งเล่นในคอนโดที่มีความสูงลิบลิ่ว ความเงียบเท่านั้นที่เขาต้องการมาตลอด

“นายน้อยครับ...ที่อยู่ผู้หญิงคนนั้นครับ” ลูกน้องเดินเข้ามาพร้อมเอกสารบางอย่างวางไว้ข้างโต๊ะ

“...” ร่างใหญ่นั่งฟังรายงานจากลูกน้องเงียบ ๆ โดยไม่คิดจะเงยหน้าไปมองต้นเสียง

“เธอพักอยู่กับน้องชายสองคน เพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่ถึงเดือน” ลูกน้องรายงานต่อตามที่สืบมา

“...” คิ้วเข้มกระตุกเข้าหากัน คิดไม่ถึงว่าจะอยู่แค่สองคน

“ให้ผมสืบอย่างอื่นต่อไหมครับ...นอกจากที่อยู่ของเธอ”

“ไม่ต้อง! ที่เหลือฉันจัดการเอง” เสียงเข้มกล่าวอย่างราบเรียบ

นัยน์สีนิลฉายความรู้สึกบางอย่างออกมา ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ แม้แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าอารมณ์เดือดดาลของตัวเองนั้นจะระบายออกมาในรูปแบบไหน

“ความจริงไม่ต้องตามมาก็ได้” แพร์พีญาเดินนำพีรภัทร เหลียวหลังกลับไปเอ่ยเสียงเรียบ

“เดี๋ยวเจอไอ้เฮียเปอร์ ผมจะได้จัดการมันทันที” พีรภัทรหมายมั่นจะตามไปคุยงานด้วยให้ได้ หวังลึก ๆ หากเจอหน้าคนที่สร้างตราบาปให้พี่สาวด้วยก็ดี จะได้เคลียร์กันไปเลย

“จะเจอได้ไง นี่มันสตูดิโอแล้วเขาไม่มีทางรู้ว่าพี่ทำงานอะไร ที่ไหน”

“ใครจะไปรู้ มันอาจจะพาลมาดักรอเล่นงานพี่แพรอีกก็ได้ คนมันเลวมันทำได้ทุกอย่างแหละ”

“บอกแล้วไงว่าดูแลตัวเองได้ พีทกลับไปเรียนเถอะ”

ตึก!

ร่างสูงโปร่งวิ่งไปดักหน้าพร้อมชี้นิ้วเพื่อเอ่ยบางอย่าง

“หยุดเลย เราเลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว” เขาไม่มีทางกลับไปเรียนอีกถ้าจะทำให้พีพีไม่ได้รักษาตัว

“แต่มานั่งเฝ้าแบบนี้มันก็เสียเวลาเหมือนกัน” เธอสวนกลับไป

“เสียเวลาอะไร ผมมีร้องเพลงต่อแถวนี้ด้วย”

“ร้องเพลงแถวนี้!?” คิ้วเรียวขมวดสงสัย “วันก่อนพีทไม่ได้บอกว่าร้านแถวนี้นี่” เพราะงานเสริมพีรภัทรคือร้องเพลงตามผับตามบาร์ ทว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีร้านแถวที่เธอยืนอยู่ด้วย

“อืม เพิ่งหาเพิ่มน่ะ”

ร่างบางพยักหน้าเข้าใจทันทีเพราะภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสินะ ถึงทำให้อนาคตน้องชายพลอยลำบากไปด้วย

คฤหาสน์ตระกูลซามูเอล

คางูยะมาเฟียเฒ่าลืมตามองรอบ ๆ ห้องที่คุ้นชิน สีหน้าท่าทางไม่ได้ดีขึ้นเลยตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาล การสูญเสียในอดีตยังคงฝังลึกในหัวใจไม่จางหาย เขาอยากจะชดใช้ให้ใครหลาย ๆ คนที่เกี่ยวข้อง

ทว่า

ไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว

“นายท่าน ต้องการอะไรไหมครับ” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเจ้านายเอาแต่นอนนิ่งไม่ตอบโต้หรือตอบสนองอย่างใด เอาแต่ลืมตามองอากาศล่องลอย

“...” เช่นเคย...ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ

“อยากออกไปด้านนอกไหมครับ เดี๋ยวผมพาไป”

“...” เงียบเหมือนเคย

ลูกน้องได้แต่ก้มหน้าอย่างเห็นใจ ก่อนจะออกไปรายงานทุกอย่างให้สามพี่น้องที่เป็นหลานชายของตระกูล

คริสเตียนพี่ชายคนโตจึงนัดคนอื่น ๆ มาปรึกษาหารือเพื่อเยียวยาสภาพจิตใจปู่คางูยะ

“ฉันจะหาคนมาดูแลอาการปู่ ทุกคนว่าไง”

“อืม ก็ดีนะ” เคนตะตอบทันที

“...” ส่วนคูเปอร์ไม่ได้แสดงความคิดเห็นออกมา

“หมอบอกว่ารักษาด้วยสิ่งที่ปู่ชอบ” คริสเตียนเว้นวรรคก่อนจะพูดต่อ “นอกจากอาชีพที่ปู่วางมือแล้วก็มีแต่...งานศิลป์เท่านั้นที่เป็นสิ่งที่ปู่รัก”

“งั้นง่ายเลย จ้างจิตรกรมาสร้างสรรค์งานที่บ้าน”

“ไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ”

“...” คูเปอร์เงยหน้าขึ้นไปมองพี่ชายคนโต

“เราต้องหาคนที่ผลงานของเขาตอบสนองกับปู่”

“แล้วจะหาจากไหน!?” เคนตะแบมือถามสงสัย

“ประกาศเปิดรับสมัครสิวะ” คริสเตียนตอกกลับอย่างรำคาญ เรื่องง่าย ๆ ทำไมคิดไม่ได้

“เออวะ”

ฟึ่บ!

“มันไม่ได้ง่ายหรอกนะ ผลงานที่จะทำให้ถูกใจปู่” จู่ ๆ คูเปอร์ก็แสดงความคิดเห็น

“ตอนเปิดรับสมัครจะระบุสไตล์งานลงไปด้วย จะได้ไม่กว้างมาก” คริสเตียนจึงบอกน้องชายคนเล็ก

“ได้คนเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน” ร่างสูงใหญ่ของคูเปอร์จึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินออกจากห้องโถง

“ไปไหนวะ...ไอ้คูเปอร์!!” เคนตะตะคอกถามเสียงดังลั่นห้อง

แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับเช่นเคย...

ตกดึก...หลังจากร่างบางเพิ่งจะตกลงงานเสร็จเรียบร้อยและไม่ได้กลับห้องพร้อมน้องชาย เพราะพรุ่งนี้เธอต้องไปถ่ายงานแต่เช้า เธอจึงจำเป็นต้องกลับห้องมาก่อน

ซอกซอยคับแคบในเวลามืดค่ำอย่างนี้แทบจะไม่มีผู้คนผ่านไปมา นอกเสียจากกลุ่มคนเมาที่นั่งตั้งวงกันหน้าบ้าน

ความเปลี่ยวและความเงียบส่งผลให้แพร์พีญาสาวเท้าด้วยความถี่ และความรู้สึกบางอย่างเวลาเดินผ่านซอกซอยยิ่งส่งผลให้เธอรีบกลับห้องให้เร็วที่สุด

ทว่า...เธอก็อดที่จะเหลียวหลังกลับไปมองไม่ได้เพราะบางอย่างมันทำให้เธอรู้ว่ามีใครมองอยู่

ฟึ่บ!

แพร์พีญาเหลียวหลังกลับไปมองด้านหลังให้คลายความสงสัย

ไม่มี! เธอคงคิดมากไปเอง

“กึก!”

“ว๊ายย!” มือบางยกขึ้นมาปิดตาตัวเองเอาไว้ด้วยความตกใจที่จู่ ๆ ก็มีคนเดินมาดักด้านหน้า

“แพร พี่เอง” น้ำเสียงคุ้นชินเอ่ยออกมา

ทำให้มือบางค่อย ๆ เลื่อนลงเบิกตามองต้นเสียง

“โธ่พี่หมอ แพรใจหายหมดแล้วเนี่ย” แพร์พีญาลูบหน้าอกให้หายตกใจ เธอกลัวจริง ๆ ถึงจะฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย แต่จะให้มาสู้กับคนตัวเป็น ๆ ยังไงเธอก็แพ้

เธอต้องรักษาชีวิตเพื่อหาเงินให้เร็วที่สุด

“ดี! จะได้จำว่าไม่ควรกลับห้องคนเดียวดึก ๆ แบบนี้” ติณณภพตำหนิทันทีเพราะเตือนเรื่องนี้ไปหลายครั้งแล้ว

“นี่พีทโทรบอกพี่หมอเหรอคะ”

“ถ้าพีทไม่บอกก็คงไม่เห็นเด็กดื้อกล้ากลับห้องคนเดียวกับตาหรอก” มือหนาเอื้อมมือมาโยกศีรษะทุยอย่างมันเขี้ยว

บรึ้นนนน~

แต่ทว่าเสียงรถทำให้ทั้งคู่เหลียวกลับไปมองทางด้านหลังพร้อมกัน

“เห็นไหมว่ากลับคนเดียวมันอันตราย เราไม่รู้เลยว่าใครเป็นใคร”

เพราะทันทีที่หันกลับไปมอง รถที่เพิ่งจะออกรถขับออกไปไกลมากแล้วคงเหลือแต่ความมืดที่มีไฟสาดเพียงเล็กน้อย

“ปะ! เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง”

ร่างบางพยักหน้ายิ้ม ๆ แล้วเป็นฝ่ายเดินนำออกไปทางเข้าห้องเช่าตัวเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel