ตอนที่ 3 ยอมรับงาน
ตอนที่ 3
ยอมรับงาน
ร่างบางย่างกรายเข้ามาในสตูดิโอตามที่เพื่อนของน้องชายส่งโลเคชั่นมาให้
“พี่แพร ทางนี้ค่า~” เสียงแจ๋วแหววเอ่ยทักทันทีที่เห็นแพร์พีญาหันซ้ายหันขวาตามลำพัง
แพร์พีญายิ้มตอบ เคอะเขินเล็กน้อยเมื่อโดนจับจ้องตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เราไปคุยรายละเอียดด้านในกันดีกว่าค่ะ” ก่อนที่รุ่นน้องสาวจะเดินนำไปยังห้องกระจกสีใส
เดียร์น่าเด็กสาววัยยี่สิบปีที่ช่วยดูแลกิจการของครอบครัว มีหน้าที่หลักในการจัดหานางแบบหน้าใหม่เข้าสู่วงการ และเธอเองก็สนใจในแพร์พีญามานานแล้ว
“พี่แพรอยากรับงานแบบไหนคะ” น้ำเสียงสดใสเอ่ยถามความคิดเห็นก่อนเป็นอันดับแรก เพราะพอจะรู้รายละเอียดจากพีรภัทรมาบ้าง
“พี่ต้องการเงินก้อน พีทบอกเดียร์แล้วใช่ไหม”
“ค่ะ แต่มันย้ำว่าต้องไม่โป๊ แล้วถ้าไม่โป๊แต่ค่าตัวแพงเนี่ย ต้องระดับไอดอลดัง ๆ โนเนมเรทราคาต่อวันคงไม่ถึงหลักหมื่นค่ะ” เดียร์บอกตามความจริง ถึงอยากจะช่วยแต่ถ้าลูกค้าไม่รีเฟรชมาเองเธอก็คงช่วยได้ยาก
“ตอนนี้พี่ไม่ติด ขอแค่ให้ได้เงิน พี่รับหมด” ร่างบางคิดมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เธอจะไม่สนใจอะไรอีก ขอแค่หาเงินทันกำหนดก็เพียงพอ
“แน่ใจนะคะ ไม่มีเปลี่ยนใจทีหลังนะ”
“อือ พี่คิดมาดีแล้ว”
“งั้นเริ่มงานพรุ่งนี้เลยเป็นไงคะ เดียร์จะให้ลองงานพริตตี้มอเตอร์โชว์ก่อน สำหรับพี่แพร...เดียร์จะให้ค่าตัวพิเศษ” เพราะถ้าหากไม่เลือกชุด ราคาก็จะพุ่งไปอีกสเต็ปหนึ่งและยิ่งรูปร่างหน้าตาแบบผู้หญิงตรงหน้า สามารเรียกลูกค้าและยอดขายได้อย่างแน่นอน
“พี่อยากได้งานทุกวัน พอจะเป็นไปได้ไหม”
“เดี๋ยวเดียร์จะหางานอื่นเสริมให้ด้วยก็แล้วกันค่ะ”
“ขอบคุณนะเดียร์” แพร์พีญายิ้มดีใจเริ่มจะเห็นทางออกบ้างแล้ว
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ เป็นเพราะตัวพี่แพรต่างหากถึงได้งาน ความจริงถ้าพี่รับงานก่อนหน้านี้ ป่านนี้คงจะมีชื่อเสียงไปนานแล้ว”
“...” ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มเพียงมุมปาก เพราะตอนนั้นเป็นเธอที่ขี้ขลาดเกินกว่าจะรับงาน และที่สำคัญเธอไม่อยากเป็นที่รู้จักไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ทำอะไร ไม่อยากให้รับรู้อะไรทั้งสิ้น อย่างที่เธอเองไม่เคยรับรู้อะไรตลอดห้าปีเหมือนกัน
งานมอเตอร์โชว์
แพร์พีญาในชุดเดรสสีแดง แหวกลึกช่วงหน้าอก เผยให้เห็นเนินเนื้อสีขาวนวล ผมสลวยรวบมัดตึงกลางศีรษะ โชว์เรียวหน้าเฉี่ยวคมสะดุดตา พร้อมแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางราคาแพงส่งผลให้เธอสง่าและเย้ายวนในเวลาเดียวกัน
“โอ้โหพี่แพร สวยไม่มีที่ติเลยนะเนี่ย” เดียร์น่าเข้ามาในห้องแต่งตัว สะดุดกับร่างบางจนแทบตะลึง
“พี่ต้องใส่ชุดนี่จริง ๆ เหรอ” เธอก้มมองหน้าอกที่โผล่อย่างใจหวิว ไหนจะกระโปรงที่สั้นแทบจะปิดไม่มิดนั้นอีก
“แน่ะ ไหนว่าพี่แพรคิดมาดีแล้วไง บอกไว้ก่อนว่าเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะคะ”
“ก็ไม่ได้จะเปลี่ยนใจ แค่มันไม่ชิน”
“รับงานบ่อย ๆ เดี๋ยวก็มีอาชีพเองแหละ” มือบางเอื้อมมือมาลูบไหล่ขาวเนียนให้กำลังใจ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับพริตตี้คนอื่น ๆ “ทุกคนฝากพี่แพรด้วยนะคะ ช่วยดูแลแทนเดียร์ด้วย” และไม่ลืมที่จะย้ำเพื่อให้แพร์พีญาคลายกังวล
เมื่องานมอเตอร์โชว์ดำเนินเปิดตัว เหล่าพริตตี้ เอ็มซี ต่างออกมายืนตำแหน่งตัวเองตามหน้าที่ที่ดิวงานเอาไว้
ร่างแบบบางทำตามที่เดียร์น่าและเพื่อนพริตตี้เทรนงานให้ พยายามไม่เคอะเขินเพราะในใจตอนนี้มีแค่คำว่า ‘เงิน’ คำเดียว
และแล้วบูธโชว์ของแพร์พีญาสามารถเรียกลูกค้าได้มากหน้าหลายตาตามที่เดียร์น่าคิดไว้ไม่มีผิด ทั้งตากล้องและคนที่เดินผ่านไปมา สาดแฟลชรัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง
‘เด็กใหม่เหรอวะ’
‘เออว่ะ ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน’
‘แม่งสวยจัด’
‘มึงดูน้องคนนั่นสิ อย่างสวย!’
‘สวยครบจบในคนเดียว น้องเดียร์ได้เด็กใหม่ไม่เห็นบอกพวกเราเลยวะ’
‘น้อง ๆ โพสแล้วส่งยิ้มมากล้องนี้หน่อยจ้ะ’
บทสนทนาเหล่าตากล้องพูดคุยกันดังเป็นระยะ ร่างบางได้แต่ส่งยิ้มทำตามหน้าที่ ถึงในใจตอนนี้จะร้อนรน แต่ไม่อาจจะถอยได้แล้ว เดือนเดียวกับการหาเงินวิธีอื่นมันคงไม่ทัน
คฤหาสน์ตระกูลซามูเอล
ร่างกายกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามและรอยสักกำลังว่ายน้ำดับอารมณ์ตัวเองที่ยังคงขุ่นหมองไม่จางหาย นานแค่ไหนแล้วน่ะที่เขาไม่กลับมาบ้านหลังนี้ แต่คงไม่นานพอที่จะทำให้เขาลืมอดีตได้
มือหนาเท้ายันตัวจากสระน้ำขึ้นมาสวมใส่ผ้าคลุมแล้วสาวเท้าเข้าด้านในบ้านเพื่อกลับห้องตัวเอง ความจริงเขาไม่ได้ตั้งใจกลับมาพักที่นี่แต่ทว่าหลังจากเคลื่อนย้ายคางูยะ เขาจึงต้องแวะเวียนมาดูอาการตามหน้าที่ของหลานคนหนึ่ง
“ไอ้คูเปอร์!”
“...” สองขาหยุดนิ่ง หมุนตัวไปยังต้นเสียง
“มานี่หน่อยสิวะ” เคนตะโบกมือให้เข้ามาด้านในห้องนั่งเล่น
“มีไร” เสียงราบเรียบเอ่ยทันทีที่หย่อนตัวนั่งตรงกันข้าม
“ไม่คิดจะไปเปิดหูเปิดตาบ้างเหรอวะ”
“ไม่” คูเปอร์ตอบโดยไม่ต้องคิด
“เชื่อกู ดีกว่ามึงอยู่แบบนี้”
“...” เมื่อโดนโน้มน้าวคูเปอร์ก็นิ่งไม่พูดอะไรต่อ
“มึง...ไม่คิดอยากปลดปล่อย ระบายอารมณ์แบบผู้ชายบ้างเหรอวะ กูพาไปได้นะ” เพราะรู้ดีว่าน้องชายไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรือชายตามองผู้หญิงอย่างที่ควรจะเป็น บางทีการได้ปลดปล่อยอาจจะช่วยให้อ่อนโยนกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
“ฉันไม่ได้สำส่อนแบบมึง” ทว่าคูเปอร์กลับย้อนใส่คนเอ่ยชวนเต็มน้ำเสียง
“อ้าว! ไอ้นี่ คนอุตส่าห์หวังดี แล้วกรุณาพูดซะใหม่ เดี๋ยวนี้กูมีเมียรักเมียคนเดียวเว้ย” เคนตะยักคิ้วอย่างภาคภูมิใจในสิ่งที่เอ่ยออกมา “แล้วมือไปโดนไรมาวะ” ก่อนที่นัยน์ตาสีน้ำข้าวจะเหลือบไปเห็นรอยแตกนั่น
“ระบายอารมณ์แบบผู้ชาย” คูเปอร์ปรายตามองเนื้อที่แตกแล้วยกขึ้นมาเท้าศีรษะตัวเอง เพื่อให้อีกฝ่ายเลิกสนใจ
เคนตะทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย “กูไม่รู้จะพูดอะไรกับมึงแล้ว”
นิสัยชอบทำร้ายร่างกายตัวเองเมื่อไหร่มันจะเลิกสักที
เจ็บปวดทางใจไม่พอ ต้องมารักษาทางกายอีก
เป็นเอาหนัก!
“...” สายตาและท่าทีของพี่ชายคนกลาง ทำให้คูเปอร์ปรายตาไปทางอื่น เพื่อหลบเลี่ยงความรู้สึกนึกคิดบางอย่างที่เก็บซ่อนเอาไว้
“เอางี้ ไหน ๆ มึงก็ว่างไปโชว์รูมเป็นเพื่อนกูหน่อย” คนที่อยากช่วยประโลมความรู้สึกน้องชาย หาทางไปเรื่อย
“ไม่ไป” เสียงแข็งตอบปฏิเสธทันที
“มึงต้องไป กูขอล่่ะ”
“...” คูเปอร์ก็เงียบ
“กูจะไปดูรถเป็นของขวัญเค้ก น่ะ! ไปช่วยกูเลือกหน่อย” ในเมื่อชวนดี ๆ ไม่ได้จึงต้องหาข้ออ้าง
“...” คูเปอร์ยังคงเงียบใส่เหมือนเดิม
“เค้กก็น้องสาวมึงเหมือนกันนะเว้ย ไม่เห็นแก่กูก็เห็นแก่น้องบ้าง”
ฟึ่บ! ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันที
“เฮ้ย! ฟังที่กูพูดไหมวะ”
“นี่ไง จะไปแต่งตัว” เพราะไม่อยากขัดใจจึงยอมไปเพื่อตัดปัญหา
เคนตะแสยะยิ้มอย่างดีใจ หวังว่าน้องชายจะเปลี่ยนตัวเองได้บ้าง ถ้าหากได้เห็นของสวย ๆ งาม ๆ หรือถึงแม้จะไม่สนใจอย่างแรกที่เขาคิดไว้ ทว่าที่นั่นยังมีรถที่เป็นของรักของชอบคูเปอร์ มันอาจจะช่วยสลัดความคิดหมองมัวทิ้งได้ชั่วขณะ
