บทที่ 7
บทที่ 7
ปอร์เช่มองคนตัวเล็กวิ่งจากลานหน้าตึกไป เขาหน้าเจื่อนเพราะอาสาที่จะรับโทษแทนแต่ก็โดนปฏิเสธ อีกทั้งสีหน้าของเธอยังนิ่งเรียบราวกับไม่ได้รู้สึกดีที่เขาจะช่วย
“ยังไม่ต้องนั่ง” รุ่นพี่เอ่ยเสียงเข้ม ปอร์เช่กำลังจะนั่งลงที่เดิมของตัวเองก็ชะงักแล้วมองหน้าคนพูดด้วยแววตาสงสัย
“น้องเห็นดีเห็นงามกับเพื่อนที่ทำผิด พี่ก็จะลงโทษน้องด้วย!”
“ผมไม่ได้เห็นดีเห็นงามสักหน่อย ผมเห็นว่าเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผมก็เลยช่วยรับโทษ” ปอร์เช่เกาหัวตัวเองแกรก ๆ เขาไม่มีปัญหาหากจะต้องโดนลงโทษ แต่เขาก็สงสัยว่าเขาไปเห็นดีเห็นงามด้วยยังไง ที่จะรับโทษแทนก็เพราะอยากสานสัมพันธ์กับเธอคนนั้นต่างหาก
ตอนที่เธอโดนรุ่นพี่ดุ เขาหันไปก็เห็นว่าเป็นคนเดียวกับที่เขาถูกตาต้องใจจากที่ผับ เขาถึงได้ขอรับโทษแทนเพราะจะได้เนียนทำความรู้จักกับเธอต่อ แต่ก็ผิดไปจากที่คิดเอาไว้
“ฮึ! ถ้าอย่างนั้นน้องตอบมาว่าเพื่อนคนนั้นชื่ออะไร”
ปอร์เช่ถอนหายใจออกมาพรืดยาว เขาจะรู้ได้ยังไงในเมื่อเพื่อนคนนั้นลืมป้ายชื่อจนโดนลงโทษ รุ่นพี่อยากจะลงโทษเขาด้วยอีกคนมากกว่า ถึงได้พยายามหาทางมาให้เขาผิดไปด้วย
“ผมไม่รู้” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“ถ้าไม่รู้ก็ไปวิ่งรอบตึกคณะ!”
ปอร์เช่กระตุกยิ้ม บทลงโทษแบบนี้เขาชอบ เพราะถือว่ารุ่นพี่ช่วยเปิดทางให้เขาได้ตามเธอไปอยู่กันตามลำพัง
สีหน้าของปอร์เช่นที่ดีใจจนออกนอกหน้าทำให้รุ่นพี่ต่างพากันงุนงง ลงโทษให้เหนื่อยแต่รุ่นน้องกลับทำหน้าเหมือนชอบ ทั้งยังรีบวิ่งออกไปแบบไม่อิดออดเลยสักนิด
ปอร์เช่เร่งฝีเท้าให้ไวที่สุดจนเจอกับมิลินที่วิ่งเหยาะ ๆ อยู่ เธอหันหน้ามาเห็นเขาเข้าก็เบิกตาโตด้วยความตกใจ
“รุ่นพี่ลงโทษเราด้วย” ปอร์เช่ยิ้มกว้างเขาวิ่งเหยาะ ๆ อยู่ข้าง ๆ มิลิน ไม่ได้เร่งความเร็วเหมือนตอนที่พุ่งตัวออกมาจากลานหน้าตึก
มิลินไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะเธอไม่ได้ถามเขาตั้งแต่แรก หญิงสาวมองตรงไปข้างหน้าแล้วเดินแทน ตรงนี้เป็นหลังตึกยังไงพวกรุ่นพี่ก็มองมาไม่เห็น เธอขี้เกียจรีบกลับเข้าไปที่เดิม เดินอยู่ตรงนี้ยังดีซะกว่า
“เธออยากอู้เหรอ”
หญิงสาวตวัดสายตาไปมองคนข้าง ๆ เขาพูดตรงซะจนเธอกลัวว่าเขาจะเอาไปฟ้องรุ่นพี่ แต่ก็คงไม่ใช่อย่างที่ระแวงเพราะเมื่อกี้เขายังออกมาขอรับโทษแทนอยู่เลย มิลินสะบัดศีรษะเบา ๆ แล้วเดินต่อช้า ๆ
“ถ้าเธออยากอู้ เรานั่งพักกันก่อนไหม แล้วค่อยวิ่งกลับไป” ปอร์เช่เอ่ยออกมา ถ้าเธอตอบตกลงจะนั่งอู้อยู่ตรงนี้ก็จะได้หาเรื่องคุยกันได้มากหน่อย
แต่ทว่ามิลินกลับถอนหายใจแล้ววิ่งเหยาะ ๆ เหมือนเดิม ปอร์เช่เห็นว่ามิลินปฏิเสธคำชวนของตัวเอง เขาก็วิ่งตามเธอไป
“เธอลืมเอาป้ายมาเหรอ ทำไมถึงลืมเอามาล่ะ”
มิลินไม่ตอบอะไรเหมือนเดิม เพราะเธอขี้เกียจพูดอะไร วิ่งไปด้วยพูดไปด้วยก็ยิ่งเหนื่อย หญิงสาวจึงวิ่งต่อไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่ได้สนใจเพื่อนข้าง ๆ
“เธอเรียนสาขาอะไรเหรอ เผื่อว่าจะเป็นสาขาเดียวกัน” ปอร์เช่ชวนคุยแต่เธอก็ยังเอาแต่เงียบ เขาไม่อยู่ในสายตาของเธอเลยด้วยซ้ำ
“เธอมีเพื่อนมาเรียนบ้างปะ เราไม่มีเลย เพื่อนเราไปเรียนที่อื่นกัน”
แต่เขาก็ไม่ยอมลดละที่จะชวนคุย เห็นว่าใกล้จะครบรอบแล้วเขาก็ยังชวนคุย
“เธอชื่ออะไรเหรอ เราชื่อปอร์เช่นะ”
มิลินไม่ตอบ แต่เธอก็หันไปมองป้ายชื่อที่ชายหนุ่มเอาให้ดู
“ที่เราโดนทำโทษเพราะเราตอบรุ่นพี่ไม่ได้ว่าเธอชื่ออะไร”
“มิลิน” มิลินตอบสั้น ๆ เพื่อตัดรำคาญไป และตอนนี้ก็ครบรอบพอดี
สีหน้าของปอร์เช่ประกายความเสียดายออกมา พอได้รู้ชื่อของเธอแล้วก็ต้องกลับเข้าไปรวมตัวกันทำกิจกรรมต่ออีก ไม่ได้คุยเพื่อสานสัมพันธ์ต่อเลย
มิลินเดินกลับเข้าไปนั่งลงที่เดิมของตัวเอง เธอเอาพัดลมมือถือออกมาเปิดเพื่อคลายร้อน ใบหน้าของเธอมีแต่เม็ดเหงื่อที่ผุดพราย
