บทที่ 6
บทที่ 6
“ยัยมิลิน!” มินนี่หันซ้ายหันขวามองท่าทางของรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ เห็นว่าไม่มีใครสนใจก็เลยหันมาถลึงตาใส่เพื่อนรัก
“กูหุบปากก็ได้” มิลินยู่หน้าใส่เพื่อนแล้วก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ต่อ
“น้อง ๆ หันหน้าเข้าหาเพื่อนแถวข้าง ๆ เลยค่ะจะได้ทำความรู้จักกันนะคะ” เสียงรุ่นพี่ดังก้องไปทั่ว แต่มิลินยังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่เหมือนเดิม จนมินนี่ต้องสะกิดเรียก
หญิงสาวถอนหายใจแล้วนั่งหันหน้าเข้าหาเพื่อนแถวข้าง ๆ ตามคำสั่งของสาวรุ่นพี่ อีกฝ่ายหน้าตายิ้มแย้มเป็นมิตร ทว่ามิลินกลับทำหน้านิ่ง ๆ จนคนตรงหน้าต้องหลบตาลง
“จะก้มหน้าทำไม เราไม่ได้ดุซะหน่อย” มิลินเอ่ยขึ้นมา เธอรู้ตัวว่าหน้าตัวเองไม่ค่อยเป็นมิตรกับใคร เธอเลยคลี่ยิ้มบางให้
“น้อง ๆ อ่านชื่อเพื่อนจากป้ายที่ห้อยคอค่ะ อ่านทีละคนนะคะ”
‘พิมพ์’ มิลินมองป้ายชื่อของคนตรงหน้า แล้วเลื่อนสายตาขึ้นมองใบหน้าของพิมพ์
“ป้ายชื่อของเธอล่ะ” พิมพ์เอ่ยถาม มิลินก้มมองตัวเองถึงได้รู้ว่าไม่ได้เอาป้ายมาคล้องคอไว้
หญิงสาวเปิดกระเป๋าใบเล็กแล้วควานหาป้ายชื่อ ใบหน้าของเธอเจื่อนลง แล้วเอามือลูบใบหน้าตัวเองแรง ๆ
“จะถึงแถวเราแล้วนะ”
หัวใจของมิลินพลันเต้นแรง พิมพ์บอกว่าจะถึงแถวเราแล้ว เธอก็เหลือเวลาอีกแค่นิดเดียวที่จะต้องหาให้เจอ
“มึงลืมเหรอมิลิน” มินนี่เอ่ยถามเบา ๆ เพราะกลัวว่ารุ่นพี่จะได้ยินเข้า
“กูเปลี่ยนกระเป๋าแล้วลืมเอาใส่มาด้วย” เธอไม่ได้เอากระเป๋าใบเดิมมาเพราะไม่อยากเอาของแพง ๆ มาวางกับพื้น
“น้องอ่านชื่อเพื่อนเลยค่ะ”
มิลินหันไปมองหน้ารุ่นพี่แล้วค่อยหันกลับมามองหน้าเพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับตัวเอง
“พิมพ์” เธอเอ่ยเสียงดังเหมือนคนอื่น
“น้องพิมพ์อ่านชื่อเพื่อนสิคะ” รุ่นพี่เห็นว่าพิมพ์เงียบไป เธอเอะใจก็เลยเดินเข้ามาใกล้ ๆ จนเห็นว่ามิลินไม่ได้คล้องป้ายชื่อเอาไว้
“ลืมเหรอน้อง”
“ค่ะ”
“เมื่อวานพี่กำชับแล้วนะว่าห้ามลืม ทำไมน้องไม่ใส่ใจเลย พี่ทำกิจกรรมให้ได้รู้จักกัน เพื่อน ๆ เขาเอามากันหมด มีน้องแค่คนเดียวที่ไม่ได้เอามา” รุ่นพี่พูดเสียงดังจนสายตาทุกคู่หันมามองอยู่ที่เธอคนเดียว
มิลินทั้งอายทั้งโกรธที่โดนต่อว่าแบบนี้ แต่เธอก็เก็บอารมณ์ของตัวเองเอาไว้เพราะเธอเป็นฝ่ายผิด ถ้าไม่ลืมเอามาก็คงไม่โดนต่อว่าให้อับอาย
“ลุกขึ้นยืนเลยค่ะน้อง ต้องได้รับบทลงโทษนะ” รุ่นพี่ผู้หญิงผมสั้นตะโกนมาจากทางด้านหน้า
“เดี๋ยวผมรับโทษแทนเองครับ” เสียงทุ้มดังขึ้นมา เจ้าของเสียงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
มิลินขมวดคิ้วมุ่นเพราะเธอไม่ได้ต้องการให้ใครมารับโทษแทน เธอทำผิดเธอก็สมควรที่จะต้องได้รับบทลงโทษ
“ไม่ต้อง!” มิลินเอ่ยออกมา ก่อนจะลุกขึ้นยืน
“บทลงโทษคืออะไรคะ” หญิงสาวหันไปถามรุ่นพี่
“เดี๋ยวรับโทษให้เอง เธอนั่งกับเพื่อนเถอะ”
“ขอบคุณนะ แต่ไม่ต้อง ฉันจะไปวิ่งรอบคณะเอง นายไม่ต้องมาช่วย” มิลินหันไปพูดกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่แถวถัดไป เธอปฏิเสธความหวังดีของเขาเสียงเข้มเพื่อไม่ให้เขาเอ่ยอะไรออกมาอีก
รุ่นพี่มองทั้งสองคนสลับกันด้วยความงุนงง เพราะเธอเองก็ยังไม่ได้สั่งให้ทำอะไร แต่มิลินดันบอกว่าจะไปวิ่ง
“ไปวิ่งรอบตึกคณะ” รุ่นพี่ลงโทษตามที่มิลินพูด ทั้งที่เธอตั้งใจว่าจะลงโทษเบา ๆ เพราะเป็นความผิดครั้งแรก
“ค่ะ” มิลินเดินออกมาจากแถวแล้วทำตามบทลงโทษที่รุ่นพี่สั่ง
