บทที่ 5
บทที่ 5
ร่างเล็กยังนอนกลิ้งเกลือกอยู่บนเตียงทั้งที่เสียงนาฬิกาปลุกดังอยู่นานแล้ว มิลินเอื้อมไปกดปิดเสียงนาฬิกาเพื่อตัดความรำคาญ แต่หญิงสาวก็ยังนอนกลิ้งไปมาอยู่อย่างนั้น
ไม่อยากไปมหาลัยเลย! มิลินเบะปากคว่ำ กิจกรรมต้อนรับน้องเฟรชชี่ยังมีวันนี้อีกวันนึง เธอถึงได้เบื่อไม่อยากไปเข้าร่วม หากแต่จะโดดกิจกรรมก็ไม่ได้ เพราะรุ่นพี่ขู่เอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าจะมีผลไปถึงคะแนนกิจกรรม
“เบื่อ!!!” มิลินนั่งแล้วเอาตุ๊กตัวหมีมากอดแน่น หน้าตาของเธององ้ำยังไม่อยากลุกไปอาบน้ำ แต่ก็เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว หญิงสาวเลยจำใจลงจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัว
บิดาและมารดาของเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร ท่านมองหน้าลูกสาวด้วยความงุนงงเพราะสีหน้าของมิลินไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ท่าเดินก็เหมือนคนอ่อนแรง
“เป็นอะไรมิลิน ทำไมหน้าตางอแงอย่างนั้น” มารดาเอ่ยถามขึ้นมา
“ไม่อยากไปมหาลัยเลยค่ะแม่” มิลินนั่งลงโดยที่ไม่ได้มองพ่อและแม่เลย แม่บ้านเอาข้าวต้มร้อน ๆ มาเสิร์ฟให้ เธอก็เอาแต่เขี่ยข้าวอย่างกับรสชาติแย่มากจนกินไม่ลง
“ตอนแรกมิลินยังนับวันรอไปเรียนอยู่เลยนิ” บิดาอมยิ้มด้วยความเอ็นดู จบม.6 มามิลินก็เตรียมพร้อมที่จะเข้ามหาวิทยาลัยทุกอย่าง รีบซื้อชุดเอาไว้ด้วยความตื่นเต้น แต่ไปแค่วันเดียวลูกสาวของเขาก็งอแงไม่อยากไปซะแล้ว
“ไปแล้วไม่ได้เข้าเรียนนิคะ” มิลินตักข้าวต้มส่งเข้าปากแล้วช้อนตามองบิดา นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย
“ไม่ได้เข้าเรียน?” มารดาเอ่ยถาม
“เขาให้ไปนั่งทำกิจกรรมต้อนรับเฟรชชี่ มิลินเบื่อมาก ๆ ค่ะ” หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เธออยากไปเข้าเรียนในห้องแอร์เย็น ๆ แต่ดันต้องไปนั่งตากแดดร้อน ๆ ทำกิจกรรม
พ่อและแม่มองหน้ากัน ท่านเห็นใจลูกสาว เพราะตั้งแต่เกิดมามิลินก็ได้ใช้ชีวิตสะดวกสบายมาโดยตลอด แต่ก็เข้าใจว่าเป็นกิจกรรมซึ่งเลี่ยงไม่ได้
“แต่มิลินก็ทำใจแล้วล่ะค่ะ วันนี้อีกวันเดียวที่ต้องทนร้อน” มิลินระบายยิ้มบาง เธอเหลือบตาไปเห็นนาฬิกา ดวงตากลมพลันเบิกโต
“ว้าย จะสายแล้ว มิลินขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวรีบลุกจากโต๊ะแล้ววิ่งออกมาที่รถของตัวเอง
เธอเอาแต่เบื่อและเซ็งกับการที่ต้องมามหาลัย เลยชักช้าจนเกินไปเกือบจะสายอยู่แล้วเชียว หญิงสาวจอดรถไว้แล้วรีบวิ่งมาที่หน้าตึกคณะ เห็นเพื่อนของตัวเองยืนชะเง้อมองหาอยู่
“เขาเรียกรวมยังวะ” มิลินยืนหอบอยู่ตรงหน้าเพื่อน
“เพิ่งเรียกเมื่อกี้เลย”
มิลินพรูลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ ทันเวลาได้แบบเฉียดฉิว หากมาช้ากว่านี้ก็คงต้องโดนลงโทษอีกแน่ เธอเห็นเมื่อวานก็มีคนโดนไปแล้ว
“แล้วทำไมถึงมาช้าล่ะ เป็นอะไรหรือเปล่า” มินนี่เอ่ยถาม เธอต่อสายหามิลินไปหลายสายแต่มิลินไม่ได้รับสายเลย
“มัวแต่ทำใจมานี่น่ะสิ กูขับรถอยู่ก็เลยไม่ได้รับสายมึงเลย” มิลินได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังแล้ว แต่ตอนนั้นเธอรีบขับรถก็เลยไม่ได้ล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมา
“กูก็เป็นห่วง นึกว่ามึงเป็นอะไร”
“ขอโทษที” มิลินยิ้มแห้ง แล้วเดินไปนั่งรวมกับคนอื่นที่ลานหน้าอาคาร
มิลินไม่ค่อยได้ฟังรุ่นพี่พูดสักเท่าไหร่ เธอก้มหน้าเล่นโทรศัพท์เผื่อว่าจะช่วยลดความเบื่อหน่ายลงได้บ้าง ที่รุ่นพี่พูดก็เห็นมีแต่เรื่องเดิม ๆ
“พูดไปแล้วจะพูดอีกทำไมวะ” มิลินเบะปากและมองบน พูดซ้ำ ๆ อยู่นั่นแหละ! แม้ว่าเธอจะพูดพึมพำ แต่เพื่อนปี 1 บางคนก็ได้ยินแล้วหันมาอมยิ้ม
“มึงบ่นเบา ๆ หน่อย เดี๋ยวก็โดนเล่นงาน” มินนี่เห็นว่าคนอื่นก็ได้ยินเลยเตือนเพื่อน หากรุ่นพี่ได้ยินเข้า มิลินอาจจะโดนลงโทษ
“ได้ยินก็ดีสิ จะได้รู้ว่าเบื่อ! อยากมาเรียน ไม่ได้อยากมานั่งร้อน ๆ แบบนี้นิ” มิลินเพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้น เธอจงใจที่จะให้มีคนได้ยิน
