บทที่ 4
บทที่ 4
มหาวิทยาลัย
มิลินในชุดนักศึกษาพอดีตัวดึงสายตาจากคนแถวนั้นไว้ รูปร่างของเธอสมส่วน ผิวพรรณขาวผ่อง ทั้งยังขับรถหรู ประกาศฐานะอยู่ในตัว กลายเป็นที่ฮือฮาในชั่วพริบตา
มิลินย่นคิ้วเข้าหากัน สายตาของเธอไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่ เพราะไม่ชอบที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาแบบนี้ และบางคนก็ไม่ได้มองด้วยความชื่นชมเธอซะด้วย
“เบะปากซะงั้น” มิลินกลอกตาไปมาแล้วเบะปากใส่ ถึงเธอจะเป็นเฟรชชี่ปีหนึ่ง แต่ก็ใช่ว่าจะยอมให้พวกรุ่นพี่มามองด้วยความหมั่นไส้อย่างนั้น
สาว ๆ ต่างพากันซุบซิบว่าสาวสวยคนนี้ท่าทางจะเป็นตัวแม่ของมหาลัยในไม่ช้า ทั้งสวยเริ่ดเชิดซะขนาดนี้ และยังไม่ยอมใครอีก
มิลินเดินมาถึงตึกคณะนิเทศศาสตร์ เธอก็กวาดตามองหาเพื่อนสนิทที่มาเรียนด้วยกัน
“มิลินทางนี้” มินนี่ตะโกนเรียก
มิลินเดินผ่านพวกรุ่นพี่ที่มองจิกเธออยู่ เธอก็ตวัดสายตาไปมองจนอีกฝ่ายตกใจ หญิงสาวยกยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
“สวัสดีค่ะพี่ มองหนูแบบนี้ มีอะไรปะคะ” น้ำเสียงของเธอยียวน
“ไม่มี”
“ก็นึกว่ามีซะอีก เห็นสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรเลย” มิลินยิ้มเหยียดหยามรุ่นพี่ นึกว่าจะแน่สักแค่ไหน
“มีอะไรวะ” มินนี่เห็นว่ามิลินหยุดคุยกับรุ่นพี่ ท่าทางของแต่ละคนไม่ค่อยดีเอาซะเลย เธอเลยเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“มองเหยียดกู แต่พอกูถามบอกไม่มีอะไร” มิลินเบะปากคว่ำ
“มึงอย่าเพิ่งออกตัวมาก วันนี้มีงานต้อนรับเฟรชชี่ เดี๋ยวจะโดนมันแกล้งเอา”
“ฮะ งานต้อนรับอะไรวะ”
“ก็เหมือนรับน้องนั่นแหละ”
มิลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอไม่อยากเข้าร่วมกิจกรรมนี้เลย ยังไม่ได้พูดคุยกับเพื่อนสนิทต่อ รุ่นพี่ก็ประกาศเรียกให้ไปนั่งรวมกันอยู่ที่ลานหน้าตึก
“ทำไมต้องให้มาร่วมกิจกรรมอะไรแบบนี้ด้วย” มิลินเอ่ยออกมา หน้าตางอง้ำ มือก็ลูบคลำกระเป๋าราคาแพงที่วางอยู่บนตัก เธอไม่อยากวางลงกับพื้นเดี๋ยวกระเป๋าจะเปรอะเปื้อนเอาได้
“กูโคตรเบื่อ” มินนี่เอ่ยออกมา รุ่นพี่เอาแต่พูดยาวเหยียด เธอไม่ได้สนใจที่จะฟังเลยสักนิด
“เห็นว่าเป็นกิจกรรมของคณะนะ ไม่งั้นก็ลุกหนีกลับบ้านละ” มิลินเอากระดาษทิชชูมาซับเหงื่อที่ซึมอยู่ตามกรอบหน้า อยู่บ้านแอร์เย็นฉ่ำ แต่พอมาอยู่มหาลัยต้องมาทนนั่งตากแดดร้อน ๆ
“เดี๋ยวน้อง ๆ เขียนชื่อตัวเองไว้บนป้ายเลยนะคะ แล้วเอาคล้องคอไว้เลย เพื่อน ๆ จะได้รู้จักนะ” รุ่นพี่ตะโกนเสียงดัง
“กูว่าพี่คนนี้ต้องเสียงแหบแน่” มิลินกระซิบคุยกับมินนี่แล้วพากันหัวเราะ
“ขำอะไรกัน รับกระดาษไปเขียนชื่อสิน้อง” รุ่นพี่ที่ยืนล้อมอยู่สะกิดที่ไหล่ของมิลิน
หญิงสาวยักไหล่แล้วรับกระดาษจากเพื่อนข้างหน้ามาเขียนชื่อตัวเองลงไป แล้วคล้องคอไว้ ก่อนจะหันไปมองเพื่อนสนิท
“ถึงยังไงกูก็คงรู้จักกับมึงแค่สองคนนี่แหละ” มิลินเข้าหาใครไม่เก่งทั้งที่อยากมีเพื่อนเพิ่ม หน้าตาของเธอหากไม่ยิ้มก็ดูดุ แล้วแบบนี้ใครจะอยากมาเป็นเพื่อนกับเธอกันล่ะ
หญิงสาวถอนหายใจแล้วมองเพื่อนปีหนึ่งที่กำลังทำความรู้จักกันไว้ พอมีใครหันมามองที่เธอ เธอก็ลองยิ้มให้ แต่อีกฝ่ายกลับหลบตา
“ฮ่า ๆ มึงอย่าพยายามเลยมิลิน” มินนี่หัวเราะร่วน
“กูน่ากลัวตรงไหนวะ” มิลินเกาหัวตัวเองด้วยความงุนงง เธออุตส่าห์ยิ้มทักกลับหลบหน้าเธอซะงั้น
มิลินหยุดความคิดที่จะหาเพื่อนเพิ่มอีก ให้คนอื่นเป็นฝ่ายเข้าหาเธอแทนก็แล้วกัน หญิงสาวนั่งกอดกระเป๋าฟังรุ่นพี่พูดต่อไป จนกระทั่งได้เวลากลับบ้าน
“แยกย้ายกันกลับบ้านได้ค่ะ วันพรุ่งนี้เรามารวมกันที่นี่เวลาเดิมนะคะ”
“ยังมีต่ออีกเหรอ” มิลินเอ่ยถามเสียงดัง สายตาของเพื่อนปีหนึ่งต่างหันมามองที่เธอ
“มีต่อค่ะน้อง” น้ำเสียงของรุ่นพี่ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่
มิลินถอนหายใจแล้วพยักหน้าเพื่อสื่อว่าตัวเองเข้าใจแล้ว เธอจะไปค้านอะไรได้เพราะรุ่นพี่พูดกรอกหูอยู่ตลอดว่าเป็นกิจกรรมของคณะ
หญิงสาวกลับมาที่บ้านด้วยท่าทางอ่อนแรง คนรับใช้รีบเอาน้ำหวานมาเสิร์ฟให้เพราะเห็นสีหน้าของคุณหนูไม่ค่อยดี
“เหนื่อยเหรอคะ”
“เหนื่อยค่ะ ร้อนมาก ๆ เลย มิลินขึ้นไปนอนบนห้องก่อนนะคะ” หญิงสาวดื่มน้ำหวานหมดแก้วแล้วส่งคืนให้คนรับใช้ เธอเดินขึ้นไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ๆ ในห้องแอร์เย็น ๆ แล้วหลับไปในทันที
