บทที่ 3
บทที่ 3
“ยัยมิลิน หนูรูดซื้ออะไรไปเนี่ย” เสียงแหลมแผดดังจนมิลินต้องเอามือขึ้นปิดหู ดวงตาคู่สวยมองไปที่มารดา ท่านทำท่าคล้ายจะเป็นลมจนคนรับใช้ต้องเอายาดมมาให้
“ฮ่า ๆ คุณไม่ชินเหรอ” ชายวัยกลางคนมองลงมาจากราวบันไดที่เคลือบสีทอง เขาหัวเราะให้กับท่าทางของภรรยา ช็อกถึงขั้นที่ต้องมีคนคอยประคองเอาไว้เลยเหรอ
เขาเห็นภรรยาของตัวเองเป็นแบบนี้อยู่บ่อย ๆ เวลาที่เห็นบิลบัตรเครดิต เธอน่าจะชินได้แล้วแต่ทว่าก็ไม่เห็นจะชินสักที
“คุณดูบิลก่อนเถอะค่ะ ยัยมิลินเอาไปรูดซื้อมาทั้งห้างเลยมั้ง”
“เวอร์ไปค่ะคุณแม่” มิลินหน้างอใส่มารดา ท่านพูดเกินจริงไปมากเพราะบิลก็ไม่ได้สูงไปจากเดิมสักเท่าไหร่ หญิงสาวรับเสื้อสูทของบิดามาถือไว้อย่างเอาใจ จะได้มีคนช่วยไม่ให้ตัวเองต้องถูกแม่ดุ
“ไม่เวอร์หรอก รูดซื้ออะไรไปเป็นล้าน”
“กระเป๋าค่ะ” มิลินตอบออกไปตรง ๆ เธอเอาไปซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมคอลเลกชันใหม่ อุตส่าห์ไปซื้อมาจนได้ หากช้ากว่านี้เธอก็คงอดแน่ ๆ เพราะยังมีอีกหลายคนที่เข้ามาซื้อแต่ก็ต้องพลาดไป
“ยัยมิลิน แกซื้อกระเป๋าอะไรขนาดนั้น”
“กระเป๋าน่ะส่วนนึง แต่ก็มีซื้อเสื้อผ้า ซื้อเครื่องประดับด้วยค่ะ” เธอตอบว่ากระเป๋าเพราะมูลค่าสูงกว่าอย่างอื่น ไม่ใช่ว่ากระเป๋าใบละเป็นล้านสักหน่อย
“ซื้ออะไรนักหนา ในห้องแกแม่เห็นกระเป๋าเต็มตู้”
มิลินอ้ำอึ้งพูดไม่ออก เธอชื่นชอบกระเป๋าแบรนด์เนมแล้วซื้อมาสะสมเอาไว้จนเต็มตู้ หญิงสาวยังคิดว่าคงต้องซื้อตู้เพิ่มด้วยซ้ำ
“ก็มิลินชอบนิคะแม่” มิลินเอ่ยเสียงแผ่ว เธอกอดแขนบิดาแน่นเพื่อให้ท่านช่วยพูด
“เอาน่าคุณ ลูกชอบอะไรก็ให้ลูกซื้อไปเถอะ” บิดาของมิลินเป็นเจ้าของโรงพยาบาล ฐานะของเขาร่ำรวยพอสมควร เปย์ลูกแค่นี้เขาไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
หญิงวัยกลางคนถอนหายใจออกมาพรืดยาว สามีของเธอตามใจลูกสาวเสมอ ปกติเธอก็ไม่ขัดแต่ถ้าเยอะเกินไปก็ต้องปรามไว้บ้าง
“อย่าดุเลยค่า มิลินสัญญาว่าจะซื้อให้น้อยลง” มิลินกอดมารดาบ้าง ท่านจะได้ใจอ่อนไม่ดุเธอต่อ
“ให้จริงเถอะ” ท่านค้อนใส่แต่สีหน้าก็มีรอยยิ้มประกายอยู่ ท่านแพ้ความอ้อนของลูกสาวอยู่เสมอ พอดุก็ดุได้แค่แป๊บเดียว เดี๋ยวก็ใจอ่อนให้
มิลินอมยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่ใช่ครั้งแรกซะหน่อยที่เธอสัญญา แต่ทว่าเธอก็ไม่เคยรักษาสัญญาไว้ได้เลย เห็นคอลเลกชันใหม่ทีไรก็พร้อมจะไปซื้อมาไว้ครอบครองเสมอ เธอคิดว่าพ่อและแม่ก็รู้ทัน เพียงแต่ท่านไม่อยากดุต่อแล้ว
หญิงสาวเดินไปส่งพ่อแม่ที่รถเก๋งสีดำ คนขับรถเอามาจอดรออยู่ที่หน้าประตูบ้าน แล้วกลับขึ้นมาที่ห้องนอนของตัวเอง
“ไปมหาลัยทั้งที ก็ต้องไปแบบปัง ๆ” หญิงสาวอมยิ้มขณะที่สายตาตรึงอยู่ที่ตู้เก็บกระเป๋า กระเป๋าใบใหม่ที่เธอเพิ่งซื้อมา เธอตั้งใจจะเอาไปมหาวิทยาลัยในวันแรก แล้วค่อยเปลี่ยนไปใช้ใบอื่นทีหลัง
ก๊อก ก๊อก มิลินหันขวับไปที่ประตู แล้วเปิดให้คนรับใช้เข้ามาข้างใน เธอสั่งให้เอาขนมและน้ำหวานมาเสิร์ฟ วันนี้เธอจะนอนเกลือกกลิ้งดูซีรีส์อยู่ในห้องทั้งวัน เพราะพรุ่งนี้เธอจะต้องไปเรียนแล้ว
