บท
ตั้งค่า

บทที่4

บทที่4

วันต่อมาหลินอี้ก็เข้าไปในเมืองตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อไปซื้อของ ส่วนนางและผู้เฒ่าเหอซานก็ดูแลเด็กทั้งสองคน จนกระทั่งหลินอี้กลับมาก็ลงมือสนเปลให้กับเด็กทั้ง

" อาอวิ๋น พอได้หรือไม่ " หลินอี้เอ่ยถามหลี่ฝูอวิ๋นทันทีที่สานเปลเสร็จ

หลี่ฝูอวิ๋นจึงเดินเข้าตรวจสอบผลงานของเขา " ใช้ได้แล้ว ที่เหลือก็นำฟู่มารอง " 

" รออีกนิดนะหลานอา เดี๋ยวเจ้าก็ได้นอนเปลสบายๆ " กล่าวจบหลินอี้ก็เดินไปหยิบฟู่ที่พึ่งซื้อมาวางลงที่เปล จากนั้นก็ให้หลี่ฝูอวิ๋นก็วางจื่อหย่งลงไปที่เปล 

" เเอ้..เอิ๊ก..อ๊า " แล้วเสียงหัวเราะชอบใจของจื่อหย่งก็ดังขึ้นเมื่อหลี่ฝูอวิ๋นวางเขาลงที่เปลสาน

" ดูท่าอาหย่งจะชอบสินะ " ผู้เฒ่าเหอซานเดินเข้ามาในอ้อมมือก็อุ้มจื่อเยียนที่นอนกลับสนิทในอ้อมแขน จากนั้นวางลงข้างจื่อเหยียนลงข้างจื่อหย่งอย่างเบามือแล้วเอ่ยต่อ " อาหย่ง พี่สาวเจ้าหลับแล้วอย่ากวนพี่สาวเข้าล่ะ " ดูเหมือนจื่อหย่งจะเข้าใจที่ผู้เฒ่าเหอซานกล่าวจึงหยุดขยับมือไปมา

" เด็กดี " หลี่ฝูอวิ๋นยื่นมือไปลูบหัวของจื่อหย่ง เมื่อเห็นว่าเขาเชื่อฟังและว่าง่ายจึงได้หลุดยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูเด็กชาย 

 " ผู้เฒ่าเหอซาน สมุนไพรที่ข้าเก็บมาถูกต้องหรือไม่ " หลี่ฝูอวิ๋นเอ่ยถามผู้เฒ่าเหอซานหลังจากที่เด็กทั้งสองหลับไปแล้ว

" สมุนไพรไพรที่เจ้าเก็บกลับมาเมื่อวานล้วนถูกต้องทั้งหมด " ผู้เฒ่าเหอซานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงชื่นชมอยู่เป็นนัย หลี่ฝูอวิ๋นเป็นคนที่มีพรสวรรค์เป็นอย่าง นางมาอยู่เพียงไม่กี่เดือนมิว่าวิชาตัวเบาหรือวิชาแพทย์ ต่างก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว " เมื่อเช้าข้าได้ฝากอาอี้ซื้อเข็มเงินมาให้เจ้าชุดหนึ่ง ต่อไปข้าจะสองวิชาฝังเข็มให้เจ้า "

" เจ้าค่ะ " หลี่ฝูอวิ๋นจึงเดินตามหลังผู้เฒ่าเหอซานไปยังห้องเก็บสมุนไพร

จากนั้นผู้เฒ่าเหอซานก็ยื่นสมุดภาพให้นางเล่มหนึ่ง ก่อนจะเนิ่มอธิบายจุดต่างในร่างกายของมนุษย์ให้หลี่ฝูอวิ๋นได้ฟัง จนกระทั่งเด็กสองคนตื่นขึ้นหลี่ฝูอวิ๋นจึงขอกลับไปดูแลเด็กทั้งสอง ก่อนไปผู้เฒ่าเหอซานก็เอ่ยขึ้น " อาอวิ๋นเจ้าเอาตำรากลับไปด้วยอ่านและท่องจำให้ขึ้นใจ เมื่อเจ้าจำได้แล้วข้าจะสอนเจ้าฝังเข็ม " 

" เจ้าคะ " หลี่ฝูอวิ๋นขานรับเสียงเรียบ จากนั้นจึงยื่นมือไปรับตำราจากมือผู้เฒ่าเหอ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องเก็บสมุนไพร

หลี่ฝูอวิ๋นเล่มกับเด็กทั้งสอนจนพวกเขาเหนื่อยและหลับไปอีกรอบ นางถึงจะหยิบตำราแพทย์ที่ผู้เฒ่าเหอซานให้ขึ้นอ่าน

หลี่ฝูอวิ๋นทำเช่นนี้จนกระทั่งเด็กสองคนอายุครบปี ช่วงเวลาหนึ่งที่ผ่านมานี้ นางได้รู้แล้วว่าเลี้ยงเด็กทั้งสองคนก็ไม่ง่ายเลย ยังดีที่จื่อเยียนกับจื่อหย่งเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย มิได้งอแงเหมือนเด็กคนบ้านอื่น ทั้งยังมีหลินอี้และผู้เฒ่าช่วยเลี้ยงอีกแล้ว นางจึงพอมีเวลาศึกษาวิชาแพทย์และตำราโอสถบ้าง

ส่วนการเป็นผู้ฝึกตนนั้นนางได้ล้มเลิกไปตั้งแต่สี่เดือนแรก หนทางฝึกตนนั้นช่วงลำบาก ซ้ำนางยังมีเรื่องที่ตนไม่สามารถปล่อยวางได้ นางจึงได้ฝึกเพียงวรยุทธ์กับหลินอี้เท่านั้น

ผู้เฒ่าเหอซานจะลงจากผาชมจันทร์ไปในทุกหนึ่งเดือนเพื่อไปรักษาชาวบ้าน ในทุกครั้งก็จะพาหลี่ฝูอวิ๋นติดไปด้วย เพื่อให้นางได้ฝึกฝนประสบการณ์ และทุกครั้งที่ไปมักจะมีหลินอี้กับเด็กน้อยตัวอ้วนทั้งสองตามลงไปด้วยเสมอ

จนกระทั่งคืนวันหนึ่งที่บรรยากาศรอบๆผาชมจันทร์ดูเงียบผิดปกติ ทันทีที่ตกดึกหลี่ฝูอวิ๋นได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติและเสียงฝีเท้าที่มิใช่หลินอี้เดินเข้ามาที่เตียงที่นางใช้หลับนอน ทันใดนั้นเองฟันดาบลงที่ตัวของนาง 

ทว่าหลี่ฝูอวิ๋นไหวตัวทันจึงพลิกตัวหลบได้ทันท่วงที และคว้ากริชเงินที่ซ่อนไว้ใต้หมอนก่อนจะกระโดดหลบไปด้านหลังของคนร้าย จากนั้นก็นำกริชเงินอยู่ในมือตนแทงจากด้านหลังจนทะลุหัวใจของร้าย จนคนร้ายก็ล้มลงนอนเเน่นิ่งอยู่ที่พื้น 

หลังจากนั้นเสียงการต่อสู้จากด้านนอกพลันดังขึ้นเป็นเวลานานกว่าจะหยุดลง หลี่ฝูอวิ๋นจึงหันไปมองเด็กทั้งสองที่นอนหลับอยู่บนเตียง เมื่อเห็นเด็กทั้งสองยังหลับสนิทพลันถอนหายใจอย่างโล่งอก 

ทว่าประตูห้องพักถูกเปิดออก หลี่ฝูอวิ๋นจึงหมุนตัวแล้วคว้างกริชที่มือในมือออกไป 

หลิงอี้ที่พึ่งเข้ามาในห้องพักของหลี่ฝูอวิ๋นก็มีกริชเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามากะทันหัน เขาเบี่ยงตัวหลบกริชเล่มนั้นได้ทันควัน จึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด" อาอวิ๋นข้าเอง "

เมื่อหลี่ฝูอวิ๋นเห็นว่าผู้มาใหม่หลบกริชที่ตนคว้างออกไป จึงเตรียมที่จะพุ่งเข้าใส่คนผู้นั้น แต่เมื่อได้ยินเสียงของหลินอี้นางจึงหยุดชะงักลง จากนั้นนางจึงหมุนตัวเดินกลับไปจุดเทียน ทันทีที่ภายในห้องสว่างขึ้นหลินอี้ก็พบคนร้ายคนหนึ่งนอนเเน่นิ่งอยู่กับพื้นก็ถามขึ้น " อาอวิ๋น เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่ " 

" ข้าไม่เป็นไร แล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน  เหตุใดจึงได้มีมือสังหาร " หลี่ฝูอวิ๋นกล่าวถามเสียงเรียบ

" เรื่องนี้ไว้ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังทีหลัง " หลินอี้เอ่ยตอบด้วยท่าทีอึดอัดใจ 

" ช่างเถอะ พวกท่านยังไม่เคยถามที่มาของข้า เรื่องนี้ข้าทำเป็นหลับตาข้างลืมตาข้างก็แล้วกัน " หลี่ฝูอวิ๋นกล่าวท่าทีไม่ใส่ใจทั้งที่ยังมีรู้สึกสงสัยอยู่เต็มอก

" ขอบใจเจ้า เจ้าก็นอนเถอะข้าจะจัดการกับศพนี้เอง "

หลี่ฝูอวิ๋นจึงพยักหน้ารับ ก่อนที่หลินอี้จะนำร่างของคนร้ายออกไป นางเดินจึงจุดกำยานเพื่อกลบกลิ่นคาวเลือด ก่อนจะดับไฟแล้วกลับขึ้นไปนอนบนเตียงกับเด็กทั้งสองต่อ 

เช้าของวันถัดมาหลังจากที่หลี่ฝูอวิ๋นจัดการแต่งตัวให้เด็กทั้งสองคนแล้ว จึงจูงมือพาจื่อหย่งกับจื่อเยียนเดินออกจากไปจากห้องพัก ทันทีที่ทั้งสามเดินมาถึงลานกว้างก็พบเข้ากับคนแปลกหน้าสองคน ที่นางไม่รู้จักกำลังพูดคุยกับผู้เฒ่าเหอซานและหลินอี้

แม้ว่าจะอยู่ไกลทว่านางกลับได้ยินที่พวกเขาพูดคุยกันชัดเจน นี่อาจจะเป็นเพราะตนเป็นวรยุทธ์ หูจึงดีกว่าคนที่ไม่มีวรยุทธ์มากนัก จึงบังเอิญได้ยินคนทั้งสี่พูดคุยกันอย่างชัดเจน

" องค์ชายหกเพคะ ฝ่าบาททรงสิ้นพระชนน์แล้วเมื่อคืนก่อน องค์ชายสี่เลยใช้โอกาสนี้ใส่ร้ายองค์รัชทายาทกับพระชายาว่าเป็นผู้ปลงพระชนม์ฝ่าบาท และสังหารทั้งสองพระองค์แล้วเพคะ " สตรีชุดดำกล่าวทั้งน้ำตา

" พระชายารู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้วก็เลยส่งกระหม่อมกับมู่ตานออกมาก่อนแล้วให้มาหาองค์ชายหกกับท่านผู้อาวุโสที่ผาชมจันทร์แห่งนี้พ่ะย่ะค่ะ " ชายแปลกหน้าอีกคนกล่าวเสริม

     ปัง!

เสียงหลิงอี้กำมือแน่นพร้อมกับเอามือทุบโต๊ะเสียงดัง ทันใดนั้นเองจื่อเยียนพลันปล่อยมือจากหลี่ฝูอวิ๋น แล้ววิ่งเข้าไปหาหลินอี้ที่นั่งอยู่กับผู้เฒ่าเหอซาน 

" ป้อ...ท่านป้อ..อุ้ม...อุ้ม... "

       

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel