บท
ตั้งค่า

บทที่5

บทที่5

 " ป้อ...ท่านป้อ..อุ้ม...อุ้ม... " จื่อเยียนที่วิ่งเข้าไปก็กางแขนทั้งข้าวด้วยท่าทีน่ารักน่าเอ็นดู เพื่อที่จะให้หลินอี้อุ้มตน

เมื่อหลินอี้เห็นจื่อเยียนวิ่งเข้ามาก็ได้แต่ระงับอารมณ์ของตนไว้ ก่อนจะล้มตัวลงไปอุ้มจื่อเยียนขึ้นมานั่งบนตักของตน ตอนนี้จื่อเยียนกับจื่อหย่งก็อายุได้ปีกว่าแล้ว กำลังหัดพูดและก็เดิน 

" ท่านแม่...ท่านแม่ "จื่อเยียนที่นั่งตักของหลินอี้ก็ควักมือเรียกหลี่ฝูอวิ๋นที่ยื่นอยู่ที่ห้องประตูห้องพักอย่างร่าเริง 

ทันทีที่หลินอี้เห็นเงาร่างที่กำลังเดินเข้ามาก็พลันตกใจ เขาไม่รู้ตัวเลยว่านางมาตั่งแต่เมื่อไหร่ 

" อาอวิ๋น! " 

ส่วนหลี่ฝูอวิ๋นเพียงยิ้มออกมาบางๆก่อนจะจูงมือของจื่อหย่งเดินเข้าไปหาทั้งสี่คน

 " อาอวิ๋นคือ...คือข้า " หลินอี้กำลังคิดว่าจะอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้ให้สตรีตรงหน้าอย่างไรดี จึงได้เอ่ยตอบอึกอักไม่เต็มคำนัก

 " แช่ฝู...ฝูหลินอี้....องค์ชายหก " หลี่ฝูอวิ๋นพึมพำเบาๆ พลางครุ่นคิดว่าตนเคยได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหน ทันใดนั้นจึงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบเฉย " ฝูหลินอี้ องค์ชายหกแห่งแคว้นฝู " 

" อาอวิ๋น...คือข้าไปได้ตั้งใจปกปิดเจ้าเลยนะ ที่จริงข้าก็จะบอกความจริงเจ้าอยู่แล้ว เพียงแต่ข้า..ข้า "

ผู้เฒ่าเหอซานที่ได้เห็นผู้เป็นหลานเกิดอาการเช่นนี้ จึงได้เพียงส่ายหัวเบาๆกับท่าทีร้อนรนของผู้เป็นหลานชาย 

" ข้าก็บอกแล้วว่าข้าไม่สนใจเรื่องพวกนี้ " นางกล่าวเสียงราบเรียบ ก่อนจะฉุกคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ จึงเอ่ยขึ้นตาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น " หรือพวกท่านรู้อยู่แล้วว่าข้าแช่หลี่ "

จากนั้นผู้เฒ่าเหอซานกับหลินอี้ก็พยักหน้างึกๆพลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เมื่อเห็นใบหน้าหลี่ฝูอวิ๋นเริ่มเขียวคล้ำเพราะความโกรธ

" อาอวิ๋น...ข้าขอโทษ " หลินอี้พึมพำออกมาอย่างรู้สึกผิด เขาไม่คิดจะปิดบังเรื่องนี้กับนางเลย ทว่าเขาเพียงพอไม่มีโอกาสที่จะบอกเรื่องนี้กับนางเท่านั้น 

จื่อหย่งหันคนที่เขาคิดว่าเป็นบิดาและมารดาสลับกันไปมา ก่อนจะกระตุกมือของหลี่ฝูอวิ๋นเบาๆ

หลี่ฝูอวิ๋นก้มหน้ามองจื่อหย่งก็ชี้นิ้วไปยังสองคนที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น นางก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นจึงอุ้มจื่อหย่งขึ้นแล้วเดินไปนั่ง ส่วนหลินอี้ก็ลอบยกนิ้วโป้ให้จื่อหย่ง

ทว่ากลับหลี่ฝูอวิ๋นเห็นทั้งหมดอยู่ดี นางจึงตวัดสายตามองหลินอี้ทีหนึ่งอย่างไม่พอใจ พลางคิดว่า 'เจ้าเด็กคนนี้ส่อแววฉลาดเฉลียวตั้งแต่เด็กไม่รู้ว่าโตมาจะน่าปวดหัวเพียงใด'

" เรื่องนี้กับเรื่องที่เมื่อคืนมีมือสังหารเกี่ยวกันใช่หรือไม่ " หลี่ฝูอวิ๋นนางถามเสียงเรียบ

" ใช่ " ผู้เฒ่าเหอซานเป็นคนตอบ

 " องค์รัชทายาทแคว้นฝูก็คือพ่อของอาเยียนกับอาหย่งสินะ "

หลินอี้จึงพยักหน้ารับแล้วเอ่ยขึ้น " ที่นี่คงไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กทั้งสองคนอีกต่อไปแล้ว " 

" เช่นนั้นก็ต้องพาอาเยียนกับอาหย่งไปจากที่นี่ " หลี่ฝูอวิ๋นกล่าวพลางล้มลงมองจื่อหย่งที่นั่งบนตักตนด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ พึ่งลืมตาดูโลกแค่ปีกว่าๆก็มีคนตามสังหารเสียแล้ว 

เกิดมาเป็นราชวงศ์ยังเลี่ยงการเเย่งชิงอำนาจไปไม่ได้นับประสาอะไรกับสกุลขุนนางที่ตัวของนางเกิดมา

หลินอี้ที่เห็นท่าทีของหลี่ฝูอวิ๋นเปลี่ยนไปก็พลันเห็นแววตาของนางเศร้าหมองลงก็เอื้อมือไปลูบหัวของนางเบาๆแล้วเอ่ยขึ้น " เรื่องมันผ่านมาแล้ว เจ้าจะเศร้าไปไย "

หลี่ฝูอวิ๋นจึงเงยหน้ามองหลินอี้แล้วก็พยักหน้าให้แก่เขาเป็นเชิงบอกว่าตน มิได้เป็นอันใดแล้ว

" ต้องพาอาเยียนกับอาหย่งไปจากที่โดยเร็ว " ผู้เฒ่าเหอเอ่ยขึ้น เขาไม่อยากรอช้าไปมากกว่านี้ หากคนของฝูหย่งเฮ่าตามรอยมาจนเจอ เกรงว่าคงจะเป็นเรื่องยากแล้ว

" ใช่ แต่ท่านปู่เล็ก หากข้าไปตอนนี้แล้วพี่สี่ก็สงสัยขึ้นมาคงจะไม่ดีแน่ มือสังหารเมื่อคืนนั้นก็น่าจะเป็นพี่สี่ส่งมาเพื่อหยั่งเชิงข้าเป็นแน่ " หลินอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

ผู้เฒ่าเหอซานกล่าวขึ้น " เช่นนั้นก็ต้องพึ่งเจ้าแล้วอาอวิ๋น "

หลี่ฝูอวิ๋นก็หันไปมองผู้เฒ่าเหอซานอย่างจริงจังจึงกล่าวขึ้น " พวกท่านไปไว้ใจงั้นหรือ " 

หลินอี้กับผู้เฒ่าเหอจึงพยักหน้ารับ จากนั้นจึงมองดูเด็กทั้งสองคนครู่อย่างอาลัย เด็กทั้งสองกำลังน่าเอ็นดู พวกเขามิอยากให้เด็กทั้งสองจากไป ทว่ามันก็จำเป็นที่ต้องทำ พวกเขาเชื่อมั่นว่าหลี่ฝูอวิ๋นต้องเลี้ยงจื่อเยียกับจื่อหย่งได้ดีแน่ทั้งสองมานาน

หลินอี้เห็นหลี่ฝูอวิ๋นผงกหน้าตอบรับคำขอของพวกเขา จึงกุมมือของนางแน่นแล้วจึงเอ่ยขึ้นเบาๆ " อาอวิ๋น ขอบใจเจ้ามาก " 

" เรื่องเล็กน้อย พวกท่านเคยช่วยชีวิตข้าไว้ บุญคุณครั้งนี้ข้าตอบแทนทั้งชีวิตก็ไม่หมด " นางกล่าวด้วยเสียงเรียบเฉย

" ข้าอยากให้เจ้าตอบแทนเสียที่ไหนกัน " หลินอี้พึมพำออกมาอย่างแผ่วเบา

" เวลาไม่คอยท่า ข้าว่าจะรีบไปเก็บข้าวของดีกว่า " ทันทีที่หลี่ฝูอวิ๋นเอ่ยจบ ก็ยื่นจื่อหย่งให้ผู้เฒ่าเหออุ้มแทน ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นภายในห้องพัก

" พวกเจ้าสองคน ต่อไปนี้ในติดตามไปคุ้มกันนางกับองค์ชายน้อยและองค์หญิงน้อย " เสียงของหลินอี้สั่งองครักษ์ด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่เขาไม่เคยใช้เวลาที่อยู่กับหลี่ฝูอวิ๋น

" พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ " องครักษ์ทั้งสองขานรับคำผู้เป็นนาย เพียงน้ำเสียงที่เย็นชา ต่างไปจากที่คนตรงนี้เอ่ยกับสตรีคนเมื่อครู่นี้ ก็ทำให้พวกเขาก็รู้แล้วว่าสตรีผู้นั้นเป็นคนสำคัญขององค์ชายหก

ทันทีที่หลี่ฝูอวิ๋นเก็บข้าวของเสร็จก็กลับไปรวมตัวกับคนที่เหลือ

" อาอวิ๋น สองคนนี้จะเดินทางไปพร้อมกับเจ้า " หลินอี้เอ่ยขึ้น หลี่ฝูอวิ๋นจึงหันมองสองคนที่อุ้มจื่อเยียนกับจื่อหย่งไว้แนบอก นางมองดูก็รู้ว่าสองคนนี้มีวรยุทธ์ที่ไม่ธรรมดา จึงหันกลับไปเอ่ยถามหลินอี้ " ให้สองคนนี้ไปด้วย แล้วคนพวกนั้นจะไม่จำหน้าของสองคนนี้ได้หรือ " 

" แม่นางท่านวางใจได้เจ้าคะ ข้ากับลู่เฟินเป็นองครักษ์เงา คนขององค์สี่ไม่เคยเห็นหน้าพวกข้า " สตรีผู้นั้นเอ่ยขึ้น หลี่ฝูอวิ๋นก็หันไปสบตากับหลินอี้คราหนึ่ง และดูเหมือนหลินอี้จะเข้าใจความหมายที่สายตาที่หลี่ฝูอวิ๋นจะสื่อจึงเอ่ยขึ้นมาว่า

" เจ้าวางใจได้ ต่อไปนี้สองคนนี้คือคนของเจ้าแล้ว " 

" เอาล่ะ ในเมื่อเตรียมตัวเสร็จแล้วพวกเจ้าก็ตามข้ามา " ผู้เฒ่าเหอซานจึงลุกขึ้น ส่วนคนที่เหลือก็เดินตามผู้เฒ่าเหอซานเข้าไปในโถงหลักของเรือน ก่อนที่ผู้เฒ่าเหอจะหมุนแจกันที่วางประดับที่มุมห้องโถง.ทันใดนั้นผนังด้านหลังก็เปิดออกผู้เฒ่าเหอจึงกล่าวขึ้นอีกว่า " ทางลัดนี้เชื่อมไปถึงเขตเมืองซิ่งอันที่ติดกับเขตชายแดนของแคว้นฝูพอดี พวกเจ้าเดินไปตามเส้นทางนี้เพียงหนึ่งชั่งยามก็ถึง " 

หลี่ฝูอวิ๋นที่อยู่ที่นี่มาปีกว่าก็พึ่งได้รู้ว่าที่นี่มีเส้นทางลับอยู่ด้วย จึงหันไปมองหน้าหลินอี้ด้วยสายตาเอาเรื่อง ทว่าหลินอี้ก็ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆกลับไปให้นางแล้วก็ยื่นแหวนมิติให้นาง " อาอวิ๋น ในแหวนมิติมีเงินอยู่สามแสนตำลึง เจ้าเคยเป็นผู้ฝึกตนมาก่อนก็น่าจะรู้วิธีใช้งาม ในนี้มีกระบี่เซียนกับพิณเจ็ดสายที่ข้าเคยให้เจ้าด้วย " หลี่ฝูอวิ๋นเพียงยื่นมือไปรับแหวนมิติจากหลินอี้เงียบๆ จากนั้นจึงลองแพ่งจิตเข้าไปสำรวจในแหวนมิติจก่อนจะเก็บสัมภาระเข้าไปในแหวนแล้วเดินเข้าไปภายในเส้นทางลับ ทว่าหลินอี้กลับฉุดมือไว้ และดึงนางเข้าไปกอด นางจึงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ " เจ้าทำอะไร "

ทว่าหลินอี้กลับไม่ปล่อยแต่กอดแน่นยิ่งขึ้นแล้วกล่าวต่อ " อาอวิ๋นรักษาตัวด้วย ข้าไม่รู้ว่าจะได้เจอกับเจ้าอีกเมื่อไหร่ ต้องรอให้เรื่องนี้เงียบไปก่อนไว้ข้าจะไปหาเจ้า "

" อืม...ปล่อยข้าได้หรือยัง " หลี่ฝูอวิ๋นเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเรียลเฉย หลินอี้จึงจำใจปล่อยหลี่ฝูอวิ๋นออกจากอ้อมกอดตน ด้วนแววตาเสียดาย ทันที่หลี่ฝูอวิ๋นออกจากอ้อมกอดของหลินอี้แล้ว พลันสาวเท้าเดินหมุนตัวเดินเข้าไปในทางลับ เมื่อหลินอี้ที่เห็นหลี่ฝูอวิ๋นเดินเข้าไปในทางกลับแล้วจึงเดินไปหาลู่เฟินกับมู่ตานเเล้วเอ่ยขึ้น " ดูแลทั้งสามให้ดีหากมีคนใดคนหนึ่งเป็นอันใดไป ก็หิ้วหัวของพวกเจ้ากลับมาให้ข้า " 

" พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ "  จากนี้หลินอี้ก็หอมลงบนขมับของเด็กทั้งสองเเล้วกล่าวขึ้น " พวกเจ้าทั้งสองอย่าทำให้แม่ของเจ้าต้องลำบากเล่า " 

จื่อเยียนกับจื่อหย่งราวกับเข้าใจในสิ่งที่ที่หลินอี้กล่าว จึงผงกหน้ารับคำทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel