บท
ตั้งค่า

๑ ปลายทางคือเจ็บปวด (๔)

“เลือกเลยเดี๋ยวพี่จ่ายให้เอง ถือเป็นของขวัญวันเกิดพอดีเลย” ตอนแรกก็เครียดกับการต้องเลือกซื้อน้ำหอมให้น้อง แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่ต้องเครียดแล้วเพราะเจ้าตัวต้องการพอดี จึงใช้โอกาสนี้มอบของขวัญเสียเลย

“ขอบคุณครับ” สองมือล้วงกระเป๋าพลางเอ่ยกับพี่ชาย ทั้งร้านมีเพียงพวกเขาสองคนกับหญิงอีกหนึ่งที่มาพร้อมพี่ ดวงตาเรียวจึงหันไปมองหล่อน ก่อนหญิงสาวจะหลบสายตาทำราวกับไม่รู้จักยิ่งกระตุ้นสัญชาตญาณนักล่าของร่างหนา

“ไม่คิดแนะนำให้รู้จักเหรอ” เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ทำให้คนเป็นพี่ต้องแนะนำให้น้องรู้จักกับเพื่อนสนิทของตัวเอง

“นี่ขนมตาล...เพื่อนพี่เอง”

หน้าตาว่าน่ารักแล้ว ชื่อของเธอก็ยังน่ากินอีกต่างหาก...

นึกสงสัยสถานะของคนทั้งสองแต่เมื่อได้ยินว่าเป็นเพื่อนก็พึงพอใจเป็นอย่างมาก ยิ่งเห็นแววตาของร่างบางซึ่งเต็มไปด้วยความเจ็บปวดก็รู้ในทันทีถึงสิ่งที่พีรัชมองข้ามไป หรือแท้จริงแค่ไม่อยากยอมรับหัวใจเท่านั้นเอง

หล่อนชอบพี่ชายเขา แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้คิดเช่นนั้น

แต่ก็ไม่แน่หรอก บางทีพี่ตนอาจจะไม่อยากยอมรับก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็โง่เกินไปแล้วล่ะขนาดความรู้สึกของตัวเองยังวิเคราะห์ไม่ได้เลย

“อ้อเป็นเพื่อนของพี่ ผมเพ้นท์นะครับเป็นน้องชายของพี่พี ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขาย้ำคำว่าเพื่อนแล้วหันไปยิ้มให้เธอ แนะนำตัวเองเสร็จสรรพโปรยเสน่ห์เต็มที่จนเธอทำได้แค่พยักหน้ารับคำเท่านั้นไม่มีประโยคใดต่อท้าย

“ค่ะ”

เพราะตอนนี้หญิงสาวคิดเพียงอย่างเดียว นั่นคือสถานะของเราสองคนที่ไม่ได้ขยับไปไหนเลย

เธออาจจะคิดฝันไปไกล ขณะที่เขามองตนเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น ความจริงตีแสกหน้าทำให้หญิงสาวเพิ่งมีสติในตอนนี้เอง

“เอาขวดนี้นะ จ่ายให้หน่อย” เขาเห็นแววตาสับสนของเธอก็ไม่อยากจะรบกวนมากกว่านี้ ตัดสินใจหยิบน้ำหอมขวดประจำแล้วหันไปมองพี่ชาย เขาพยักหน้าทันทีเพราะอย่างไรก็คิดจะมาซื้อของขวัญให้อยู่แล้ว

“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ล่วงหน้า” อวยพรคนที่กำลังจะบรรลุนิติภาวะในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เขารับคำก่อนมองไปที่หญิงสาว เอ่ยอ้อนแม้เราจะเพิ่งรู้จักกันก็ตาม

“ครับ...แล้วพี่ตาลไม่คิดจะอวยพรผมหน่อยเหรอ” ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะถูกชายหนุ่มเอ่ยขอตามตรง เธอจึงทำตัวไม่ถูกแต่ก็ยังเลือกอวยพรเขา

“สุขสันต์วันเกิดค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ” เห็นชัดถึงความขัดเขินในแววตา สร้างความพึงพอใจแก่ชายหนุ่มเป็นอย่างยิ่ง เขายิ้มรับคำอวยพรนั้นแล้วทิ้งสายตามองหล่อนนานกว่าปกติ จนคนเป็นพี่ชายเหมือนจะเริ่มสงสัย จึงได้หันมายิ้มให้พีรัชเช่นเดียวกัน

“ขอบคุณครับ”

เดินไปยังเคาน์เตอร์เพื่อจ่ายเงิน ซึ่งคนที่ออกค่าใช้จ่ายก็เป็นพี่ชายของตัวเอง แล้วจึงได้บอกลากันโดยที่คนอายุน้อยกว่าหันมาส่งสายตาแก่หล่อน พลางค้อมศีรษะเพื่อบอกลาแล้วเดินออกจากร้าน เหลือเพียงพวกเขาสองคนที่เดินเลือกซื้อน้ำหอมค่อยไปยังโซนอาหาร

เธอไม่ค่อยรับรู้รสชาติของกับข้าวตรงหน้า นอกจากเรื่องที่ต้องขบคิดอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก คิดว่าเราสองคนอาจใจตรงกันแต่ความจริงไม่ใช่แบบนั้น เดินออกจากร้านอาหารเตรียมกลับบ้าน เธอก็ไม่รอช้าที่จะถามตามตรงไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองอีกต่อไป

“พี...” เสียงเรียกทำให้เขาหันมามองเธอ

“หือ”

“เรา เราสองคน...เป็นเพื่อนกันใช่ไหม” ถามเพื่อความแน่ใจ คราวนี้เขาพอจะทราบว่าเธอกำลังจะพูดเรื่องอะไร จึงหยุดเดินแล้วหันมาเผชิญหน้ากับหล่อน

ยืนอยู่กลางห้างใหญ่ที่มีคนเดินผ่านไปมา ไม่รู้ว่ามีคนสนใจเรื่องของพวกเขาหรือเปล่า แต่สายตาหล่อนตอนนี้มีเพียงพีรัชคนเดียว อยากรู้ว่าเขาคิดเช่นไรเพราะตนก็แสดงออกไปชัดเจนเหมือนกัน บางทีเขาอาจจะรับรู้แต่ไม่ยอมตอบรับสักที

“ใช่สิ เราเป็นเพื่อนกัน” ย้ำชัดถึงสถานะ ทำให้คนฟังนึกเจ็บปวดจนต้องผินหน้ามองทางอื่น ระงับอารมณ์น้อยใจของตัวเองเอาไว้ กดให้ลึกที่สุดไม่อยากปล่อยให้มันไหลประจานความน่าอายของตัวเองที่คิดหวังไปไกล

“แล้วที่ผ่านมา ก็แค่เพื่อนเหรอ”

“เราขอโทษถ้าทำให้เธอคิดไปไกล แต่เราคิดกับเธอแค่เพื่อน...แค่เพื่อนจริงๆ” คำพูดพวกนั้นทิ่มแทงใจคนฟังเป็นอย่างมาก เธอพยักหน้าแล้วกำถุงหูหิ้วเอาไว้แน่นเพื่อข่มอารมณ์อ่อนไหวของตัวเอง พยักหน้าขึ้นลงแล้วฝืนยิ้มให้เขา

“เข้าใจแล้ว ไม่เป็นไร” เหมือนว่าเธอได้เปิดเผยความรู้สึกทั้งหมดไปแม้จะไม่ได้บอกรัก และถูกเขาปฏิเสธจนไม่อยากยอมรับความจริง

ไม่ได้ถูกรัก...หล่อนแค่คิดเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียว

“ขอ ขอกลับเองนะ ไว้เจอกัน” ไม่อาจนั่งบนรถยนต์คันเดียวกันได้ รู้ดีว่ายิ่งจะทำให้บรรยากาศอึดอัดกว่าเดิม เธอจึงเลือกจะไปรถสาธารณะดีกว่า

ไม่รอให้เขาพูดสิ่งใดก็เดินออกจากตรงนั้นรวดเร็ว เขามองตามแผ่นหลังบางอยากเรียกเธอก็ไม่กล้า รู้ดีว่าตอนนี้หญิงสาวต้องการเวลาเพื่ออยู่กับตัวเอง เขาจึงทำได้แค่ถอนหายใจแล้วเดินกลับรถ โดยคนทั้งสองไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองอยู่ตลอดเวลา

“ผ้าเช็ดหน้าครับ เอาไว้ซับน้ำตา” เมื่อสบโอกาสก็ไม่รอช้า รีบก้าวตามหญิงสาวที่เดินคอตกพร้อมยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เธอเห็นว่าน้ำตาเม็ดใหญ่ไหลเปื้อนแก้มกลม จนนึกอยากกดดูว่าแก้มของเธอจะนุ่มแค่ไหน แต่คนที่กำลังร้องไห้ถึงกับอึ้งเมื่อหันมาเห็นเขา

“เพ้นท์” เรียกชื่อชายหนุ่มเสียงเบาคล้ายละเมอ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะอยู่ที่นี่แล้วยังเห็นเธอในสภาพนี้อีกต่างหาก อายจนต้องรีบเช็ดน้ำตาโดยที่กำผ้าเช็ดหน้าของเขาไว้ในมือไม่ยอมใช้

“ให้ผมไปส่งไหม ผมว่างนะ” สบโอกาสก็รีบหาข้ออ้างเพื่อได้อยู่ใกล้เธอ

“ไม่...” คิดปฏิเสธเพราะไม่สนิทและเกรงใจ ที่สำคัญคือกลัวหัวใจตัวเองที่เต้นดังจะทะลุออกมานอกอกยามอยู่กับเขา

“มาเถอะน่า ผมจะไปส่งเอง” ไม่พูดพร่ำทำเพลง เลือกจะจูงมือหล่อนออกจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

หญิงสาวจึงทำได้เพียงเดินตามเขา ก้มมองมือหนาที่กุมรอบข้อมือของตนมิด พลันความเศร้าก็ค่อยหายไปอย่างประหลาด

มันเกิดอะไรขึ้น...กับหัวใจของเธอกันนะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel