บท
ตั้งค่า

๑ ปลายทางคือเจ็บปวด (๓)

เขาต้องทำอย่างไรจึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการ

“เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าแดงขนาดนั้นล่ะ ไม่สบายหรือป่วยตรงไหนให้พาไปหาหมอไหม” รอสักพักเธอก็กลับมานั่งที่เดิมแต่น่าแปลกเมื่อพบว่าแก้มนวลทั้งสองข้างแดงก่ำลามไปถึงใบหู เขาเห็นอย่างนั้นก็ถามด้วยความเป็นห่วง

“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” พยายามปฏิเสธโดยไม่ยอมบอกว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นที่หน้าห้องน้ำ ผ่อนลมหายใจแล้วหยิบน้ำเปล่ามาดื่ม ระหว่างนั้นก็เหลือบมองผู้ชายที่เดินกลับมานั่งโต๊ะแล้วดันอยู่ที่เยื้องกับเธอ ทำให้เห็นเขาชัดเจน

เข้ามาเมื่อครู่ยังไม่เห็นเพราะจุดสนใจของปานอัปสรคือพีรัช แต่ตอนนี้กลับมองเห็นชายหนุ่มที่พบกันหน้าห้องน้ำได้ชัดเหลือเกิน

ก่อนที่จะรู้สึกอะไรมากกว่านี้ อาหารที่สั่งก็ทยอยมาเสิร์ฟพอดี “อาหารมาพอดี กินข้าวกันดีกว่า” ร่างสูงเป็นคนชวนแล้วเธอก็พยักหน้าไม่กล้าจะมองไปที่อื่น เลือกรับประทานอาหารแล้วสร้างบทสนทนากับเพื่อน เตือนตัวเองว่าอย่าสนใจคนอื่น

“อือ”

มองแค่พีรัชคนเดียวก็พอแล้ว...

ปกติวันหยุดเธอมักจะกลับไปบ้านที่นครปฐมเพื่อช่วยงานบิดา บ้านของหญิงสาวเปิดร้านขายเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ รับช่วงต่อสืบทอดกิจการจากรุ่นสู่รุ่น เมื่อก่อนกิจการรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก เธอได้ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อย แต่ตอนนี้เหมือนธุรกิจซบเซาไม่ค่อยมีรายได้เข้ามาเยอะอย่างเคย จึงต้องประหยัดและช่วยลดค่าใช้จ่ายทุกอย่าง

มองตัวเองในกระจกอีกครั้งเพื่อตรวจตราความเรียบร้อย ชุดที่สวมเป็นเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์พร้อมมัดผมรวบเป็นหางม้าโชว์ลำคอระหง สวมสร้อยรูปหงส์ที่ซื้อจากแบรนด์คนไทยราคาไม่สูงแต่คุณภาพดีเทียบเท่าแบรนด์ดังด้วยซ้ำ หยิบกระเป๋าสะพายข้างมาวางบนไหล่พร้อมรองเท้าผ้าใบ เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว

ไม่ดูพยายามมากจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้ชิวจนดูเหมือนไม่ใส่ใจ เธอยิ้มให้ตัวเองในกระจกแล้วออกจากคอนโดมิเนียมที่ตัวเองเช่ารายปี ไม่อยากซื้อเพราะว่าตัวเองไม่ต้องการรบกวนเงินของทางบ้าน แค่ซื้อคอนโดให้น้องสาวอย่างพรรัมภา ปัญญาวุธก็หมดเงินแล้ว

เธอคิดว่าในอนาคตอาจกลับไปหางานทำแถวบ้าน จึงไม่อยากซื้อไว้ให้เปลืองเงิน แค่ห้องของน้องก็น่าจะพอ

มาถึงห้างสรรพสินค้าตามที่นัดกับพีรัชเอาไว้ เธอโบกมือแล้วเดินเข้าไปหาเขา แม้อีกฝ่ายจะอยู่ในชุดไปรเวทแต่ก็ยังดูดีเหมือนเดิม ส่งยิ้มให้ชายหนุ่มจนตาปิดก่อนเดินเข้าไปยืนเคียงข้าง ไม่คิดว่าเขาจะมาก่อนเวลาทั้งที่ตัวเองก็รีบมาแล้ว

“เอาอะไรดี” หันมาถามคนข้างกาย

เขาชวนเธอมาเดินเล่นที่ห้างโดยมีธุระคือต้องการซื้อของขวัญเป็นวันเกิดน้องชาย คนที่มีแต่น้องสาวก็ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไร แต่เห็นเป็นโอกาสอันดีเพราะได้มาเดินเล่นกับชายหนุ่มจึงตอบตกลงโดยไม่คิดหน้าหลัง

“น้องชายชอบอะไรก็เอาอันนั้นแหละ”

“ไม่รู้เนี่ยสิว่าชอบอะไร” คำตอบของเขาทำให้เธอต้องร่ายถึงสิ่งที่น้องของพีรัชน่าจะชอบ

“หือ ของที่ต้องใช้หรือจำเป็นไหม น้ำหอม เสื้อผ้า หนังสือ กระเป๋า...เราก็ไม่รู้ว่าควรเลือกอะไรให้เหมือนกันไม่เคยมีน้องชาย ส่วนใหญ่น้องสาวก็เลือกแค่พวกเครื่องประดับ” ไล่ให้เขาตัดสินใจว่าควรซื้ออะไรเพราะตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่ซื้อให้น้องเป็นของขวัญวันเกิดก็พวกเครื่องประดับตามความชอบของอีกฝ่าย

แล้วดูเหมือนสิ่งที่หญิงสาวพูดไปจะตรงใจของพีรัชพอดี เขาจึงพยักหน้าเห็นด้วยเป็นจังหวะเดียวกับที่เธอผ่านร้านน้ำหอมที่น้องชายของตนใช้เป็นประจำ จึงรีบพาเธอเดินเข้ามาข้างในร้านที่มีกลิ่นหอมอ่อนสร้างความสดชื่นให้แก่ลูกค้าเป็นอย่างมาก

“น้ำหอมแล้วกัน เพ้นท์น่าจะชอบ”

“น้องชื่อเพ้นท์เหรอ” นึกสงสัยกับชื่อที่ไม่เหมือนผู้ชายแต่หล่อนก็ไม่ได้ไปตัดสิน ทราบเรื่องของพีรัชทีล่ะน้อยทำให้นึกมีความสุขกับความใกล้ชิดของเราที่เพิ่มมากขึ้น

เวลาว่างของเขาก็มีเธออยู่ด้วย สถานะของเราสองคนไม่เหมือนเพื่อนด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่มีใครพูดว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์หรือเปล่า

เขาไม่พูดเธอเองก็ไม่ถาม...

“ใช่ พอดีแม่เราชอบวาดรูปเลยเอามาตั้งชื่อน้องซะเลย” เข้าใจในทันทีไม่ได้ถามต่อ แต่นึกชอบชื่อของน้องชายเขาเหมือนกัน คิดว่าต้องเป็นผู้ชายตัวเล็กน่ารักอย่างแน่นอน เผลอยิ้มขณะที่จินตนาการภาพของน้องชายอีกฝ่าย ก่อนความคิดทั้งหมดจะสิ้นสุดลงยามได้เดินเข้ามาในร้านน้ำหอม

พนักงานเดินเข้ามาต้อนรับ แต่เขาเลือกจะค้อมศีรษะแล้วขอเลือกดูก่อน พอทราบบ้างว่าน้องชอบกินอะไร ตอนนี้จึงเดินดูของอย่างเดียว สายตาพบเป้าหมายจึงได้ลองทดสอบกลิ่นลงบนกระดาษพร้อมกับยื่นไปตรงหน้าหล่อน

“หอมไหม” เธอโน้มหน้าเข้ามาดมกลิ่น รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดแต่ก็ไม่ได้พูดสิ่งที่คิด เลือกจะพยักหน้าแล้วตอบตามความจริง

“หอม”

“อันนี้หอมไหม กลิ่นไหนหอมกว่ากัน” ลองสองกลิ่นให้เธอเลือก ซึ่งหญิงสาวชอบกลิ่นแรกมากกว่าเพราะทำให้คิดถึงผู้ชายที่เธอเดินชนเมื่อวันก่อน แต่ความรู้สึกกลับตราตรึงมาถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะใบหน้าหล่อเหลา น้ำเสียงนุ่มทุ้มหรือกระทั่งกลิ่นหอมอ่อนจากอีกฝ่าย

คงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว หล่อนจึงโล่งอกที่ความรู้สึกคงไม่พัฒนามากกว่านี้

“ก็หอมหมดนะ แล้วแต่ว่าจะชอบแบบไหนมากกว่า” แสดงความคิดเห็นแล้วรอให้เขาเลือก แต่กลายเป็นว่าชายหนุ่มเลือกจะชี้มาที่เธอพร้อมกับยิ้มมุมปาก เหมือนต้องการหยอกล้อโดยไม่รู้เลยว่าเธอกำลังคิดจริงจัง

“ชอบแบบนี้ได้หรือเปล่า”

“พี...ไม่เล่น” ปัดมือเขาพลางเอ่ยเสียงจริงจัง แก้มเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อกับการถูกหยอด พยายามไม่เผยรอยยิ้มแต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน จนสุดท้ายเธอจำต้องเดินไปเลือกน้ำหอมขวดอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตากับอีกฝ่าย

“ฮ่าๆ อย่าเครียดสิครับ แค่ล้อเล่นนิดเดียวเอง”

“รีบเลือกได้แล้ว”

มีกลิ่นหลากหลายที่ชวนให้เข้าไปลอง แต่มีเพียงขวดเดียวที่หญิงสาวจ้องนิ่ง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเหตุใดจึงไม่ลืมผู้ชายคนนั้น ทั้งที่เพิ่งพบกันครั้งแรกแล้วตนก็มีชายในฝันอยู่แล้วด้วย ความรู้สึกท่วมท้นจนต้องส่ายหน้าไปมาไล่ความฟุ้งซ่าน

คนเราจะชอบผู้ชายสองคนในคราวเดียวได้อย่างไร หล่อนไม่ใช่หญิงสองใจสักหน่อย

“พี่ มาเลือกน้ำหอมเหมือนกันเหรอ” เสียงเรียกคุ้นเคยทำให้คนที่กำลังดูน้ำหอมเงยหน้าขึ้นมาชายที่มาใหม่ ขณะเดียวกันหล่อนเองก็หันไปมองด้วยความสงสัย ก่อนเผยอปากค้างเล็กน้อยเมื่อพบว่าร่างสูงที่เพิ่งเดินเข้ามาเป็นผู้ชายคนเดียวกับที่หล่อนเจออยู่หน้าห้องน้ำ

โลกจะกลมเกินไปหรือเปล่า...

“เพ้นท์ มาได้ไงวะ” คราวนี้ยิ่งตกใจมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินเพื่อนเอ่ยทักคนมาใหม่

เขาคือน้องชายของพีรัชอย่างนั้นหรือ...

เพ้นท์ที่เธอเข้าใจว่าเป็นเด็กหนุ่มตัวน้อยหน้าตาน่ารัก ความจริงกลับรูปร่างสูงใหญ่ผิวพรรณเนียนละเอียดกับใบหน้าคมหล่อเหลาที่สาวหลายคนต้องมองเหลียวหลัง ไม่อยากเชื่อเลยสักนิดว่าเป็นเขาจนเผลอจ้องนานเกินไป

“มาซื้อน้ำหอม พอดีกลิ่นที่ใช้ประจำมันหมด” เขาละสายตาจากร่างบางแล้วหันมาตอบคำถามของพี่ชาย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel