บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3.

“คุณเรย์คะ ตอนนี้มีคนมาสมัครงานสองคน หน้าตาดีทั้งคู่ค่ะ คนหนึ่งผิวขาวตัวบางๆสูงเพรียวค่ะ อีกคนก็หุ่นใกล้เคียงกันแต่ผิวสีแทนค่ะ อ๋อ...ได้ค่ะ ”

เลขาสาวสิ้นสุดบทสนทนาเพียงแค่นี้ ก่อนวางสายแล้วหันมามองหน้าสองสาว

“คุณสองคนกรอกใบสมัครงานเสร็จแล้วใช่ไหมคะ”

“ค่ะ”

สองสาวประสานเสียงตอบพร้อมกัน พร้อมกับส่งเอกสารให้ เอกสารถูกนำมาเก็บไว้ในตะกร้าบนโต๊ะ

“ทางเราจะติดต่อไปนะคะ”เลขาสาวส่งยิ้มให้

สองสาวพนมมือไหว้ลา ก่อนจะพากันเดินออกมา เมื่อลับประตูเนตรดาวก็ทำหน้ายุ่ง

“ไม่รู้จะเรียกสัมภาษณ์เมื่อไหร่ ฉันเห็นใบสมัครวางเป็นตั้ง”

“น่า...อย่าซีเรียสเลย ถ้าไม่ได้ก็ยังมีทางอื่นอีก เราไม่จนหนทางหรอก”

นลินดาหันกลับไปมอง เชื่อมั่นว่าเธอกับเพื่อนสาวไม่น่าจะพลาดงานนี้ เท่าที่สืบรู้มาที่นี่ต้องการพนักงานอีกมากเพราะกำลังจะเปิดสาขาใหม่ หญิงสาวโอบไหล่เพื่อน พร้อมกับแหงนหน้ามองท้องฟ้า ก่อนจะย่นคิ้ว ท้องฟ้าในขณะนี้มืดครึ้มหม่นสลัว เมฆก้อนใหญ่ลอยเต็มฟ้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้แสงแดดจัดจ้าร้อนแรง

“รีบกลับกันเถอะดาว ฝนทำท่าจะตก”

เนตรดาวแหงนหน้ามองท้องฟ้า ใบหน้าหงิกขึ้นมา

“มันจะตกอะไรตอนนี้นะ เทวดาบ้าบอ ชอบแกล้งมา... ว้าย! ”

เปรี้ยง! เนตรดาวยังไม่ทันจะพูดจบ เสียงฟ้าร้องก็ดังก้องขึ้น สองสาวกระโดดโหยงร้องเสียงดัง นลินดาได้สติก่อน หญิงสาวฟาดเผียะบนต้นแขนเพื่อนสาวทีหนึ่ง พร้อมกับเอ็ดแถม

“เขาว่าอย่าแช่งฟ้าด่าดิน เห็นไหมเจอดีเลย”

“โหย... ใครจะนึกว่าเทวดาจะดุแบบนี้นี่”

เนตรดาวทำเสียงอ่อย มองท้องฟ้าอย่างหวาดๆ นลินดาส่ายหน้า แล้วลากแขนเพื่อนให้รีบเดินไป ยังรถที่จอดอยู่

ในมุมมืดข้างตึกรกครึ้มด้วยแมกไม้หนา สายตาคู่หนึ่งมองตามร่างของสองสาวที่เดินห่างออกไป เจ้าของดวงตาคู่นั้นแหงนหน้ามองท้องฟ้า พลัน! กลุ่มเมฆที่ดารดาษเต็มท้องฟ้าก็เคลื่อนตัวแตกกระจาย ฟ้ากระจ่างใสแสงแดดจัดจ้าสาดส่องไปทั่วบริเวณ รอยยิ้มปรากฏบนมุมปากบาง แสงสีน้ำเงินใสสว่างวาบ ร่างนั้นค่อยๆเลือนหายไปจากมุมมืด ราวกับสายหมอกยามต้องแสงแดด...

“รีบๆทำความสะอาดเข้า จะได้รีบกลับบ้าน”

เสียงแหลมจัดของผู้จัดการสปาดังขึ้น เจ้าของเสียงยืนเท้าเอวชี้นิ้วสั่งแม่บ้านให้จัดการทำความสะอาดทางเดิน แสงไฟโดยรอบบริเวณสาดส่องเพียงนวลตา เน้นบรรยากาศโรแมนติก มากกว่าจะตั้งใจให้ส่องสว่าง แม่บ้านสองคนกำลังก้มหน้าก้มตาขัดพื้นที่เริ่มมีตะไคร่น้ำเกาะอย่างรีบเร่ง ในตอนกลางคืนสปาแห่งนี้แสนจะวังเวงน่ากลัว หลายต่อหลายปากเล่าลือถึงเหตุการณ์สยองขวัญ ต่างบอกตรงกันว่าคืนที่น่ากลัวที่สุดคือคืนที่พระจันทร์เต็มดวง บ้านโบราณอันเป็นที่ตั้งของ สปาแห่งนี้ มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ห้า เจ้าของเดิมเป็นถึงเจ้าพระยา เวลาผ่านไปร่วมร้อยปี บ้านหลังนี้กลายเป็นมรดกตกทอดแก่ลูกหลานรุ่นต่อมา แต่ไม่มีใครอยากมาอยู่อาศัย บ้านหลังนี้เลยถูกขายให้คุณวรรณดามารดาของรวินท์ ต่อมาเจ้าของใหม่ได้ดัดแปลงใช้ทำเป็นสปา

คุณวรรณดาได้เก็บสะสมวัตถุโบราณไว้หลายชิ้น เมื่อมาเปิด

สปาแห่งนี้จึงจัดส่วนหนึ่งให้เป็นพิพิธภัณฑ์ เมื่อบ้านโบราณกับของโบราณมาอยู่รวมกัน คนที่หวาดกลัวสิ่งลึกลับเหนือธรรมชาติยิ่งกลัวหนักเข้าไปอีก แม่บ้านและพนักงานสปาที่ทำงานกะกลางคืนจึงไม่มีใครกล้าเดินไปไหนคนเดียว เวลาทำอะไรมักจะมีสองคนขึ้นไป อย่างการทำความสะอาดในคืนนี้ก็เช่นกัน

“คุณพิ้ง ถ้าทำเสร็จแล้ว ก็ให้พวกเขากลับกันได้เลยนะ”

รวินท์เดินออกมาจากห้องทำงาน เขาถือพวงกุญแจทองเหลืองดอกโตมาด้วย ผู้จัดการสปามองกุญแจในมือเจ้านายแล้วยิ้มแห้งๆ

“คุณเรย์จะเข้าไปเรือนของรักเหรอคะ”

“ผมมีงานต้องทำ ตอนกลางวันมัวแต่รับรองลูกค้า”

ชายหนุ่มหมุนลูกกุญแจทองเหลืองในมือเล่น ท่าทางสบายอกสบายใจ เขายืนดูพนักงานทำความสะอาดพื้นอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สั่งให้ปิดประตูสปา แล้วเดินเรียดเท้าเข้าไปยังด้านในสุดหลังตึกใหญ่ ซึ่งปลูกสร้างเป็นเรือนไม้สักหลังใหญ่ ซุ้มประตูทางเข้าเป็นประตูไม้สักแกะสลักลวดลายแบบโบราณ เป็นรูปนางอัปสรกำลังร่ายรำ ด้านบนติดแผ่นไม้แกะสลักตัวอักษรไว้ว่า ‘เรือนของรัก’

รวินท์สอดลูกกุญแจทองเหลืองไขเปิดสลักกุญแจอันโตที่คล้องไว้ เขาผลักบานประตูออกช้าๆ แสงไฟจากโคมไฟดินเผาแกะสลักลวดลายวิจิตรเป็นรูปสัตว์ในป่าหิมพานต์ สาดส่องเพียงนวลตา บันไดไม้ขัดเงามันวับยกสูงจากพื้น ด้านข้างทางขึ้นวางโอ่งน้ำสีเขียวมรกตมีฝาปิดไว้ ราวบันไดตกแต่งด้วยไม้แผ่นบางแกะสลักลวดลายไทยงดงาม ชายหนุ่มเดินขึ้นไปด้านบนแล้วไขกุญแจอีกอันที่คล้องไว้ด้านหน้าประตูทางเข้า ก่อนจะผลักบานประตูให้เปิดออก มือหนาแตะเปิดสวิตช์ไฟข้างเสาเรือน

แสงจากดวงไฟสว่างขึ้นเป็นแสงนวลอมส้มสบายตา ตามมุมต่างๆประดับตกแต่งด้วยแจกันกระเบื้องเคลือบแบบจีนขนาดใหญ่ ปักขนนกยูงจนเต็ม ตัวบ้านแบ่งเป็นห้องต่างๆจัดแสดงข้าวของแยกแต่ละประเภท รวินท์เดินตรงไปยังห้องด้านใน ห้องนี้ใหญ่ที่สุดในพิพิธภัณฑ์ ภายในห้องแบ่งซอยแยกพื้นที่แสดงวัตถุโบราณแต่ละประเภท โดยใช้กระจกกั้นเป็นห้องเล็กๆ

รวินท์เดินไปหยุดที่ตู้กระจกรูปสี่เหลี่ยมใบหนึ่ง กดปุ่มด้านล่างกล่อง ใส่ตัวเลขรหัสลับลงไป ครู่หนึ่งสัญญาณไฟสีเขียวก็กะพริบ พร้อมกับฝาครอบแก้วเปิดออก เขาหยิบของที่อยู่ด้านในออกมา วางมันบนโต๊ะไม้สักติดผนัง แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้าม สายตาจ้องมองของสิ่งนั้นนิ่งอยู่

กล่องไม้ใบน้อยแกะสลักลวดลายโดยรอบเป็นรูปดอกไม้ กลีบดอกไม้ฝังอัญมณีสีม่วงเข้มตกแต่งประดับประดาไว้ กิ่งก้านเป็นทองเส้นเล็กๆฝังแทรกไว้ ฝากล่องเปิดอ้าออก ด้านในมีจี้ห้อยคออันหนึ่งวางไว้ ตัวจี้ทำจากเงินขึ้นรูปเป็นกลีบดอกไม้และใบไม้ประดับเพชรเม็ดเล็ก ล้อมรอบอัญมณีสีเหลืองรูปไข่เม็ดใหญ่ แสงจากโคมไฟสาดส่อง ประกายวาววับรัศมีสีเหลืองอำพันเรื่อเรืองออกมาจากอัญมณีเม็ดนั้น

ปรากฏรูปจี้อันนี้บนภาพ กอบลาภได้มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และเห็นภาพเขียนของคุณวรรณดาในห้องแสดงภาพ ทำให้นักเล่นของเก่าผู้นั้นติดใจขอซื้อจี้และวัตถุโบราณหลายชิ้นจากเขา

“ขายให้ผมเถอะครับ เรียกราคาเท่าไหร่ผมสู้ไม่อั้น”นักธุรกิจใหญ่วัยกลางคนพยายามหว่านล้อม ให้เจ้าของยอมขายของให้เขา

“เรามีโครงการจะเปิดเรือนของรักเป็นพิพิธภัณฑ์ ผมคงขายให้คุณไม่ได้”

รวินท์บอกปัด เขารักของที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ทุกชิ้น อยากจะเก็บรักษาไว้เป็นมรดกแก่ลูกหลานเช่นเดียวกับที่มารดาเก็บไว้ให้เขา

จนกระทั่งวันหนึ่ง... นายกอบลาภมาที่สปาพร้อมกับขอพบไรวัตทั้งสองพูดคุยกันอยู่นาน เมื่อนายกอบลาภกลับไป ไรวัตเข้ามาหาน้องชายพร้อมกับพูดว่า

“ฉันคิดว่าเราน่าจะขายของให้คุณกอบลาภ”

“ผมไม่เห็นด้วย พี่ไรอันก็รู้ว่าคุณแม่ท่านรักของทุกชิ้นมาก”รวินท์คัดค้านความคิดของพี่ชายเต็มที่

“นายจะเก็บมันไว้เพื่ออะไร สปานี้กับข้าวของพวกนั้น นายคิดว่าคุณแม่รักอะไรมากกว่ากัน แค่ขายของพวกนั้นไปสักสองสามชิ้นก็ได้เงินมาเป็นสิบล้าน สปาของเราสามารถขยายงานต่อได้ โดยไม่ต้องดึงเงินจากโรงแรมมาช่วย นายว่ามันคุ้มไหมล่ะ”

เหตุผลของไรวัตทำให้รวินท์พูดไม่ออก สภาพเศรษฐกิจง่อนแง่นทำให้สปาได้รับผลกระทบ โครงการขยายสาขาถูกชะลอเพราะเงินทุนหมุนไม่ทัน แม้รวินท์จะจัดสรรรายได้จากกิจการโรงแรมที่เขาดูแลอยู่มาช่วยก็ทำได้ไม่มาก ไรวัตเคยเอ่ยปากอยากขายกิจการนี้เพราะทำท่าจะไปไม่รอด รวินท์อยากรักษาสปาแห่งนี้ไว้เป็นที่ระลึกถึงมารดา เขารู้ว่าท่านสร้างธุรกิจนี้มาด้วยความยากลำบาก เขาไม่ยอมให้สปาที่มารดาของเขาสร้างขึ้นมาปิดตัวลง

รวินท์ไม่สามารถคัดค้านความคิดของพี่ชายได้ เขาจึงปล่อยให้ไรวัตจัดการตามที่เห็นสมควร เมื่อเขายินยอมขายของให้นายกอบลาภจึงรีบมาที่สปาทันที วันนั้นรวินท์มีนัดประชุมกับลูกค้า เขาจึงไม่ได้อยู่ด้วย กะว่าพอเสร็จประชุมแล้วค่อยกลับมาซักถามพี่ชาย แต่เหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นเสียก่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel