ตอนที่ 2
“เตรียมหลักฐานการสมัคร มาพร้อมหรือยังคะ”พนักงานต้อนรับเอ่ยถามอย่างอารี
“เรียบร้อยครบถ้วนทุกอย่างค่ะ”เนตรดาวตอบแทนเพื่อน พลางส่งยิ้มผูกไมตรี
“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญด้านนี้ค่ะ เดินไปตามทางเรื่อยๆจะเห็นออฟฟิศค่ะ”
พนักงานต้อนรับของสปาดัง ผายมือไปด้านซ้ายมือของตนเอง สองสาวมองตามเห็นประตูอีกบานติดกระจกใส มองเห็นทางเดินเข้าสู่ด้านในตัวอาคารหลังใหญ่ จึงไหว้ลาคนบอกทางอย่างนอบน้อมตามประสาคนมืออ่อน ก่อนจะพากันเดินผ่านเข้าไป
“เข้ามาด้านในได้กลิ่นหอมฟุ้งไปหมด”
พอคล้อยหลังเนตรดาวก็เอ่ยออกมา พร้อมกับทำท่าสูดลมหายใจแรงๆหน้าตาชื่นอกชื่นใจ จนนลินดาอดขำไม่ได้ เท่าที่เธอเคยศึกษามาบ้างกลิ่นหอมที่เพื่อนสาวกำลังสูดดมอย่างพออกพอใจนี้ มาจากน้ำมันหอมระเหย ที่เรียกว่า ‘อโรม่า เทอราปี’(*Aroma therapy เป็นการบำบัดด้วยกลิ่น มีต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส แปลเป็นไทยว่า“สุคนธบำบัด”)
“ที่เธอได้กลิ่นน่ะเขาใช้น้ำมันหอมระเหยจ้ะ โดยการจุดเตาเผาน้ำมันให้กลิ่นหอมระเหยออกมา เพื่อสร้างบรรยากาศให้ลูกค้า ได้รับความผ่อนคลายอย่างเต็มที่”นลินดาอธิบายให้เพื่อนฟัง
เนตรดาวพนักหน้ารับรู้ พลางหันไปมองพนักงานต้อนรับอีกครั้ง
“รีเซฟชั่นที่นี่สวยอย่างกับนางสาวไทย ไม่รู้เขาจะคัดเทอราปิส ตามหน้าตาด้วยหรือเปล่า”
เนตรดาวเปลี่ยนเรื่องคุย ในใจอดเปรียบเทียบหน้าตาตัวเองกับพนักงานสาวไม่ได้ เธอเคยได้ยินว่าบางแห่งคัดเลือกพนักงานจากหน้าตามากกว่าฝีมือ พลอยทำให้เกิดความรู้สึกกังวล หน้าตาของเธอเองใช่ว่าจะสวยสะดุดตาใคร ผิวพรรณไม่ได้ขาวผ่องเหมือนเพื่อนสาว โชคดีที่รูปร่างสูงเพรียวไม่อ้วนกลม
“สวยอย่างเดียวจะมีประโยชน์อะไร! ”
เสียงหนึ่งดังขึ้น เจ้าของเสียงเป็นสตรีวัยกลางคนสวมชุดผ้าไหมสีน้ำเงินคราม เกล้าผมมวยไว้ตรงท้ายทอย ร่างเพรียวระหงผิวเนียนสวย ใบหน้าเรียวรับกับจมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากบางส่งยิ้มละมุนตา ดวงตาดำขลับจดจ้องหญิงสาวทั้งสองคนนิ่ง ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆ
สองสาวมองหน้ากัน ไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีใครอยู่ตรงนั้น ลักษณะท่าทางของผู้สูงวัยกว่างามสง่านัก หญิงสาวทั้งสองคนเข้าใจเอาเองว่าสตรีสูงวัยคนนี้ น่าจะเป็นคนสำคัญของที่นี่ มือของทั้งคู่จึงยกขึ้นพนมมือไหว้ พร้อมกับยิ้มให้คนพูด
“เอ่อ... เราสองคนจะมาสมัครงานค่ะ”นลินดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ ปลายเสียงทอดอ่อน แววตาใสกระจ่างยามแย้มยิ้ม
อีกฝ่ายมองวงหน้าอ่อนใสนั้นอย่างพินิจ ดวงตาปรากฏรอยบางอย่าง ฉายประกายพราวระยับ ริมฝีปากเคลือบสีอ่อนแย้มน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยว่า
“เข้าไปข้างในสิ วันนี้คุณรวินท์อยู่พอดี”
“ใครคะ...คุณรวินท์”เนตรดาวเอ่ยถาม
“เจ้าของที่นี่น่ะสิ... อะไรกัน...จะมาสมัครงาน แต่ไม่รู้จักเจ้าของ”
น้ำเสียงมีแววตำหนิ สายตาตวัดมองคนถามอย่างดุๆแวบหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนท่าทีเมื่อเห็นอาการสะดุ้งน้อยๆกับหน้าแหยๆของอีกฝ่าย
“ดิฉันได้ยินว่าเจ้าของที่นี่ ชื่อคุณไรวัตไม่ใช่หรือคะ”
นลินดาถามเสียงเบา เหงื่อซึมหน้าผากทั้งที่อากาศในตอนนี้เย็นสบาย เนตรดาวสอดมือเรียวกำมือเพื่อนสาวแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในอุ้งมือ นลินดาหันมามองหน้าเพื่อน เริ่มรู้สึกตัวว่าตัวเองเผลอแสดงความรู้สึกบางอย่างออกไป จึงแสร้งกลบเกลื่อนไปว่า
“ไม่รู้มาก่อนเลยนะคะ ว่าตอนนี้เปลี่ยนเจ้าของแล้ว”
“คุณรวินท์เป็นน้องชายของคุณไรวัต ตอนนี้คุณไรวัตไม่ค่อยสบาย คุณรวินท์เลยมาดูแล สปานี้แทน”
คำตอบที่ได้รับทำเอาคนรอฟังหันมาสบตากัน
“มา...ฉันจะพาไปหาท่าน”
ว่าแล้วคนพูดก็เดินนำหน้าเข้าไปด้านใน นลินดากับเนตรดาวมองหน้ากันแล้วเดินตามคนบอกอย่างว่าง่าย สองสาวเดินตามพลางใช้สายตาสำรวจรอบๆไปด้วย ทางเดินด้านในทำเป็นสะพานไม้ทอดข้ามคูน้ำมีดอกบัวหลวงปลูกไว้ออกดอกสีชมพูเต็มไปหมด รูปปั้นสัตว์ชนิดต่างๆเรียงรายอยู่ในน้ำ บางตัวมีน้ำพุพุ่งออกมาจากปาก ละอองไอน้ำฟุ้งกระจายปลิวมากระทบผิวกายบางเบา ให้ความรู้สึกสดชื่นเย็นสบาย ปลาหางนกยูงหลากสีแหวกว่ายอวดสีสัน ช่วยสร้างบรรยากาศให้แลดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
“ด้านนั้นเป็นห้องทำทรีทเม้นท์ เดินผ่านไม่ได้ต้องอ้อมมาด้านข้างนี่” คนพามาชี้มือบอกพลางเดินนำไปอีกทาง
“ที่นี่กว้างขวางดีนะคะตกแต่งสวยด้วย”นลินดาชวนคุย
“ตรงนี้เป็นสาขาใหญ่เรียกว่าเป็นศูนย์กลาง ทุกสาขาต้องรับงานจากที่นี่ เวลาลูกค้าต้องการไปทำทรีทเม้นท์ที่สาขาไหน เราก็มีบริการรถรับส่งด้วยนะ ลูกค้าชอบกันมาก บอกว่าสะดวกดี”
คนนำทางบอกรายละเอียดอย่างครบถ้วน สายตาลอบมองหญิงสาวร่างบางผิวกระจ่างใสผ่านเงาในน้ำด้วยแววตาอ่อนโยนนัก สองสาวมัวแต่สนใจบรรยากาศโดยรอบ จึงไม่ทันสังเกตเห็นสายตาของอีกฝ่าย
“เจ้าของเขาบริหารเก่งแบบนี้นี่เอง ถึงได้ติดอันดับสปาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ”
เสียงแหลมๆของเนตรดาวดังขึ้น หญิงสาวยิ้มกว้างจนแลเห็นไรฟันขาวสะอาดเรียงเป็นระเบียบ รอยยิ้มดูสดใสร่าเริง ร่างของคนเดินนำชะลอฝีเท้าเดินเคียงคนพูด แตะมือกับบั้นเอวอีกฝ่ายอย่างถือสนิท เนตรดาวสะดุ้งโหยง รู้สึกร้อนวาบตรงบริเวณที่สตรีสูงวัยแตะราวกับโดนไฟฟ้าช็อต ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นเย็นยะเยือกเหมือนลมเย็นๆพัดวูบมา ขนแขนพร้อมใจกันลุกชันขึ้นโดยไม่ได้นัดหมาย สายตาตวัดมองเจ้าของมืออย่างหวาดๆ อีกฝ่ายยิ้มน้อยๆคลายมือที่โอบเอวออก ดวงตามีรอยขบขัน ขยับกายออกห่างไปเดินเคียงหญิงสาวอีกคน
“กว่าจะติดอันดับที่ว่า... ก็แทบล้มทั้งยืนมาตั้งหลายหน...”เสียงที่เอ่ยเนิบช้าหากกระแสเสียงแผ่วเย็นนัก
“ทำไมหรือคะ”นลินดาขมวดคิ้วจ้องมองคนบอก หญิงสาวไม่ทันสังเกตเห็นอาการของเพื่อนสาว ด้วยตั้งใจฟังเจ้าของสถานที่พูด
“ทำสปาน่ะ มันต้องเจอกับสารพัดปัญหา” ใบหน้าเรียวสงบนิ่ง หากแววตาเหม่อมองไปอย่างไร้จุดหมาย ราวกับอยู่ในภวังค์ความคิด
“การทำสปาให้ประสบความสำเร็จนี่ ทำยากขนาดนั้นเลยหรือคะ” นลินดาทำตาโตเมื่อได้ยินคำบอกเล่า ท่าทางสนอกสนใจกับเรื่องที่ได้ยิน
คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของคนฟังคลายลง สายตาทอดมองหญิงสาวร่างบางแลดูอ่อนโยนเจือความเอ็นดู ริมฝีปากบางแย้มออก ก่อนจะหันไปมองด้านหน้า แล้วหยุดเดินพลางชี้นิ้วบอก
“ถึงแล้ว...หนูสองคนเข้าไปเองนะ ตรงหน้าประตูห้องมีเลขา สอบถามกันเอาเอง”
สองสาวหันไปมองตามปลายนิ้ว บานประตูติดกระจกใสด้านในมีคนนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ข้างๆมีกองเอกสารกองใหญ่วางไว้ นลินดาหันกลับมาหาคนพามาส่ง แต่พบเพียงความว่างเปล่า ไม่มีร่างของผู้นำทางยืนอยู่ตรงนั้น
“ไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ยังไม่ทันได้ถามชื่อเลย”นลินดาบ่นงึมงำอย่างเสียดาย
“ไปสมัครงานกันก่อนเถอะ ถ้าได้ทำงานคงรู้จักกันเอง”
เนตรดาวรีบตัดบท มือลูบแขนตัวเองไปมา ความรู้สึกเย็นวาบยังคงอยู่และทำท่าจะลามปรามไปกว่าเดิม หญิงสาวพยายามสงบสติตัวเองระงับความรู้สึกแปลกๆในหัวสมองให้สงบลง จูงแขนเพื่อนสาวเดินไปยังจุดหมาย ก่อนจะเคาะกระจกสองสามครั้งขออนุญาตเจ้าของสถานที่ คนอยู่ด้านในเงยหน้าจากจอคอมพิวเตอร์ แล้วลุกขึ้นมาเปิดประตูรับ
“เราสองคนมาสมัครงานค่ะ”เนตรดาวรีบบอก
“เชิญด้านในก่อนค่ะ”
ประตูเปิดกว้างขึ้นให้ทั้งสองผ่านเข้าไปด้านใน ก่อนจะปิดลงดังเดิม เลขาสาวหน้าตาหมดจดผายมือไปยังเก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะทำงานของเธอ ก่อนจะหันไปเปิดตู้เก็บเอกสารด้านหลัง หยิบแบบฟอร์มการสมัครงานส่งให้
“เขียนประวัติและรายละเอียดการทำงาน อ้อ...แนบเอกสารสำคัญให้ด้วยนะคะ”
สองสาวรับแบบฟอร์มมาก้มหน้าก้มตากรอกรายละเอียดต่างๆอย่างตั้งใจ ระหว่างที่รอเลขาสาวจึงทำงานที่ค้างไว้ เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้น เจ้าของโต๊ะรีบรับสาย
“กรุ๊ปทัวร์จากญี่ปุ่นจะลงวันนี้ตอนสิบเอ็ดโมงค่ะคุณเรย์ เตรียมห้องไว้พร้อมแล้วค่ะ แต่คงต้องขอเทอราปิสจากสาขาอื่นมาช่วยสักสองคน ที่นี่คนไม่พอแคนดี้กับแอนนาลาป่วยค่ะ”
เสียงแจ้วๆรายงานเจ้านายสูงสุด นลินดากับเนตรดาวมองหน้ากัน ก่อนจะก้มหน้ากรอกแบบฟอร์มต่อ แต่หูของสองสาวก็แอบฟังเสียงสนทนาไปด้วย
