บทที่ 2
‘สวย’
นั่นคือความรู้สึกแรกที่เข้ามาปะทะ ก่อนที่ความอยากรู้จะเข้ามาแทนที่ แต่เขาก็มีมารยาทพอที่จะไม่ถามอะไร ด้วยรู้นิสัยของเพื่อนดีว่าสุดท้ายแล้ว มันจะเป็นฝ่ายเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟังด้วยตัวเอง
“ถ้าอย่างนั้นป้ากลับก่อนนะคะ ถ้าคุณนพเปลี่ยนใจให้คนไปบอกป้าไปตลอดเวลาเลยนะคะ ไปนังเพียง กลับ!” เพราะถูกขัดจังหวะเลยทำให้แก้วตาเกิดอาการหงุดหงิดไม่น้อย นางตัดสินใจหันไปตวาดใส่บุตรสาว ก่อนจะฉุดกระชากให้อีกฝ่ายลุกขึ้นเดินตามหลังกันออกไป
“อย่ามามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น! ยัยป้าที่เพิ่งจะลากลูกสาวเดินออกไปนั่นชื่อแก้วตา เมื่อสามเดือนก่อนแกมาขอกู้เงินจากพ่อฉันสองล้านโดยเอาบ้านมาค้ำประกัน แต่พ่อฉันเพิ่งจะมาจับได้ทีหลังว่าโฉนดที่เอามาค้ำมันเป็นของปลอม บ้านที่ว่านั่นน่ะขายไปตั้งนานแล้วก็เลยให้คนไปเรียกตัวมาคุย” คำอธิบายที่ยาวเหยียดของเพื่อนทำให้เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มาบ้าง แต่กระนั้นก็ยังอยากจะรู้ต่อ
“แล้ว…” พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เพื่อนรักที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนมาเป็นน้องเขยของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง ภาพจำของน้องสาวที่ได้พบครั้งสุดท้ายทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นมีความสุขแค่ไหนกับชีวิตคู่ มันทำให้เขาหมดห่วงแต่ก็ยังถือโอกาสที่ว่างจากงานในฟาร์ม ขับรถมาเยี่ยมทั้งคู่บ่อยๆ เมื่อมีโอกาส
“ป้าแกก็เลยจนปัญญา เที่ยวเอาลูกสาวมาเร่ขายไปทั่ว หวังจะหาเงินมาปลดหนี้พ่อฉันเพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องติดคุกตอนแก่” ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากอีกฝ่ายหาเงินสองล้านมาคืนพ่อของเขาไม่ได้ตามระยะเวลาที่ท่านกำหนด สถานที่ต่อไปที่จะต้องพากันไปซุกหัวนอนเห็นทีจะหนีไม่พ้นคุกอย่างที่ว่า จะสงสารก็แต่เด็กเพียงจันทร์นั่น ด้วยพอจะรู้จักนิสัยใจคอของอีกฝ่ายมาบ้าง ว่าเนื้อแท้ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรเลย หรือจะเรียกว่าดีผิดแม่ก็คงไม่เป็นการกล่าวหาที่เกินไปสักเท่าไหร่
